เมื่อเวลา 23.44 น.วันที่ 21 ตุลาคม ร.ต.อ.จักพร ขวัญแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สภ. พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนทางหลวง 417 (แยกสนามบินพุนพิน-สุราษฎร์ธานี) ช่วงจุดกลับรถก่อนถึงสะพานข้ามทางรถไฟมะลวน ท้องที่หมู่ 1 ต.หัวเตย  อ.พุนพิน จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.พุนพิน พ.ต.อ.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน แต่งแบบโหลดเตี้ย จอดอยู่กลางถนนไฟหน้ายังเปิดอยู่  บริเวณประตูรถด้านคนขับที่กระจกรถมีรอยกระสุนปืนยิงหลายนัดถูกกระจกแตกหักพับครึ่ง  ภายในที่นั่งคนขับพบศพนายทวิช หรือ เฟิร์ส อายุ 31 ปี อาชีพพ่อค้ากุ้งและซื้อขายรถจักรยานยนต์มือ 2 ชาว ต.ทุ่งอ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สวมเสื้อแขนสั้นสีครีม กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน

มีบาดแผลถูกยิงที่เข้าต้นแขนขวาด้านหลัง 2 แผล แผ่นหลังขวา 2 แผลทะลุกลางหน้าอก 1 ทะลุต้นแขนซ้าย 1 สภาพนั่งหน้าหงาย ส่วนในห้องโดยสารพบหัวกระสุนตะกั่ว 9 มม.ที่ฝาปิดช่องเก็บของตรงกลางและพบหัวตะกั่ว 9 มม.ที่คอนโซลหน้าด้านซ้าย ในรถพบอาวุธปืน 9 มม.อยู่ในซอง 1 กระบอกของผู้เสียชีวิตวางที่เบาะนั่งด้านข้าง ลักษณะคล้ายพร้อมหยิบใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทวิช ขับรถจาก อ.ไชยา มาคนเดียวจะไปรับกุ้งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี คาดว่าคนร้ายทราบความเคลื่อนไหว ก่อนเกิดเหตุใช้รถเก๋งสีดำเป็นพาหนะมากัน 2 คนมาจอดรอตรงจุดกลับรถ (ยูเทิร์น) เมื่อรถกระบะผู้เสียชีวิตขับมาถึงจะต้องชะลอความเร็วเพื่อเลี้ยวกลับรถขึ้นถนน 417 ได้มี 1 ในคนร้ายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบอำพรางใบหน้าที่นั่งข้างคนขับลงจากรถเก๋งคล้ายทำทีโบกเรียกรถผู้เสียชีวิตและใช้อาวุธปืน 9 มม.กระหน่ำยิงใส่ประมาณ 4-5 นัดหวังผลเป้าหมายสำคัญแล้วหลบหนีไป

ส่วนผู้เสียชีวิตอาจรู้ตัวว่าน่าจะมีผู้ปองร้ายจึงพกอาวุธปืน 9 มม.เตรียมไว้ป้องกันตัว ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุ 2 ประเด็นเรื่องธุรกิจซื้อขายกุ้งและเรื่องชู้สาวจะเร่งสืบสวนสาเหตุและติดตามตัวคนร้ายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพเสียงปืนนาทีเกิดเหตุใกล้จุดที่เกิดเหตุ  โดยมีกล้องวงจรปิดสองมุมที่บันทึกนาทีที่เกิดเหตุได้ชัดเจน กล้องตัวที่ 1 บันทึกนาทีเสียงปืนดังขึ้นทั้งหมด 6 นัด โดยทั้ง 6 นัดรัวยิงต่อกัน  ในช่วง 23.13 น.ของวานนี้

ขณะที่กล้องวงจรปิดอีกมุม อยู่จากจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร บันทึกนาทีที่เสียงปืนดังขึ้นแต่เสียงเบากว่ากล้องตัวแรกเพราะอยู่ในระยะไกลจากที่เกิดเหตุ  มีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัดต่อกัน

ขณะที่วงจรปิดกล้องวงจรปิดจากการรถไฟ บนถนนสาย 4122 เวลา 23:10น.ของวานนี้  สามารถจับภาพรถเก๋งสีดำต้องสงสัย ขับมาด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปยังสามแยกเชื่อมต่อถนน417  เพื่อดักรถของผู้ตายจากนั้นประมาณ 10 วินาทีจะเห็นรถกระบะขอผู้ตายขับตามหลังมาก่อนะจะเกิดเหตุสลดขึ้นภายหลัง

ช่วงเย็นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจรถของผู้เสียชีวิตที่ถูกคนร้ายกระหน่ำยิง โดยจอดอยู่ที่สภ.พุนพิน โดยบริเวณกระจกฝั่งคนขับได้รับความเสียหายจากการถูกคนร้ายกระหน่ำยิงโดยมีรูกระสุนอยู่ที่บริเวณกระจก

ขณะที่สำรวจด้านในรถพบว่ายังคงมีของใช้ของนายทวิชอยู่ภายในรถ จุดข้างคนขับมีขวดน้ำใบกระท่อมและแก้วน้ำวางอยู่ส่วนบริเวณเบาะด้านหลังมีหมอน และรองเท้าผ้าใบวางอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์และคลี่คลายคดีนี้

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายตุ๊ก (นามสมมติ) เป็นเพื่อนของพ่อผู้เสียชีวิต  บอกว่า  ในส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิตตอนนี้ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับทีมข่าวเนื่องจากยังคงสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  แต่ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับพ่อผู้เสียชีวิตก็สงสัยในหลายประเด็น  แต่ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลในส่วนนี้ เบื้องต้นยังคงยืนยันว่าลูกชายไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับใครก่อนหน้านี้ 

ขณะที่นิสัยส่วนตัวของผู้เสียชีวิตก็คล้ายกับวัยรุ่นทั่วไปมีพรรคพวกเยอะและมีเพื่อนเยอะ  ชอบพกปืนติดตัว  ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าตัวไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร  แต่เคยมีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รุ่นน้องหรือคนรู้จักของเจ้าตัวไปมีเรื่องกับคนอื่น  นายทวิชก็เป็นคนออกหน้าไปช่วยเคลียร์  เพราะรักพวกและรุ่นน้อง  แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะเป็นสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้เสียชีวิต

โดยผู้ตายมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายกุ้ง  โดยจะไปรับกุ้งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเป็นประจำ  ซึ่งวันเกิดเหตุก็ไปรับกุ้งมาขายปกติ  คาดว่าคนร้ายทราบความเคลื่อนไหว จึงใช้รถเก๋งสีดำเป็นพาหนะมากัน 2 คนมาจอดรอตรงจุดกลับรถเมื่อรถกระบะผู้เสียชีวิตขับมาถึงจะต้องชะลอความเร็วเพื่อเลี้ยวกลับรถ  จึงได้จังหวะที่คนร้ายสบโอกาสกระหน่ำยิงใส่จนเสียชีวิตทันที ตอนนี้พ่อผู้เสียชีวิตและภรรยาผู้เสียชีวิตเครียดและสะเทือนใจมาก

ขณะที่นายวัชรา อายุ 35 ปี  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หัวเตย อ.พุนพิน  เล่าว่า  เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าได้ยินเสียงปืน 6 นัด  จึงให้ตนไปดูที่เกิดเหตุ  เมื่อไปถึงก็พบว่านายทวิชถูกยิงและเสียชีวิตในรถแล้ว  โดยมีปืนของนายทวีตหนึ่งกระบอกวางไว้บนเบาะข้างคนขับ ก็คาดว่าเจ้าตัวจะรู้ก่อนหน้านี้หรือไม่ว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีจึงพบปืนติดตัว

โดยตนยังได้สอบถามวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่ขี่รถจักรยานยนต์มาในจุดเกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ตอนที่ยิง โดยทางกลุ่มวัยรุ่นเห็นรถเก๋ง 5 ประตูสีดำ จอดอยู่ตรงทางเลี้ยวยูเทิร์นรถ  แล้วสักพักรถกระบะของนายทวิตก็มาถึงที่เกิดเหตุและกำลังจะเลี้ยวรถ จากนั้นมีคนร้ายหนึ่งคนสวมหมวกกันน็อกลงมาจากรถแล้วเรียกให้นายทวิชจอดรถก่อนที่จะกระหน่ำยิงหลายนัด ตอนนั้นวัยรุ่นที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปช่วยหรือขี่รถเข้าไปดูเหตุการณ์เพราะก็กลัวถูกยิงเช่นเดียวกัน  ซึ่งวันนี้วัยรุ่นที่เห็นเหตุการณ์ก็ถูกตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ

ตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นแต่เป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจมากที่ก่อเหตุกลางเมือง