นายสุทธิภัทร แสนซุ้ง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดน่าน ได้เล่าว่า บาดแผลที่แขนเจ็บเกิดจากการทำงานและล้ม หลังจากผ่าตัดมาได้ 2-3 วันก็เกิดเหตุการณ์ ความไม่สงบ ซึ่งตอนนั้นตนกำลังอยู่ในที่พัก ปรากฏว่าได้ยินเสียงระเบิด จากนั้นกลุ่มฮามาสขับรถไล่ยิงคน และเข้ามาไล่ยิงในแคมป์คนงานเลย ไม่ได้สนว่า คนไทยหรือคนอิสราเอลเขายิงหมดเลย เมื่อเข้ามาตนจึงกระโดดหน้าต่าง เพื่อเอาชีวิตรอด

จากนั้นตนต้องไปหลบอยู่ในป่ามะเขือ ประมาณ 2-3 วัน ยอมรับว่าที่ผ่านมารอการช่วยเหลือนานมาก อยู่ในแคมป์คนงานได้ 2-3 วัน เขาก็บุกมาหนักเรื่อยๆ เราจึงต้องหนีออกไป เจอทหารอิสราเอลเขาพาไปส่งไว้อีกที่หนึ่ง ก็ถูกขายแรงงานให้ทำงานอีกที่หนึ่ง เหมือนกับเขาบอกว่าขอให้ช่วยงานตรงนี้ก่อนรอเหตุการณ์สงบ แล้วค่อยกลับมาทำงานที่แคมป์เดิมต่อ แต่เราอยู่ไม่ได้แล้ว อยากกลับบ้านอย่างเดียว เราจึงต้องโทรหาแท็กซี่ให้มารับไปส่งที่สนามบิน แล้วติดต่อทางสถานทูต พาพวกเราไปอยู่โรงแรมและจึงได้คิวเดินทางกลับไปวันนี้

 

ล่าสุดวันนี้ (16 ต.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่ บ้านบ่อหอย บนภูเขา ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เนื่องจากได้ข้อมูลมาว่า ตามรายชื่อ 130 คน ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย มีคนจังหวัดน่าน กลับมาในรอบนี้ถึง 16 คน ก็คือ

 

1.นายสมบัติ คงเกียรติสกุล 2. นายจิโรตม์ แซ่ม้า 3. นายกิตติพงศ์ คำปันปู่ 4. นายศรัณยู แสนซุ้ง 5. นายสมศักดิ์ หาญสกุลเงิน 6. นายวิชาญ แซ่ท้าว 7. นายสุทธิภทัร แสนซุ้ง 8. นายบุญช่วย แสงศิราเพชร 9. นายอนุชา แสนคำแพ 10. นายอรุณ แซ่โซ้ง 11. นายสุรศักดิ์ ลีปรีชา 12. นายทศพล แซ่เฮ้อ 13. นายพัณกร แซ่เฮ้อ 14. นายชาตรี วจนะนิจ 15. นายสุเทพ แซ่ว่าง 16. นายวิชา ทรงพิริยกุล

 

น.ส.เต้า แสนโซ้ง อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายศรัณยู บอกว่า สามีไปทำงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2565 ซึ่งระหว่างที่สามีไปทำงานกว่าสองปี สามีก็เคยโทรมาบอกว่าได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิด แต่เป็นเรื่องปกติของคนอิสราเอล ที่ผ่านมาหากไม่มีสงคราม สามีจะส่งเงินกลับมาบ้านเดือนละ 30,000 บาท

 

ส่วนวันเกิดเหตุ ก็คือวันที่ 7 ตุลาคม ประมาณ 10 โมงเช้า สามีโทรมาบอกว่า มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นใกล้กับแคมป์คนงาน กระทั่งนายจ้าง ได้สั่งให้สามีเข้าไปหลบอยู่ในห้องพักคนงาน จากนั้นสามี ก็ขาดการติดต่อไป กระทั่งประมาณ 2 ทุ่ม สามีได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งอีกครั้งว่าหลบอยู่ในป่า จากนั้นก็ขาดการติดต่อไปอีก ยอมรับว่าตอนนั้นเป็นห่วงสามีมาก ไม่กล้าบอกพ่อและแม่ว่าสามีไม่ปลอดภัย

 

จนกระทั่งเช้าวันที่ 8 สามีได้วีดีโอคอลมาหา โดยบอกว่าไม่มีใครมาช่วย ติดต่อกับนายจ้างไม่ได้ ต้องเดินไปที่ศูนย์อพยพเอง ซึ่งตนเองก็ลุ้นตลอดทางให้สามีปลอดภัย แต่ปรากฎว่า ในขณะที่สามีไปถึงศูนย์อพยพ เพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทย จู่ๆนายจ้าง ก็จะเข้ามารับตัวไปทำไร่ที่ทางตอนใต้ ซึ่งสามี ยืนยันว่าไม่ไป ก็เลยได้เดินทางกลับมาในวันนี้ ส่วนตัวดีใจมาก ที่สามีตัดสินใจเดินทางกลับมา เนื่องจากลูกคนโต พอดูข่าวก็ถามถึงพ่อตลอดว่าจะกลับมาเมื่อไหร่

 

เปิดภาพนาทีทรหด คนไทยเดินฝ่าแดด 50 องศาหนีฮามาส ถ้าซุ่มในแคมป์ก็เป็นผี