ลูก-เมีย สุดดีใจไม่เจอสามี 4 ปี กลับเมืองไทยปลอดภัย หลังถูกกลุ่มฮามาสปาดคอสาหัส

19 ต.ค. 66 นางสาววาสนา พิมพ์สุวรรณ อายุ 27 ปี ภรรยาของนายวิทวัส กุลวงศ์ หรือ แจ็ค อายุ 34 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล ที่รอดชีวิตหลังถูกกลุ่มฮามาสโจมตี ได้รับบาดเจ็บสาหัส พาลูกสาววัย 5 ขวบ มารอรับสามีที่ บน.6 ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันนี้ หลังทราบว่าสามีตะเดินทางกลับมากับเครื่องบินของกองทัพอากาศในช่วงบ่ายวันนี้

นางสาววาสนา เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังอีกครั้งว่าขณะที่เกิดเหตุฮามาสโจมตีอิสราเอล ติดต่อสามีไม่ได้หลายวัน เนื่องจากตอนที่สู้กับกลุ่มฮามาสแล้วสลบไป ถูกยึดโทรศัพท์และทรัพย์สินไปด้วย เพิ่งติดต่อกันได้ตอนที่สามีรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว

โดยสามีเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังทำงานอยู่บริเวณเล้าไก่ในแคมป์ ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 2 กิโลเมตร ถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้ามา โดยกลุ่มฮามาสกระจายตัวกันค้นหาคนในแคมป์ ซึ่งระหว่างที่เขากำลังพยายามหนี ก็ไปเจอกับกลุ่มฮามาส 1 คน ที่มาพร้อมอาวุธมีด พยายามจะจับเขาไปเป็นตัวประกัน ซึ่งก็คิดในใจว่าหากถูกจับไปคงไม่รอด จึงพยายามยื้อแย่งมีดจากกลุ่มฮามาส จนถูกแทงหลายจุด รวมถึงที่คอเป็นแผลลึก ทำให้สลบไปครึ่งชั่วโมง ฟื้นมาอีกทีก็ไม่พบกลุ่มฮามาสตรงนั้นแล้ว คาดว่าอาจจะคิดว่าเขาตายไปแล้ว จึงเดินตะเกียกตะกายไปขอความช่วยเหลือเพื่อน ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ต้องอดทนกับบาดแผลที่เจ็บเลือดไหลตลอด ซึ่งพอไปเจอเพื่อนก็พาไปสู่การก็ปฐมพยาบาล ก่อนที่นายจ้างจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่ 3 วัน กว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลแล้วประสานกลับไทยได้

วันนี้ที่จะได้เห็นสามีอีกครั้งในสภาพที่ปลอดภัย นางสาววาสนา บอกว่า รู้สึกดีใจจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก และโล่งใจ โดยหลังจากนี้จะไม่ให้สามีกลับไปที่นั่นอีกแล้ว คงจะหางานทำที่ไทย ส่วนลูกสาวก่อนหน้านี้ก็คอยถามหาพ่อตลอด เพราะสามีไปทำงานตั้งแต่ลูกอายุ 1 ขวบ ตอนนี้ลูก 5 ขวบแล้ว

โดยระหว่างที่รอนายวิทวัส ออกมา นางสาววาสนา ก็พาลูกมาเกาะกระจก โบกมือ ยิ้มให้ เพื่อให้ลูกได้พบกับพ่อด้วยความคิดถึง เนื่องจากนายวิทวัส ต้องรอกระบวนการตรวจเช็คบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บและทำแผลใหม่ก่อน จึงใช้เวลานานกว่าแรงงานคนอื่นๆ

กระทั่งเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศ ได้มาจูงมือลูกวัย 5 ขวบและพานางสาววาสนา เข้าไปพบกับนายวิทวัส

ซึ่งทันทีที่เจอกัน ภรรยาและลูกก็เข้าไปกอดนายวิทวัส และร้องไห้ด้วยความดีใจ เป็นอ้อมกอดแรกหลังจากไม่ได้เจอกันนาน 4 ปี

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำแผลให้กับ นายวิทวัสเสร็จสิ้น ก็มีกองทัพอากาศอำนวยความสะดวก ในการพาครอบครัวนี้ขึ้นรถตู้ไปส่งยังสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อต่อรถกลับจังหวัดอุดรธานี

โดยนายวิทวัส อุ้มลูกสาวและกอดลูกตลอดเวลา พร้อมบอกสั้นๆว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้กลับบ้าน