จากกรณีสาวเจ้าของเต็นท์รถมือสอง ย่านกาญจนาภิเษก ถูกหนุ่มหล่อที่มาในคราบของลูกค้า เข้ามาซื้อรถก่อนตีสนิทและคบหาเป็นแฟนกัน สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวเสียเงินไปแล้วกว่า 6 ล้านบาท นั้น
สาวเต็นท์รถแฉถูกลูกค้าลวงรัก สูญ 6 ล้าน
ล่าสุด (16 ตุลาคม 2566) มีรายงานว่า นางแคท (นามสมมติ) อายุ 41 ปี เล่าว่า เธอนั้นถูกหนุ่มหน้าตาดีเข้ามาตีสนิทในคราบของลูกค้าที่ติดต่อมาซื้อรถ จนสุดท้ายตกลงคบหาเป็นแฟนกันและมารู้ตัวอีกทีต้องสูญเงินไปกว่า 6 ล้านบาท พอสืบประวัติพบว่าผู้ชายคนนี้คือมิจฉาชีพที่เคยมีคดีฉ้อโกงและหลอกหญิงสาวผู้เสียหายอีกหลายราย
โดยนางแคท เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับนายบอลเมื่อปี 2564 ซึ่งตอนนั้น นางแคทเป็นหุ้นส่วนของเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ซึ่งจากการพูดคุยกับนายบอล นายบอลอ้างว่าตัวเองนั้นทำธุรกิจรถเช่า จะต้องหารถมาปล่อยเช่ารายเดือนให้กับผู้บริหารต่างชาติ นายบอลจึงได้มาติดต่อขอซื้อรถ BMW ซึ่งนางแคทได้ประกาศขายรถดังกล่าวในราคา 1,397,000 บาท
แต่ตอนนั้นนายบอลบอกว่าตัวเองนั้นติดแบล็กลิส จึงไม่สามารถใช้ชื่อนายบอลในการซื้อรถได้ และจะใช้ชื่อของ น.ส.นก ที่เป็นรุ่นน้องของนายบอลในการซื้อรถแทน ปรากฏว่า น.ส.นก นั้นมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ยอกรวมกว่า 50,000 บาท นางแคท (ผู้เสียหาย) จึงเสนอไปว่า ตนจะปิดยอดบัตรเครดิตให้ หลังจากทำการซื้อขายรถแล้วค่อยมาใช้คืนกันทีหลัง ซึ่งนายบอล และ น.ส.นก ก็ตกลงตามนั้น หลังทำการซื้อขายรถเสร็จแล้ว น.ส.นก ก็ได้เอาบัตรเครดิตใบเดิมที่นางแคทปิดให้ มารูดใช้หนี้คืนกับนางแคทจำนวนเงิน 40,000 บาท ทำให้เหลือหนี้อีก 10,000 บาท ซึ่งนายบอลก็บอกว่าเดี๋ยวจะใช้คืนให้ ซึ่งหลังจากนั้นนายบอลก็ได้ติดต่อมาอีกรอบ แต่ไม่ได้ติดต่อมาเพื่อคืนเงิน
ปรากฏว่านายบอลได้ติดต่อมาขอซื้อรถอีกคัน เป็นรถเบนซ์ในราคา 1,100,000 บาท แต่ว่ารถสามารถจัดไฟแนนซ์ได้เพียง 1,030,000 บาท ทำให้บอลต้องวางเงินดาวน์ 70,000 บาท ซึ่งระหว่างที่นายบอลกำลังหาเงินมาดาวน์รถ นายบอลก็ออกอุบายขอยืมเงินนางแคทอีก 130,000 บาท ตอนนั้นนางแคทก็โอนเงินไปให้ เพราะหวังว่าจะได้ขายรถเบนซ์คันดังกล่าว ทำให้นายบอลเป็นหนี้ตน 212,000 บาท
หลังจากนั้นนายบอลก็โอนเงินมาคืนจำนวน 10,000 บาท ทำให้นางแคทเชื่อใจและคิดว่านายบอลไม่ได้โกงอะไร จึงให้นายบอลยืมเงินไปอีก 142,000 บาท เพราะบอกว่าจะขอซื้อรถอีก 4 คัน จากการที่ตนให้นายบอลยืมเงินบ่อย ๆ ทำให้เต็นท์รถที่นางแคทเป็นหุ้นส่วนอยู่เริ่มรู้สึกตะหงิดใจ ส่งผลให้นางแคทและเจ้าของเต็นท์รถดังกล่าวเกิดมีปากเสียงกัน นางแคทจึงต้องลาออกจากการเป็นหุ้นส่วนเต็นท์รถย่านราชพฤกษ์ และมาเปิดเต็นท์รถของตัวเองย่านกาญจนภิเษก
หลังจากที่เจอปัญหารุมล้อม ก็มีนายบอลที่ได้เข้ามาช่วยปลอบใจ คอยพูดให้กำลังใจ บางครั้งก็มาช่วยงานภายในเต็นท์ จนทำให้นางแคทเริ่มรู้สึกหวั่นไหวและรู้สึกดีด้วย ยิ่งตอนที่พี่สาวของนางแคทป่วยติดเตียง ก็ได้นายบอลนี่แหละที่เข้ามาช่วยเหลือและดูแลพี่สาวของตน ทำให้ตนนั้นตายใจและรู้สึกประทับใจในตัวนายบอล ซึ่งต่อมาไม่นานนายบอลก็ได้มาขอยืมเงินอีก 400,000 บาท โดยที่ยังไม่คืนของเก่า ซึ่งนายบอลอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน ด้วยความที่ตนเริ่มรู้สึกดีและเห็นว่านายบอลดูแลครอบครัวของตน นางแคทจึงให้ยืมเงินไป และหลังจากนั้นนางแคทก็ได้ตกลงคบหาดูใจกับนายบอล แรก ๆ นายบอลก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งพาไปกินข้าวกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่, พาพานธูปแพเทียนแพมาไหว้แม่นางแคท และบอกว่าจากนี้จะขอดูแลนางแคท ยิ่งทำให้นางแคททั้งรักและเชื่อหมดใจว่านายบอลเป็นคนดี
แต่หลังจากนั้น คนรอบข้างของนางแคทเริ่มสงสัยกับพฤติกรรมของนายบอล จึงได้ไปสืบหาประวัติของผู้ชายคนนี้ ปรากฏว่านายบอลเคยหลอกผู้หญิงมาหลายคน ที่ผ่านมานายเอ็มนั้นโกหกมาโดยตลอด ซึ่งกว่าที่ตนจะรู้ตัวก็สูญเงินไปแล้วกว่า 6 ล้านบาท หลังจากนั้นนางแคทก็ได้เลิกรากับนายบอล หลังจากเลิกราก็ได้มีการทำสัญญากันในเรื่องของการชดใช้หนี้จำนวน 6 ล้านบาท โดยนายบอลก็ได้เซ็นยินยอมที่จะใช้หนี้ แต่หลังจากนั้นนายบอลก็เหมือนจะไม่ค่อยจ่ายหนี้ให้ตามที่ตกลงไว้ ทำให้นางแคทต้องติดต่อไปทวงเงินแทบทุกครั้ง ก็จะได้มาอาทิตย์ละไม่กี่พันบาท
วันนี้ที่นางแคทออกมาแสดงตัว ก็เพื่อที่จะมาแชร์อุทาหรณ์ให้กับหลาย ๆ คนที่กำลังเผชิญเหตุการณ์เดียวกันกับเธอ และอีกเหตุผลคือเธอกำลังจะมีลูกใกล้คลอดเดือนหน้า เธอจึงอยากทวงเงินจากนายบอล เพื่อไปโป๊ะหนี้นอกระบบ เพราะเมื่อก่อนเธอต้องกู้เงินนอกระบบมาให้นายบอลใช้จ่าย วันนี้จึงอยากเอาเงินที่เสียไปมาเคลียร์หนี้สินให้หมด เพื่อที่เธอจะได้หมดกังวลและจบกับเรื่องนี้เสียที
หนุ่มโต้ลวงรัก 6 ล้าน ขอเวลาเปิดหน้าสู้
เพื่อความเป็นธรรม ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายบอล (นามสมมติ) โดยนายบอลเปิดใจว่า เบื้องต้นนายบอลนั้นได้เตรียมเอกสารที่เป็นหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว และหลังจากนี้ก็จะมีการไปยื่นฟ้องกับศาลอย่างแน่นอน เพราะนางแคทได้ออกมาใส่ความว่าตนนั้นเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ถ้าจะบอกว่าตนนั้นหลอกลวง ตนก็มีหลักฐานทุกอย่างว่าตนไม่เคยโกหกหลอกลวงใคร ที่บอกว่าตนเป็นเจ้าของกิจการรถบัส ตนก็มีเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ซ้ำนางแคทก็ได้ไปซื้อพร้อมกับตนด้วยซ้ำ ส่วนที่นางแคทออกมาแฉว่า นายบอลนั้นเคยถูกดำเนินคดีฉ้อโกง นายบอลก็ขอชี้แจงในส่วนนี้ โดยยอมรับว่าตนเคยถูกดำเนินคดีจริง ๆ แต่ถูกดำเนินคดีเนื่องจากธุรกิจที่ตนเคยทำเกิดภาวะติดขัดในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และไม่ได้มีใครได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จึงไม่เข้าใจว่านางแคทจะเอาเรื่องนี้มาขุดคุ้ยทำไม
ในส่วนของเรื่องหนี้สิน 6 ล้านบาท นายบอลขอยืนยันว่าเป็นตัวเลขที่มากเกินความจริง แต่ที่ตนเซ็นยินยอมไปก็เพราะอยากให้เรื่องมันจบ แต่ตอนที่เซ็นเอกสาร นางแคทไม่ได้ระบุมาว่าเป็นเงินทั้งสิ้น 6 ล้านบาท แต่นางแคทจะให้ตนเซ็นสัญญาทีละฉบับ โดยมีทั้งสิ้น 10 ฉบับ แบ่งเป็นฉบับละ 6 แสนบาท แต่โดยส่วนตัวนายบอลมองว่า ตัวนายบอลเองติดหนี้นางแคทเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านเศษ ๆ ซึ่งในจำนวนนี้ก็ได้ผ่อนจ่ายไปแล้ว 6-7 แสนบาท หลังจากนี้หากนางแคทจะทวงเงินคืน ก็คงต้องให้นางแค่เอาหลักฐานการโอนเงินมาแสดง ว่าแท้จริงแล้วนางแคทได้โอนเงินให้ตนเท่าไหร่ แล้วตนก็จะจ่ายตามจำนวนที่ปรากฏตามหลักฐานการโอนเงิน
ตอนนี้นายบอลยอมรับว่ารู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้เรื่องดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจที่ตนทำอยู่ เรื่องจากคนรอบข้างก็จำเสียงและรูปร่างของตนได้จากการที่ดูข่าว ซ้ำตนยังไม่เคยได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของตนเลย จึงอยากขอให้ทุกคนให้ความเป็นธรรมกับตนหน่อย และขอให้รอวันที่ตนจะออกมาชี้แจงพร้อมหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ตนจะออกมาชี้แจงแน่นอน และยืนยันว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้มีส่วนผิดเพียงคนเดียว