จากรณีเด็กหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากพนัง ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต เนื่องจากถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟน ในระบบผ่อนจ่ายกับร้านค้าออนไลน์ และผ่อนจ่ายไปแล้วเกือบ 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์ จนรู้ว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนท่ามกลางความเศร้าสลดของพ่อแม่ ผู้ปกครองครองและญาติๆ รวมทั้งบรรดาเพื่อนๆ เหตุเกิดเมื่อ 15 ต.ค. 66
บรรยากาศงานศพช่วงเย็นวันนี้นางบุญเยือน อายุ 47 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ยังคงสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระหว่างจัดงานศพแม่น้องพลอยคิดถึงลูกก็ไปจับภาพของลูกในงานศพแล้วร่ำไห้ออกมา เป็นที่สะเทือนใจของคนในงาน
โดยมีแชตที่นางบุญเยือน อายุ 47 ปี แม่ของน้องพลอยได้พูดคุยกับลูกสาวก่อนเสียชีวิต เป็นแชตครั้งสุดท้ายในวันที่ 14 ตุลาคม น้องพลอยทักหาแม่ ระบุข้อความว่า “แม่นุ้ยว่าผ่อนโทรศัพท์ไอโฟน แม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผ่อนไปใช้ไป” จากนั้นมีการโทรพูดคุยกันและไม่ได้คุยกันอีกเลย จนน้องพลอยจบชีวิตลง
นอกจากนี้แม่ยังได้เปิดเผยแชตที่ได้พูดคุยกับลูก ซึ่งลูกมาปรึกษาเรื่องเรียนค่อมหาวิทยาลัย “แม่ ถ้าลูกเรียนรามที่กรุงเทพแม่ว่าไงไกลไปไหม” แล้วสักพักลูกก็เปลี่ยนใจและทักมาบอกว่า “ จะเรียนสงขลานะ ไม่เปลี่ยนใจแล้ว จะลองสมัครคณะนิติศาสตร์และพัฒนาชุมชนไว้นะ”
แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนสะเทือนใจมากที่ลูกสาวตนเสียชีวิต โดยตนเองมีลูกสองคน น้องพลอยเป็นลูกสาวคนโต ส่วนน้องกฤษเป็นลูกชายคนเล็ก ตนก็เพิ่งทราบเรื่องที่ลูกสาวผิดหวังจากการซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 13 จากทางร้านค้าออนไลน์แล้วโดนหลอก จนกระทั่งหาทางออกไม่ได้จบชีวิตด้วยการผูกคอตาย
ส่วนตัวเตรียมอะไรหลายอย่างให้ลูก แต่ลูกไม่อยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ตนก็เข้มแข็งเพื่อลูก และพยายามหาเงินให้ลูกในสิ่งที่ลูกอยากได้แบบไม่ตกบกพร่อง ก็รู้สึกตกใจหลังเห็นข้อความในจดหมายที่ลูกเขียนสั่งลา ว่าลูกผิดหวังเรื่องโอนเงินซื้อโทรศัพท์มือถือถึงจบชีวิต และฝากตนคืนเงินเพื่อนทั้งสอง ซึ่งตนได้พูดคุยทั้งนิวและเฟิร์นแล้งว่าจะคืนเงินที่ลูกสาวตนยืมมาหลังจบงานศพ
ตอนทราบเรื่องว่าลูกเสียชีวิต หลานเป็นคนโทรบอกตนว่า “น้องพลอยไปแล้ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ไม่กล้าดูศพลูกเพราะทำใจไม่ได้ เผยก่อนลูกเสียชีวิตได้คุยกันเรื่องโทรศัพท์เครื่องใหม่เพราะลูกสาวอยากได้ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ตอนแรกลูกอยากได้ไอแพดต่อมาเปลี่ยนใจอยากได้ไอโฟน ตนก็รับปากกับลูกจะซื้อให้สิ้นเดือน แต่ส่วนที่ลูกไปไปซื้อโทรศัพท์ทางร้านค้าออนไลน์ ลูกไม่เคยบอกตน เพียงแค่เกริ่นก่อ นหน้านี้ว่าแม่ว่ายังไงถ้าจะซื้อผ่อนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
ขณะที่ในแชตหลักฐาน ที่มิจฉาชีพหลอกเงินลูกตนให้โอนไปใหม่หลายครั้ง หากลูกมาปรึกษาตนสักนิด ยืนยันตนรักลูกจะไม่เอ็ดหรือดุลูก ซึ่งเรื่องของนางสาวดอกแก้ว ตนก็คิดว่าเขาอาจจะทำเป็นขบวนการหรือไม่ อาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ถ้าเขาไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ถือว่าเขาเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน
ส่วนตัวเชื่อมิจฉาชีพทำเป็นขบวนการ อาจมีปลายทางเส้นทางการเงินอยู่ต่างประเทศ แล้วจ้างคนไทยเปิดบัญชีหน้าม้าหรือไม่ อยากให้ตำรวจตามจับขบวนการนี้ทั้งหมด เพื่อให้การเสียชีวิตลูกของตนเป็นกรณีสุดท้ายที่เป็นเหยื่อขบวนการนี้
ต่อมานางสาวแพร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เพื่อนของน้องพลอย ได้เปิดเผยใบคะแนนผลการเรียนของพลอยในช่วงม.6 เทอม 1 ซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายที่พลอยเรียนก่อนเสียชีวิต โดยพลอยได้เกรดเฉลี่ย 3.53 วิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา ห้องสมุดเพื่อการศึกษา ดนตรีสากลปฏิบัติ ได้เกรดเฉลี่ย 4 ต่อรายวิชา
ส่วนภาษาไทย หลักภาษาไทย และศิลปะ ภาษาอังกฤษฟัง-พูด ได้เกรดเฉลี่ย 3.5 ต่อรายวิชา และภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ภาษาอังกฤษอ่านเขียน ได้เกรดเฉลี่ย 3.5 ต่อรายวิชา ซึ่งพลอยเป็นเด็กเรียนเก่งได้เกรดเฉลี่ยแต่ละวิชา เกรด 3 ขึ้น ไม่มี 2 และ 1
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวแพร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เป็นเพื่อนสนิทของพลอยตั้งแต่เรียนม.1 บอกว่า ตนเป็นเพื่อนสนิทกับพลอยตั้งแต่ม.1 จนเรียนจบม.3 ก็ตัดสินใจต่อสายเดียวกันกับพลอย สายศิลป์-คำนวน โดยเหตุผลที่พลอยตัดสินใจเรียนต่อสายนี้เนื่องจากพลอยเป็นคนชอบเรียนวิชาสังคม และมีความฝันอยากเรียนคณะนิติศาสตร์ เป็นทนายความ ใฝ่ฝันจะเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่ม.ทักษิณ จ.สงขลา
พลอยเป็นคนที่มีความจำดีมาก อ่านหนังสือแป๊ปเดียวจะจำได้หมด และยังเป็นคนมีน้ำใจติวสอบให้เพื่อนในกลุ่มอยู่เสมอ แถมเป็นคนจัดการปัญหาและความเครียดเก่ง ช่วยเพื่อนอยู่เสมอ แล้วพลอยเคยได้รับรางวัลการแสดงละครคุณธรรมของโรงเรียน แต่ในส่วนการจบชีวิตครั้งนี้ คาดเป็นปัญหาที่พลอยไม่เคยเจอ เลยจัดการความเครียดไม่ได้ จึงจบปัญหานี้ด้วยวิธีนี้ โดยอยากให้เพื่อนไปสบายสู่สุคติ