จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา และบ้านห้วยก้างปลาหมู่ที่ 13 ตำบลบ้านสา อำเภอเชียงม่วน ซัดคอสะพานขาด ชาวบ้านสูญหาย 7 ก่อนพบเสียชีวิต 5 ราย เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

โดยในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยกระแสน้ำได้กัดเซาะดินบริเวณคอสะพานจนขาดออกจากกัน ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลัง รวมทั้งพื้นที่ทำการเกษตร





แต่ที่น่าสลดใจ เมื่อมีชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย 7 ราย ก่อนจะพบผู้รอดชีวิตเพียง 2 ราย คือ นายชาย อายุ 52 ปี และนายไสว ทั้งสองเป็นชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลหนองหล่ม และในเวลาต่อมาพบร่างผู้เสียชีวิต 5 ราย คือ นายภาณุวัฒน์ อายุ 50 ปี, นางปาลิดา อายุ 44 ปี, นายศรัญ อายุ 22 ปี, นายภานุพันธ์ อายุ 50 ปี และ ด.ญ.กัญญารัตน์ อายุ 10 ปี ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายเป็นชาวเผ่าเย้าในพื้นที่บ้านห้วยกั้งปลา หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และเป็นคนในครอบครัวเดียวกันซึ่งปลูกบ้านอยู่เชิงเขา ก่อนจะถูกน้ำป่าพัดพาลงลำน้ำห้วยกั้งปลาหายไปทั้งครอบครัว ซึ่งทางญาติจะทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณีของชาวเขาเผ่าเย้าในวันพรุ่งนี้

รีบเผาแล้วศพผู้เสียชีวิต น้ำป่าพัดร่างจมน้ำ 5 ศพ เร่งด่วน (กลิ่นเหม็น)



วันนี้ 16 ต.ค 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายคเณศ คำนนท์ นายอำเภอเชียงม่วน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ หน่วยงานทุกภาคส่วน ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อฌาปนกิจเผาร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเป็นครอบครัวเดียวกันตามประเพณีชาวพุทธ เนื่องจากศพผู้เสียชีวิตส่งกลิ่นเหม็นจึงทำการฌาปนกิจโดยเร่งด่วน

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายที่ทำการฌาปนกิจ
นายภาณุวัฒน์ อายุ 50 ปี (เสียชีวิต)
นางปาลิดา อายุ 44 ปี (เสียชีวิต)
นายศรัญ อายุ 22 ปี (เสียชีวิต)



ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ทางญาติเจ้าหน้าที่ หน่วยงานต่าง ๆ ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีฌาปนกิจ เผาเมรุชั่วคราวบริเวณ เชิงเขาในสวนลำไยของผู้ตาย และอีก 1 ศพ คือนายภานุพันธ์ อายุ 50 ปี (เสียชีวิต) ทางญาติได้นำร่างไปทำพิธีทางศาสนาที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิด และในขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งค้นหาร่างของ ด.ญ.กัญญารัตน์ อายุ 10 ขวบ (เสียชีวิต) ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่พบ

เร่งระดมค้นหาผู้สูญหายอีก 1 ราย หลังน้ำป่าพัดถล่ม

นายเทวา ปัญญาบุญ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 นาย ต้องเข้าปฏิบัติการเร่งค้นหาผู้สูญหาย อีก 1 ราย ที่ยังไม่สามารถค้นพบได้ ในขณะนี้ คือ เด็กหญิงกัญญารัตน์ วัย 10 ขวบ หลังเกิดเหตุน้ำป่าพัดถล่มเมื่อวานที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถพบร่าง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังกันออกค้นหาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นยังได้มีการแบ่งกำลังเข้าทำการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนของ ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย โดยมีบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย อย่างสิ้นเชิง จำนวน 2 หลัง และเสียหายบางส่วนอีกจำนวน 2 หลัง



โดยญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนเองไม่ได้อยู่อาศัยอยู่ในบ้าน และได้ยินบอกเล่าจากทางน้องสาวว่าน้ำป่ามาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ไม่สามารถหนีได้ทัน โดยมีบ้านจำนวน 2 หลังที่ถูกน้ำพัดเสียหายทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตเป็นพี่เขยอีก 1 คน และอีก 4 คน บ้านอีกหลังหนึ่ง คือเป็นคนในครอบครัวเดียวกันหมด ทั้ง 5 คน และขณะนี้ร่างของ เด็กอายุ 10 ขวบ ยังค้นหาไม่เจอ และคาดว่าในวันนี้หน่วยงานคงจะมีการระดมค้นหา กันอีกรอบ



ขณะที่ญาติอีกคนซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณตีหนึ่งครึ่ง น้ำป่าดังกล่าวนั้นมาอย่างรวดเร็วจนทำให้ ครอบครัวของพี่ชายซึ่งอยู่บ้านตรงข้ามกันไม่สามารถหนีได้ทันเพราะขณะที่เกิดเหตุนั้นเห็นพี่ชายยืนอยู่บนบันไดแต่ก็ไม่สามารถที่จะออกมาได้จากนั้นน้ำก็ได้พัดไปทั้งหมดรวมทั้งตัวบ้านด้วย



ขณะที่ภรรยาผู้เสียชีวิตระบุว่า ขณะที่น้ำมานั้นสามีตนเองได้เดินทางลงมาดูรถที่จอดไว้บริเวณใต้ถุนบ้านแต่ปรากฏว่าได้มีน้ำป่าดังกล่าวมาอย่างรวดเร็วพัดร่างไปพร้อมกับรถยนต์ ส่วนตนเองนั้นวิ่งหนีออกมาได้ทันก่อนที่น้ำจะพัดพาบ้านทั้งหลังออกไป

ขณะที่นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ระบุว่า ตอนนี้ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนได้ทำการแบ่งเป็น 2 ชุดโดยชุดแรกจะเป็นการเร่งระดมค้นหาผู้สูญหายซึ่งจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมามีข่าวลือว่า มีการพบร่างผู้สูญหายแล้วแต่โดยข้อเท็จจริงยังไม่สามารถที่จะพบผู้สูญหายซึ่งเป็นเด็กวัย 10 ขวบดังกล่าว และอีกส่วนหนึ่ง ก็จะให้เร่งระดมทำการฟื้นฟูบ้านเรือนตลอดจนถึงทำความสะอาดบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากดังกล่าว โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการใน 3 กระบวนการคือ 1 เร่งค้นหาผู้สูญหาย 2 ฟื้นฟูบ้านเรือนชาวบ้านและอีกส่วนหนึ่งทางสาธารณสุขได้เข้าตรวจสภาพจิตใจของชาวบ้านรวมทั้งตั้งจุดบริการตรวจสุขภาพให้กับชาวบ้าน

โดยล่าสุดในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหาย โดยในหมู่บ้านดังกล่าว มีผู้เสียหายในหมู่บ้านจำนวน 5 ราย และพบศพแล้วจำนวน 4 รายเหลืออีก 1 รายซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ยังไม่พบร่าง ขณะที่การฌาปนกิจศพจะมีการดำเนินการหลังจากที่สามารถค้นพบร่างของผู้สูญหายอีก 1 ราย จึงจะทำพิธีตามประเพณีของชาวเขาเผาเมี่ยนต่อไป