จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมายังรายการดังรายการหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.จ๋า (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งสาเหตุเธอร้องเรียนคือ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้ถูกนายเดี่ยว อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมุติ) เพื่อนสาวชาวลาว ที่อยู่ร่วมหอพักเดียวกัน ทำร้ายร่างกายจนกระดูกโพรงจมูกแตก โดยสาเหตุเพราะเข้าใจว่า น.ส.จ๋า ได้ชักชวนให้ น.ส.ตุ๊กตา ไปรับงานเอ็นฯ วี (ชงเหล้า+ขายบริการทางเพศ) เนื่องจากนายเดี่ยวได้เห็นแชตที่ทั้งสองคนคุยกัน
จากคลิปดังกล่าวเป็นช่วงที่นายเดี่ยวได้ทำร้าย น.ส.จ๋า ในห้องพักที่ น.ส.จ๋า ได้ พักอยู่ร่วมกับ น.ส.ตุ๊กตา โดยระหว่างทำร้ายนายเดี่ยวได้มีการนำมีดขึ้นมาข่มขู่และต่อว่า น.ส.จ๋า ในลักษณะว่า น.ส.จ๋า ได้ชักชวนให้ น.ส.ตุ๊กตา ไปรับงานเอ็นฯ วี แต่ความจริงแล้ว น.ส.ตุ๊กตา เป็นคนพูดคุยกับลูกค้าที่มาติดต่องานและตกลงกับลูกค้าทุกอย่าง พอถึงเวลา น.ส.ตุ๊กตา ไม่ได้ไปตามนัดและโยนงานมาให้ น.ส.จ๋า แทน
จ๋าเล่านาทีถูกแฟนเพื่อนทำร้ายจนดั้งหัก เหตุเข้าใจว่าชวนเพื่อนสาวไปรับงานเอ็นฯ วี
น.ส.จ๋า ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนได้รู้จักกับ น.ส.ตุ๊กตา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่ง น.ส.ตุ๊กตา เป็นชาวลาวและเป็นเพื่อนของเพื่อนตน หลังจากรู้จักกันก็คุยกันจนสนิทสนมนั้นในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ตนปิดเทอม จึงได้เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ และได้มาพักอยู่ร่วมห้องพักเดียวกับ น.ส.ตุ๊กตา โดยช่วงแรกตนได้ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่หลังจากนั้น น.ส.ตุ๊กตา ได้ชวนให้ตนเข้ากลุ่มรับงานเอ็นฯ (เอ็นเตอร์เทนชงเหล้า) ซึ่งตนก็มองว่ามันได้เงินดีจึงได้เข้าไป
โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.ตุ๊กตา ได้มีการคุยกับลูกค้าในเรื่องของการรับงานเอ็นฯ แต่ลูกค้ารายนี้ได้มีการตกลงกับ น.ส.ตุ๊กตา เป็นลักษณะการรับงานเอ็นฯ วี จากนั้นเมื่อถึงเวลานัด น.ส.ตุ๊กตา ได้โยนงานมาให้กับตนและไม่ไปตามที่นัดกับลูกค้าไว้ ลูกค้าจึงได้ติดต่อกับตนและคุยกัน ซึ่งจากการคุยลูกค้าไม่ตกลงและไม่พอใจตน ต้องการให้ น.ส.ตุ๊กตา ที่คุยไว้ในตอนแรกเป็นผู้ไปรับงานตามที่คุยกันไว้ ตนจึงได้แชตไปคุยกับ น.ส.ตุ๊กตา เพื่อให้ไปทำงานที่ตกลงกับลูกค้าไว้
แต่หลังจากนั้นนายเดี่ยวซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ตุ๊กตา มาเห็นแชตที่ตนได้คุยกับ น.ส.ตุ๊กตา จึงเข้าใจผิดว่าตนเป็นผู้รับงานและชวนให้ น.ส.ตุ๊กตา ไปทำงานเอ็นฯ วี จึงไม่พอใจเป็นอย่างมากและโมโหตน จึงได้บุกมาที่ห้องที่ตนอยู่ร่วมกับ น.ส.ตุ๊กตา โดยเมื่อถึงห้องนายเดี่ยวได้เอาอาวุธ มีดมาขู่ตน และพูดในทำนองที่ว่าไม่พอใจที่ตนชวน น.ส.ตุ๊กตา ไปรับงานเอ็นฯ วี ตนก็พยายามที่จะอธิบายแล้ว แต่นายเดี่ยวก็ไม่ฟัง จากนั้นจึงได้เตะเข้าไปที่ใบหน้าของตนถึง 4 ครั้ง จนกระทั่งทำให้ตนดั้งหัก โดยที่ น.ส.ตุ๊กตา ก็ไม่ห้ามและไม่อธิบายให้กับนายเดี่ยวได้เข้าใจ ปล่อยให้นายเดี่ยวทำร้ายตน โดยยืนมองเฉย ๆ
เบื้องต้นตนได้แจ้งความไว้ที่ สภ. รัตนาธิเบศร์ เบื้องต้นเรียกค่าเสียหายกับผู้ก่อเหตุไป 30,000 บาท และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ตุ๊กตา แฟนสาวของนายเดี่ยว ยอมรับ เป็นคนรับงานด้วยตัวเอง
ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ น.ส.ตุ๊กตา ซึ่งเป็นเป็นแฟนสาวของนายเดี่ยวผู้ก่อเหตุ และเป็นผู้ที่แชตคุยกับลูกค้าที่เข้ามาติดต่องานเอ็นฯ วี โดย น.ส.ตุ๊กตา ได้เล่าให้ทีมฟังว่า ตนเป็นผู้คุยกับลูกค้าลูกค้าและตกลงในเรื่องการรับงานเอ็นฯ วี จริง โดยในตอนแรกตนก็ตัดสินใจว่าจะไปเอง แต่ในเดี่ยวซึ่งเป็นแฟนของตนได้ชวนไปดื่มเหล้าร้านเหล้า ตนจึงได้โยนงานให้กับ น.ส.จ๋า โดยให้ลูกค้าติดต่อกับ น.ส.จ๋า เอง ซึ่งหลังจากนั้น น.ส.จ๋า ก็ได้แชตมาบอกกับตนว่า ลูกค้าไม่ต้องการ ให้ น.ส.จ๋า ไปรับงาน แต่ต้องการให้ตนไปรับงานตามที่ตกลงกันไว้ แต่ตนไม่สะดวกที่จะไปเพราะอยู่กับนายเดี่ยว จึงได้ตอบปฏิเสธกับ น.ส.จ๋า ไป แต่ น.ส.จ๋า ก็พยายามคะยั้นคะยอให้ตนไปรับงานให้ได้
หลังจากนั้นนายเดี่ยวได้มาเห็นแชตที่ตนคุยกับ น.ส.จ๋า จึงเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากและโมโหมาก จึงได้ชวนตนให้เดินทางกลับไปที่ห้องและไปทำร้าย น.ส.จ๋า ซึ่งตนพยายามที่จะอธิบายแล้ว แต่นายเดี่ยวไม่ฟัง ตนจึงกลัวว่านายเดี่ยวจะมาทำร้ายตน จึงไม่กล้าพูดอะไร และในขณะที่นายเดี่ยวได้ทำร้าย น.ส.จ๋า ตนก็พยายามที่จะห้ามแล้ว แต่ไม่สามารถห้ามนายเดี่ยวได้
ในตอนนี้ตนได้ขอโทษกับ น.ส.จ๋า ไปแล้วและนายเดี่ยวได้ทราบเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว ว่าตนเป็นคนแชตคุยกับลูกค้าเอง โดยที่ น.ส.จ๋า ไม่ได้เป็นคนชวนให้ตนไปรับงานเอ็นฯ วี โดยตัวในเดี่ยวก็ได้ทักมาขอโทษกับ น.ส.จ๋า แล้ว และก็ได้บอกเลิกตัดขาดกับตนเพราะรับในสิ่งที่ตนทำงานเอ็นฯ วี ไม่ได้ โดยหลังจากนี้ตนก็จะเข้าไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้รับผิดหมายส่วนที่ได้ ร่วมก่อเหตุกับนายเดี่ยวไว้
จากนั้นทีมข่าวได้พยายามติดต่อกับนายเดี่ยว แต่นายเดี่ยวซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุไม่รับสายและไม่สามารถติดต่อได้ โดยจากคำบอกเล่าของ น.ส.ตุ๊กตา นายเดี่ยวจะยอมผิด กับข้อกล่าวหาทั้งหมด เพราะสาเหตุที่ทำเป็นเหตุเข้าใจผิด และไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย น.ส.จ๋า ได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้
น้าสาวของ น.ส.จ๋า เผย กลัวหลานจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แถมป่วยซึมเศร้ามา 4 ปีแล้ว
นางสาวศิริโสภา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี น้าสาวของ น.ส.จ๋า ยอมรับกับทีมข่าวว่า กลัวหลานจะไม่ได้รับความเป็นธรรมมาก ๆ และสงสารหลานด้วย เนื่องจากหลานมีภาวะเป็นผู้ป่วยซึมเศร้ามาได้ประมาณ 4 ปี ตั้งแต่แม่ของเขาประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิตแต่ไม่ได้รับความยุติธรรม ชีวิตของหลานก็จะอยู่กับพ่อของเขาที่ จ.ราชบุรี ซึ่งพ่อก็มีภรรยาใหม่ ทำให้ตนซึ่งเป็นญาติ ๆ ที่คอยช่วยเหลือ
กลายเป็นว่าพอมาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้อีก หลานก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมซ้ำซ้อน สภาพจิตใจหลานย่ำแย่มาก คุยกันทุกครั้งก็ร้องไห้ทุกครั้ง เพราะเขาไม่คิดว่าวันนึงเขาจะถูกทำร้ายแบบนี้ ส่วนเรื่องงานเอ็นฯ ครอบครัวไม่มีใครรู้ มาทราบภายหลัง ซึ่งหลานก็ยืนยันว่ายังไม่ได้เริ่มทำงาน เพียงแค่เข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟสบุ๊กเฉย ๆ และเหตุผลที่หลานเข้าไปอยู่ในกลุ่มและมีแพลนจะทำงานลักษณะนี้ เพราะเขาต้องการเก็บเงินเพื่อจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เนื่องจากครอบครัวยากจน
แล้วเหตุผลหนึ่งที่หลานต้องหาเพื่อนผ่านทางโซเชียล เพราะด้วยนิสัยของหลานแล้วเป็นคนไม่ค่อยเข้าหาใคร ขนาดที่โรงเรียนใน จ.ราชบุรี หลานก็ไม่มีเพื่อน บอกว่าชอบอยู่คนเดียวมากกว่า