ทีมข่าวช่อง 8 ได้วิดีโอคอลคุยกับนายสิทธิโชค หรือดิว ที่รอดชีวิตพร้อมกับเพื่อน 2 คน และเป็นเพื่อนร่วมงาน "นายพิรุณ หรือบอม" ที่เสียชีวิต โดยนายสิทธิโชคเล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุให้ฟังว่า ตนอยู่ในแคมป์ที่คีบุส “นีโอส” โดยภายในแคมป์มีคนไทยทั้งหมด 19 คน โดยพักอยู่ 2 ตึก ตึกละ 6 ห้อง หันหน้าเข้าหากัน และมีห้องพักอีก 2 ห้องอยู่ท้ายสุด ส่วนบังเกอร์และห้องครัวจะอยู่ด้านหน้า ติดกับประตูเข้าออก
นายสิทธิโชค เผยว่า โดยในตึกก็จะมีห้องพักส่วนตัวของแต่ละคน เรียงตามกันดังนี้ ห้องฝั่งซ้ายมือ มีทั้งหมด 6 ห้อง
ห้องที่ 1 "นายดรีม" ชาวลำปาง
ห้องที่ 2."นายนิก"ชาวจังหวัดนครพนม กับ"นาย ตุ๊ " ชาวเชียงใหม่
ห้องที่ 3. "นายโบ้" คนเหนือ ไม่ทราบจังหวัด
ห้องที่ 4. "นายตี๋" กับ "นายปั๊บ" ไม่ทราบจังหวัด
ห้องที่ 5. "นายทัช" ชาวกำแพงเพชร
ห้องที่ 6. "นายสิทธิโชค โยธาธร หรือ ดิว (รอด) กับนายพิรุณ ทานนพิมพ์ ชาวจังหวัดอุดรธานี (ยืนยันล่าสุดเสียชีวิต)
ส่วนห้องฝั่งขวามือ มีทั้งหมด 6 ห้อง ดังนี้
ห้องที่ 1. "นายทูล" ไม่ทราบจังหวัด
ห้องที่ 2. "นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ (พงษ์)เสียชีวิต กับ "นายเสถียร" ไม่ทราบจังหวัด
ห้องที่ 3. "นายเอก"ชาวหนองคาย กับ "นายชัย" ชาวอุบล
ห้องที่ 4 - 6 เป็นห้องน้ำ
และยังมีห้องพักอีก 2 ห้อง อยู่ด้านหลังติดกัน ซึ่งเป็นห้องพักใหญ่ โดยห้องฝั่งซ้ายมีพัก 2 คน คือ
1."นายเกอร์"ไม่ทราบจังหวัด (รอด) กับ"นายเอฟ"ไม่ทราบจังหวัด
ส่วนห้องฝั่งขวา มี 3 คน
1."นายอภิชาต กุวะรัมย์ (ยา) เสียชีวิต
2.นายพิชิต นาจันทร์ (สดใส) เสียชีวิต
3."นายไก่"ไม่ทราบจังหวัด (รอด)
นายสิทธิโชค เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองและนายเกอร์ออกไปทำงานตั้งแต่ตี 1 ส่วนนายไก่ ไปนอนอยู่กับเพื่อนอยู่อีกแคมป์ จึงทำให้ตนเองและนายเกอร์รวมทั้งนายไก่รอดชีวิต ขณะที่นายพิรุณ ทานนพิมพ์ หรือบอม ยังนอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ อีก 16 คน ซึ่งปกตินายพิรุณจะตื่นประมาณ 06.40 น. ทุกวัน เพื่อตื่นมาทำงานในช่วงสาย แต่วันนั้นตนเองทราบว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกเข้าไปกราดยิงคนที่เหลือในบังเกอร์ ตอน 06.10น. ซึ่งทางการอิสราเอลยืนยันว่าทั้ง 16 คนไม่มีใครรอดชีวิต
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านของนายธนกฤจฒ์ แรงงานไทยที่เสียชีวิตในประเทศอิสราเอล พบนายไวพจน์ อายุ 58 ปี พี่ชายคนโต เล่าว่า บ้านนี้อยู่กันสองคนกับธนกฤจฒ์ พร้อมกล่าวว่า ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นความจริง และจะยังไม่จัดงานใดๆ จนกว่าจะเห็นร่างน้องชายกลับมาบ้าน ถึงแม้ทางการกงสุลและจังหวัดจะยืนยันแล้วก็ตาม ระหว่างที่พูดคุยกับผู้สื่อข่าวได้ถือรูปน้องชายไว้ตลอด บอกว่าเป็นน้องคนเล็กมีพี่น้องรวมกัน 8 คน พ่อแม่เสียไปหมดแล้ว โดยน้องเป็นคนขยันและร่าเริง ตอนนี้ก็เหลือแต่เตียง และของใช้ของน้องไว้ให้ดูต่างหน้า
นายไวพจน์ กล่าว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ อยากวิงวอนให้น้องกลับมาไวๆ คิดถึงมาก อยากทำนาปลูกผักด้วยกัน ยิ่งตอนดูไลฟ์สดที่น้องส่งมาครั้งสุดท้าย ยิ่งสงสารน้อง เพราะปกติน้องจะวิดีโอคอลมาคุยเสมอ 2 -3 วันครั้ง และเล่าว่า ธนกฤจฒ์ ไปทำงานที่อิสราเอลด้านการเกษตรเก็บผัก ผลไม้ ตามฤดูกาล ตั้งใจเก็บเงินไว้จะมาปลูกโกโก้และกาแฟที่นาข้างบ้าน ได้เงินเดือนละ 4-5 หมื่นบาท จะส่งมาเข้าบัญชีของน้องเองทุกเดือนๆ ละ 3-4 หมื่นบาท ไปมา 4 ปีแล้ว ช่วงติดโควิดก็ทำงานที่นั่น อีกไม่กี่เดือนก็ครบกำหนดการจ้างก็จะได้กลับบ้าน และมีความตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกันสองพี่น้องในปั้นปลายชีวิต เพราะน้องไม่มีแฟน รักครอบครัว รักพี่น้อง แต่มาเกิดเหตุการณ์เสียก่อน