วันที่ 20 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า ร่างแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลชุดแรก 8 ราย ถึงไทยแล้ว ซึ่งถูกลำเลียงกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ด้วยสายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 083 ภายหลังสถาบันนิติเวชของอิสราเอลทำการชันสูตรแล้วเสร็จ

โดยไฟลท์บินนี้ออกจากอิสราเอลในวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 20.00 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 09.45 น.



สำหรับร่างคนไทย จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย

1. นายพงษธร ขุนศรี
2. นายพิชิต นาจันทร์
3. นายชัยรัตน์ สานุสันต์
4. นายอานันต์ เพชรแก้ว
5. นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ
6. นายอนุชา โสภากุล
7. นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์
8. นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์



ทั้งนี้ เมื่อทั้ง 8 ร่างถึงประเทศไทย ได้มีพิธีรับศพ โดยมี นายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ และนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมวางพวงหรีดในพิธี

นอกจากนี้ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมไว้อาลัย โดยมีบางช่วงที่ทูตอิสราเอลใช้มือปาดน้ำตาระหว่างวางหรีดด้วย

อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้เชิญ น.ส.วงเดือน ล้ำเลิศ น้าของนายอานันต์ เพชรแก้ว หนึ่งในแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากกรณีการสู้รบกันในประเทศอิสราเอล ที่เป็นตัวแทนแม่และภรรยามารับศพ เข้าร่วมพิธีด้วย



หลังจากทำพิธีไว้อาลัยและนำร่างขึ้นรถครบทั้ง 8 คัน ในเวลา 11.15 น. รถที่บรรจุร่างทั้ง 8 คันได้เคลื่อนออกจากอาคารคลังสินค้า ทางช่องทางที่ 4 ของสถานีตรวจสอบสินค้า เพื่อไปยังภูมิลำเนา ซึ่งมีรถนำขบวนออกไปส่งด้วย

สำหรับรถนำส่งศพ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือสุริยาหีบศพ โดยนายวิเชียร บุญช่วย หัวหน้าทีมลำเลียง เปิดเผยว่านำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ร่างกลับภูมิลำเนาทั้งหวัด 6 ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุโขทัย ศรีษะเกษ อุดรธานี (2 คน) ขอนแก่น (2 คน) โดยการดำเนินการวันนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้การรับร่างผู้เสียชีวิต ที่สนามบินจะไม่มีการแกะกล่องบรรจุร่าง แต่ผู้ขนย้ายจะดูจากเลขที่ใบขนย้ายและชื่อของผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่หน้ากล่อง จากนั้นก็จะเคลื่อนย้ายไปยังภูมิลำเนา ให้ญาติเป็นผู้เปิดกล่องพิสูจน์ตัวตน จากนั้นก็จะนำร่างผู้เสียชีวิตใส่โลงศพเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป



ญาติ "อนันต์" ร่ำให้ รับร่างส่งบ้านเกิด เห็นสภาพแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นหลาน ฝากหน่วยงานรัฐเร่งช่วยคนที่เหลือกลับไทย

นางวงเดือน ล้ำเลิศ อายุ 42 น้าของนายอานันต์ เพชรแก้ว แรงงานไทยชาวชัยภูมิ ที่เสียชีวิตในอิสราเอล เดินทางมาเป็นตัวเเทนของเเม่ผู้เสียชีวิต เพื่อรับร่างกลับภูมิลำเนา เนื่องจากตั้งเเต่ทราบข่าวนายอานันต์เสียชีวิต แม่ขอฃนายอานันต์ก็มีอาการทรุดลง ยังทำใจไม่ได้ จึงให้เป็นตัวเเทน เเม่ เเละ ภรรยามารับร่าง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นกระดูก หรือ เป็นร่าง เพราะก่อนหน้านี้ ที่หลานชายเป็นผู้สูญหาย ไม่มีรายชื่อของทางการ ต้องไปค้นหาตามเฟซบุ๊กของเพื่อนไล่เรียงเหตุการณ์ เเละก็ไปเจอผู้เสียชีวิตที่สภาพร่างเหลือเเต่กระดูก เเต่ก็ยังไม่รู้ว่าใช้ร่างของหลานหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีใครได้เห็น



นางวงเดือนยังเล่าถึงหลานชาย ว่า ไปทำงานด้านการเกษตรได้ 2 ปี 5 เดือน ก่อนหน้านี้เปิดโรงกลึงที่สมุทรปราการ เเต่เจอพิษโควิด จึงไปทำงานที่อิสราเอล ซึ่งเขาเป็นความภูมิใจของเเม่ ที่เป็นคนขยัน ทำงานส่งเสียเลี้ยงดูเเม่ ภรรยา เเละลูก ทางครอบครัวจึงเสียใจมาก เพราะเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว

"เรายังไม่มั่นใจเลยที่กลับมาเป็นศพเป็นหลานเราหรือเปล่า ถ้าจะอยู่ตรงไหนก็กลับบ้านเรา กลับมาหาแม่ กลับมาหาลูกกับเมีย"

นอกจากนี้ญาติผู้เสียชีวิตยังฝากถึงภาครัฐ ว่าขณะนี้ปัญหาสำคัญของเเรงงานไทย คือ อยากกลับ เเต่ยังกลับไม่ได้ อยากให้ช่วยเรื่องกระบวนการในการจัดการศพ เเละ เรื่องของการนำเเรงงานกลับสู่ประเทศไทย เข้าใจว่ามันต้องมีขั้นตอนต่าง ๆ มีกร ะบวนการ อยากให้เพิ่มเจ้าหน้าที่เขาไปช่วย ประสานงาน เพราะการติดต่อทางการค่อนข้างจะยาก



แม่แทบขาดใจ รับศพ "อานันต์" เชื่อลูกชายจะไปสู่ภพภูมิที่ดี

ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่บ้านโนนเชือก ตำบลส้มป่อย อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยพบว่าที่บ้านของนายอนันต์ เพชรแก้ว ญาติ ได้จัดเตรียมสถานที่ตั้งเต็นท์และนำโต๊ะเก้าอี้มาวางจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับร่างของนายอนันต์เพชรแก้วที่จะเดินทางมาถึงในช่วงบ่ายวันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า

จากนั้นทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนางไพวัลย์ เพชรแก้ว อายุ 57 ปี แม่นายอนันต์ ที่เพิ่งจะเดินทางมาจากอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรอรับศพลูกชายที่บ้านลูกสะใภ้ ได้เผยกับเราทั้งน้ำตา ว่า หลังจากที่ได้รับการยืนยันจากทางการว่าลูกชายเสียชีวิตจากสงครามอิสราเอล หัวใจแทบสลาย เพราะนายอนันต์เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ตนเองรักมาก เพราะลูกชายเป็นคนดี เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เคยสร้างปัญหาให้ตนเองต้องหนักใจสักครั้ง



ก่อนที่ลูกชายจะไปทำงานที่อิสราเอลก็ได้มาปรึกษาตนเอง เพราะอยากจะไปหาเงินมาให้ครอบครัวได้สุขสบาย ก่อนที่ลูกจะเดินทางตนเองก็ได้อวยพรให้พระคุ้มครอง ให้ลูกร่ำรวย ให้ได้เงินเดือนสูง ๆ ทุกวันนี้เวลาคิดถึงลูกก็ต้องอดทน อดกลั้น ไม่ให้ตนเองร้องไห้หรืออ่อนแอ แต่บางครั้งก็ทำไม่ได้ จนต้องพึ่งธรรมมะ ปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสงบ

ซึ่งตนเองก็เชื่อว่าลูกจะไปสู่ภพภูมิที่ดี เพราะลูกตนเองทำความดีมาโดยตลอด และตนเองอยากบอกกับลูกเป็นครั้งสุดท้ายให้ลูกไปสบาย ไปสู่ภพภูมิที่ดี ลูกเป็นดี ส่วนแม่จะพยายามเข้มแข็งและทำใจให้ได้

นอกจากนี้นางไพวัลย์ ยังได้พูดถึงเรื่องที่ตนเองเตรียมจะเกี่ยวข้าว เอาข้าวเหนียวใหม่มาให้ลูกชายกิน เพราะทุกปีหลังฤดูเก็บเกี่ยวตนเองจะนำข้าวเหนียวใหม่มาให้ลูกชายไว้ทานที่บ้าน แต่ปีนี้ลูกชายยังไม่ทันได้กินข้าวใหม่ ลูกก็มาเสียชีวิตก่อน



ภรรยาอานันต์ปล่อยโฮ เห็นหน้าสามีครั้งสุดท้าย ยังคงทำใจไม่ได้

ต่อมาเมื่อเวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างของนายอนันต์ เพชรแก้ว มาส่งถึงบ้าน โดยรถตู้ของทางเจ้าหน้าที่ ทันทีที่รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของนายอนันต์ เพชรแก้ว มาส่งถึงบ้าน ญาติพี่น้องที่มารับศพ ต่างร้องห่ม ร้องไห้ เสียงดังระงม บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

โดยกู้ภัยได้ให้นางอ้อยใจ ประกอบพิธีจุดธูป จำนวน 16 ดอก และเงินสด จำนวน 299 บาท พร้อมหมากพลู ยาสูบ บุหรี่ และดอกดาวเรือง เชิญวิญญาณนายอนันต์ลงจากรถ โดยระหว่างก่อนที่จะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณลงจากรถ นางอ้อยใจและลูกสาวซึ่งยืนอยู่ที่หน้ารถได้มองไปที่ป้ายชื่อของสามีที่ติดอยู่บริเวณหน้ารถจากนั้นก็ได้ใช้มือลูบไปที่แผ่นกระดาษที่เขียนชื่อของสามี ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

จากนั้นกู้ภัยได้นำกล่าวคำเชิญดวงวิญญาณลงจากรถ หลังจากกล่าวเสร็จนางอ้อยใจได้ปักธูปลงดินและเรียกชื่อสามีกลับบ้าน และทำพิธีเปิดทางขอเจ้าที่เจ้าทางนำร่างและวิญญาณนายอนันต์ เข้าบ้านแต่เพียงคนเดียว ตามความเชื่อของคนอีสาน

ต่อมาหมอธรรมประจำหมู่บ้านก็ได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของนายอนันต์ตามความเชื่อของคนอีสาน ก่อนที่นางอ้อยใจก็ได้บอกกล่าวร่างไร้วิญญาณของสามีให้กลับบ้าน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ช่วยกันยกโลงที่บรรจุร่างนายอนันต์ เพื่อมาบรรจุใส่โลงที่ญาติได้จัดเตรียมไว้

เมื่อมาถึงสถานที่ก่อนที่จะมีการบรรจุใส่โลงเย็น เจ้าหน้าที่ได้เปิดโลงศพที่บรรจุร่างนายอนันต์ให้กับญาติได้ดูเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งทันทีที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดถุงซิปล็อกที่บรรจุร่างของนายอนันต์ ในตอนแรกนางอ้อยใจ ยังไม่แน่ใจว่าใช่ร่างของสามีหรือไม่ จนกระทั่งได้ขอดูหน้าสามี ทันทีที่นางอ้อยใจเห็นหน้าสามีก็จำเค้าโครงหน้าได้ทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนเป็นลมล้มพับ ญาติต้องช่วยกันนำมานั่งพักที่เก้าอี้ และช่วยกันปฐมพยาบาล

ขณะที่นางไพวัลย์เช่นกัน ซึ่งยังไม่ทันได้เห็นหน้าลูกชายก็ร้องไห้เกือบจะเป็นลม ญาติต้องช่วยกันหามนางไพวัลย์ เพื่อมาดูหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และทันทีที่นางไพรวัลย์ได้เห็นร่างของลูกชายก็ร้องไห้จนเป็นลมเจ้าหน้าที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที

ขณะที่นางอ้อยใจ ภรรยานายอนันต์ เผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ถือว่าสภาพจิตใจของตนเองย่ำแย่มากเพราะกับเรื่องแบบนี้ไม่ไหว ที่สามีต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยเฉพาะกับพ่อแม่ของสามีที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา ยังคงทำใจไม่ได้ ร้องไห้ตลอดเวลา

ก่อนหน้าที่จะสามีจะเสียชีวิตได้มาอวยพรวันเกิดของตนเอง ตั้งแต่ที่สามีเสียชีวิตไปทั้งตนเองและญาติไม่เคยฝันเห็นสามีซักครั้ง จึงทำให้ตนเองยังมีความหวังว่าจะไม่ใช่สามีของตนเอง จนกว่าตนเองจะได้ดูหน้าสามีที่จะมาถึงในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนเรื่องที่จะทำพิธีฌาปนกิจศพสามีวันไหนตนเองต้องปรึกษากับครอบครัวของสามีก่อนว่าจะทำอย่างไร เพราะตอนนี้ตนเองคิดอะไรไม่ออกเลย



แม่ยาย อานันย์ เผยทั้งน้ำตา เคยห้ามลูกเขยไม่ให้ไปอิสราเอล แต่ลูกเขยอยากให้ครอบครัวอยู่สุขสบาย

นางบุญรอด อายุ 73 ปี แม่ยายนายอานันต์ เผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนที่ลูกเขยจะเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลตนเองก็เคยห้ามลูกเขยไม่ให้ไปแล้วเพราะไม่อยากให้ลูกเขยไปทำงานไกล แต่ลูกเขยก็ยืนยันที่จะเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลเพราะต้องการอยากให้ครอบครัวอยู่สุขสบาย

หลังจากเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลนายอนันต์ก็ส่งเงินมาให้กับทางบ้านสร้างบ้านใหม่และทำโกงดังพร้อมที่จอดรถ แต่ยังไม่ทันได้สร้างบ้านใหม่ ซึ่งสร้างแต่โกงดัง นายอนันต์ก็มาเสียชีวิตก่อน วันนี้ลูกเขยได้กลับบ้าน ถึงแม้ว่าจะมาในสภาพที่ไม่มีชีวิตอยู่ ตนเองก็อยากให้ลูกเขยได้เห็นว่าสิ่งที่ลูกเขยสร้างไว้ จึงได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่โกงดัง ที่ลูกเขยสร้างไว้

ส่วนความฝันของลูกเขย คือ อยากไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อเก็บเงินมาซื้อที่ดินปลูกอ้อย เลี้ยงหมู ทำอาชีพอยู่บ้านกับครอบครัว แต่สุดท้ายความฝันก็สลายหลังจากลูกเขยมาถูกยิงจนเสียชีวิต ขณะเดียวกันนางบุญรอด ได้พูดถึงลูกเขยว่า ตั้งแต่ลูกเขยเสียชีวิต ตนเองไม่เคยฝันถึงลูกเขยเลยสักครั้ง ซึ่งตนเองคิดว่าลูกเขยอาจจะหาทางกลับบ้านไม่ถูก ถ้ายังอยู่ที่อิสราเอลก็ให้กลับมาพร้อมกับร่าง

แม่ใจสลายรับ 8 ร่างแรงงานกลับไทยลมจับ เปิดโลงจำหน้าแทบไม่ได้ ถูกปิดห้องยิงถล่ม