ผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้น ร้องทนายรณรงค์ หลังสูญเงินไปกว่า 5,000 ล้านบาท
17 ต.ค. 66 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลุ่มผู้เสียหายจาก Worldclass Financial Intelligence (WCF) เกือบ 10 ราย นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นเงินเก็งกำไรเงินตราต่างประเทศกับโบคเกรอใช้ชื่อว่า worldclass financial interlligence สูญเงินร่วมกันกว่า 5,000 ล้านบาท มีผู้เสียหายเกือบ 5,000 คน
นายโอ๋ นามสมมุติ อายุ 50 ปี อาชีพอิสระ หนึ่งในตัวแทนกล่าวว่า ตนรู้จักโบรคเกอร์ดังกล่าวจากเพื่อนสนิทเข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุนกับโบรคเกอร์เกี่ยวกับการเก็งกำไรเงินตราต่างประเทศโดยจะได้ผลตอบแทนต่อเดือน 6-15 เปอร์เซ็นต์ จนกลางปี 65 ได้นำเงินเก็บไปร่วมลงทุน 1 พอร์ต เป็นเงิน 316,000 บาท เดือนแรกได้ผลตอบแทน 30,000 บาท เดือนต่อมาได้ 40,000 บาท
นอกจากนี้โบรคเกอร์ดังกล่าว ยังมีการจัดประชุมสัมมนาอยู่บ่อยครั้ง แทบทุกเดือนตามโรงแรมหรูมีคนเข้าร่วมงานกว่า 100 คนต่อครั้ง โดยมีดร.ภานุวัชร ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ก่อตั่งโบรคเกอร์ดังกล่าวมาสอนเทรดการเก็งกำไรเงินตราต่างประเทศ โดยอ้างว่าตนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศ สาขาการเงินคณะพาณิชย์และการบัญชี
นอกจากนี้ยังเป็นคนคิดค้นวิชา BFI การบริหารจัดการการเงินแนววิธีพุทธ ตนเห็นว่าน่าเชื่อถือคนระดับดร.คงไม่มาโกงเงินแน่จึงได้ร่วมลงทุนไป หลังจากนั้นจึงได้ไปชักชวนพ่อมาร่วมลงทุนด้วยอีก 1 พอร์ต โดยเอาที่ดินไปกู้เงินจากธนาคาร แต่หลังจากนั้นผ่านไป 4 เดือน กลับไม่ได้รับเงินปันผล จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทางตัวแทนโบรคเกอร์ดังกล่าว แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงอ้างว่าที่จ่ายเงินปันผลกำไรไม่ได้ เพราะระบบช่องทางการถอนมีสมาชิกเข้าไปเบิกถอนเป็นจำนวนมากให้รอไปก่อน จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแล้วได้สอบถามกับเพื่อนในกลุ่มที่ร่วมลงทุนด้วยกันก็พบว่ามีคนถูกหลอกเหมือนตนเป็นจำนวนมากจึงร่วมตัวกันเข้ามาร้องเรียนกับทางทนายความให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี
ด้านนายน๊อต อายุ 46 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เริ่มรู้จักกับโบรคเกอร์ดังกล่าวผ่านจากเพื่อนเข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุน แต่ตนไม่กล้าเพราะช่วงนั้นมีข่าวเรื่องการหลอกประชาชนลงทุน Forex 3d กระทั่งผ่านไป 3 ปี พอลองหาข้อมูลก็พบว่าโบรคเกอร์ดังกล่าวน่าเชื่อถือเพราะเขามีเจ้าของเป็นถึงดร.และยังมีการวางระบบเทรดเงิน นอกจากนี้ยังทำโครงการดรุณเศรษฐีคือการนำเด็กมัธยมปลายมาสอบเทรดเงิน ซึ่งผู้ชนะจะได้เงินรางวัล 316,000 บาท จึงหลงเชื่อร่วมลงทุนเป็นเงิน 316,000 บาทโดยได้เงินปันผลต่อเดือน 30,000-40,000 บาท แต่พอผ่านไป 3 เดือนกลับไม่ได้รับเงินปันผล
พอทราบถามไปทางโบรคเกอร์ดังกล่าวกับปิดตัวหนีติดต่อไม่ได้จึงรู้ว่าถูกหลอก หลังจากนั้นมีคลิปวีดิโอขอโทษเผยว่า คนถอนเยอะจึงมีปัญหา และอ้างว่าเป็นโบรกเกอร์น้องใหม่ไม่คิดว่าจะโตไว จึงไม่ได้มีแผนรองรับเมื่อมีเข้ามาถอนเงินเยอะ ให้สัญญาว่าจะแก้ไข ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะโกง แต่มีการบริหารผิดพลาด ทำให้การถอนเงินติดขัด และบอกว่าอย่าแจ้งความจะหาเงินมาคืนได้แน่นอน
นอกจากนี้ ทนายรณรงค์ ยังได้เปิดเผยภาพถ่ายระหว่างว่ามีรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั่งทานอาหารร่วมกับโบกเกอร์ดังกล่าว จึงทำให้ผู้เสียหายเป็นกังวลเนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอาจจะทำให้คดีล่าช้าหรือถูกปัดตกลงไปในที่สุด
นอกจากนี้ผู้เสียหายบางส่วนเคยไปร้องต่อ DSI แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า หลังจากนี้จะไปทวงถามความคืบของเรื่องนี้ที่ DSI อีกครั้ง และจะไปร้องเรียนกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มด้วย