"พระจี้กงเมืองไทย" ห่มผ้าบังสุกุลตัดปะ ชาวเน็ตชมพระแท้ ไม่ปลุกเสก ฉันวันละมื้อ

ได้รับเสียงชื่นชมใน TikTok เมื่อพระรายหนึ่งใช้ชื่อว่า user8293600713369 เผยแพร่คลิปมาพบ หลวงพ่อเกษตร ปคุโณ วัดเขาหินเทิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังพบกันเมื่อ 23 ปีก่อน และเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล เพราะท่านห่มจีวรจากผ้าบังสุกุลของชาวบ้านมาตัดปะ จนได้รับขนานนามในโซเชียลว่า พระจี้กงเมืองไทย ประกอบกับการเทศน์ธรรม ที่ท่านหลับตาสำรวมวาจาต่อผู้มาพบ เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ มีคนเดินทางเข้ามาทำบุญไม่ขาดสาย

พระอธิการชลัช สุจิตฺโต เจ้าอาวาส วัดถ้ำแฝด จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า อาตมาเห็นหลวงพ่อเกษตร ปคุโณ วัดเขาหินเทิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อายุ 80 ปี ห่มจีวรลักษณะนี้มาตั้งแต่ 23 ปีก่อน ที่อาตมาเพิ่งบวชใหม่ การห่มจีวรของท่านเป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่คอนเทนต์อย่างที่ชาวเน็ตติง ที่ผ่านมามีพระอีกหลายรูปห่มลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นพระสายธุดงค์ พอมีโลกออนไลน์ มีคนมาถ่ายท่านแล้วไปโพสต์ ส่วนหนึ่งวิจารณ์ท่าน เพราะไม่เข้าใจถึงวัตรการปฏิบัติเรียบง่ายอย่างแท้จริง

“ตามหลักพระวินัย เรียกว่าจีวรบังสุกุล เป็นผ้าห่อศพแล้วพระนำมาตัดเย็นใช้นุ่งห่ม ผ้ามีหลากหลายสี เมื่อนำมาย้อมสีผ้าจะมีสีไม่กลมกลืนกันเมื่อซักไปสีจะตก สมัยพุทธกาลพระบางรูปสำเร็จอรหันต์แล้วยังไม่มีจีวรห่มก็มี”

เมื่อ 23 ปีก่อน พบหลวงพ่อเกษตร ท่านห่มจีวรแบบนี้ ตามหลักธรรมการทอดผ้าป่าสมัยก่อน ให้ชาวบ้านมาทอดผ้าเพื่อนำผ้ามาทำเป็นจีวร แต่สมัยนี้ประเพณีถูกเปลี่ยนเป็นการทอดผ้าป่าเพื่อหาเงินเข้าวัด ต่างจากท่านที่ยึดหลักการปฏิบัติในรูปแบบเดิม และไม่รับปัจจัย ที่อยู่ของท่านอยู่ในผาหิน ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวก ท่านฉันวันละมื้อ

ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป การห่มจีวรตัดปะ ท่านห่มเฉพาะตอนอยู่ในวัด ถ้าออกไปทำกิจธุระภายนอก ห่มจีวรเหมือนพระทั่วไป ท่านบอกว่า ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะติติงถึงความไม่เหมาะสม

“ในอดีตอาตมาเคยนิมนต์พระที่ห่มจีวรแบบท่าน มาเทศนาให้กับญาติโยมในเมืองฟัง แต่มาเทศเพียงครั้งเดียว เพราะชาวบ้านไม่เข้าใจ อาตมาเองจึงต้องพยายามทำความเข้าใจกับญาติโยม เพราะบางคนท่านไม่เข้าใจ”

หลวงพ่อเกษตร มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด พระที่มาจำวัดห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร ทำให้ทุกวันนี้มีท่านจำวัดอยู่เพียงรูปเดียว แนวทางที่ท่านยึดถือมาตลอดคือ ตามแบบพระไตรปิฎก เวลาเทศน์จะอ่านตามพระไตรปิฎก ไม่มีการว่านอกเรื่องหรือนำความคิดส่วนตัวเข้าไปใส่มากนัก

จากการได้พูดคุยธรรมะ ท่านบอกว่าได้ศึกษามาหลายอาจารย์ แต่ไม่รู้จะเชื่อใคร จึงมุ่งศึกษาตามพระไตรปิฎกเป็นหลัก เพื่อให้เข้าถึง สติปัฏฐาน 4 คือ ข้อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้ง คือ เข้าใจตามเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงโดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ

“ท่านเล่าว่าหลังจากมีคนมาถ่ายคลิปท่านลงโซเชียล มีประชาชนมาวัดมาก แต่บางคนมาแล้วก็ผิดหวัง เพราะไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้าง หรือวัตถุมงคลตามกระแสนิยมให้กราบไหว้ ท่านเน้นอยู่ตามธรรมชาติ ญาติโยมบางคนก็ไม่มาอีก แต่ท่านยังยืนยันว่าวัด ไม่ได้เน้นสิ่งปลูกสร้าง แต่อยากให้ญาติโยมที่มาได้ซึมซับหลักธรรมเป็นหลัก”