ผู้สื่อข่าวช่อง8 เดินทางมาที่บ้านนาทัน ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายพิรุณ ทานนพิมพ์ หรือ “บอม” อายุ 34 ปี แรงงานไทยที่ไปทำงานประเทศอิสราเอล ที่ล่าสุดทางแรงงานจังหวัดยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวได้พบกับนางนิภารัตน์ อายุ 64 ปีแม่ของนายบอม และนายแปลง อายุ 68 ปี พ่อของนายบอม อยู่ที่บ้าน ท่ามกลางญาติพี่น้องที่ทราบข่าวมาให้กำลังใจ
ขณะเดียวกันนางนิภารัตน์ แม่ของนายบอม พร้อมด้วยญาติๆ ต้องพึ่งพิธีกรรมโบราณ โดยการเรียกชื่อผ่านหม้อนึ่งตามหาคนหาย ซึ่งเป็นความเชื่อของคนอีสาน โดยในพิธีนางนิภารัตน์ ได้นำหม้อนึ่งข้าวเก่าที่ใช้นึ่งข้าวทุกวัน และตะโกนเรียกชื่อนายพิรุณ ทานนพิมพ์ หรือ บอม ใส่หม้อนึ่ง ซึ่งเป็นพิธีที่คนอีสานใช้เเรียกคนที่หลงทางกลับบ้านให้กลับภูมิลำเนา ตามความเชื่อโบราณ จากนั้นญาติก็ได้ทำพิธีสวดมนต์ โดยในระหว่างที่นางนิภารัตน์ ตะโกนเรียกชื่อลูกชาย ได้ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จนญาติต้องมาช่วยประครอง เพราะกลัวนางนิภารัตน์จะเป็นลม
นอกจากนี้ นางนิภารัตน์ ยังบอกเราอีกว่า หลังจากที่ไม่สามารถติดต่อลูกได้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องพึ่งพิธีกรรมโบราณเช่นเดียวกัน โดยการจุดธูป 21 ดอก บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางขอให้ลูกส่งข่าวมาหรือให้คนส่งข่าวลูกชายกลับมาภายใน 3 วัน 7 วัน จนกระทั่งวันสุดท้าย วันที่ 7 (วันที่ 14 ตค.66) ตนเองก็ได้จุดธูป 21 ดอก บอกกล่าวเจ้าที่ให้มีคนมาส่งข่าวลูกชาย ตกบ่ายเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด แจ้งว่า ลูกชายตนเองเสียชีวิตแล้ว
นางนิภารัตน์ บอกว่า เหตุที่ลูกชายต้องไปทำงานที่อิสราเอล ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เห็นค่าตอบแทนสูง
ก่อนที่ลูกจะไปทำงานที่อิสราเอล ตนเองได้ไปกู้ยืมเงิน จำนวน 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 8 ให้ลูกชายไปทำงาน จนกระทั่งลูกชายไปทำงานได้ไม่ถึงปีก็สามารถชำระหนี้จนหมด และลูกชายกำลังตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน เพื่อมาสร้างอนาคตใหม่ที่ไทย โดยลูกชายฝันว่า อยากชื้อรถยนต์กระบะดีๆให้พ่อกับแม่ใช้ และอยากสร้างบ้านใหม่ให้พ่อกับแม่อยู่ หลังจากที่บ้านหลังเดิมที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม รวมทั้งเก็บเงินมากลับมาทำฟาร์มวัวที่บ้าน
ก่อนหน้าที่ติดต่อลูกไม่ได้ ตนเองร้องไห้ทุกวัน ร้องไห้ไม่มีน้ำตา แต่พอเจ้าหน้าที่มาแจ้งข่าวร้าย ตนเองยังไม่เชื่อ จนกว่าจะเห็นร่างลูกชายหรือกระดูกที่ยืนยันว่าเป็นลูกชายตนเอง ทุกวันยังคงแชทข้อความไปหาลูกชายทุกวัน เพื่อหวังว่าลูกชายจะเปิดอ่าน
ขณะที่น.ส.พรทิพย์ หรือ เจียว ภรรยานายบอม บอกว่า ครั้งล่าสุดที่วิดีโอคอลคุยกับสามี คือช่วงเวลาตี 1 ของอิสราเอล สามีตื่นมาเข้าห้องน้ำ จึงได้วิดีโอคอลมาคุยกันประมาณ 11 นาที ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นสายสุดท้ายที่ได้คุยกัน
ส่วนเหตุผลที่สามีต้องไปทำงานที่อิสราเอล เพราะความจน อยากให้ครอบครัวสุขสบาย ตอนนี้ตนเองสับสนมากไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี ทั้งสามีก็มาเสียชีวิต และไม่รู้ว่าร่างจะกลับไทยวันไหน ส่วนแม่ของตนเองก็ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล เป็นมะเร็ง แม้แต่เวลาทำใจตนเองก็ยังไม่มี