จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก jarinya tok ได้โพสต์รูปภาพ “เมื่อพบ แม่ย่อมดีใจ มีจากแม่ย่อมเสียใจแม่ที่เคยบอกว่า รัก เเละ เป็นห่วงลูกเสมอ มันยังเป็นแบบนั้นเสมอมา วันนี้ได้รับข่าวร้าย ลูกชายถูกดักยิง เส้นบ้านหนองบัว หลังจากเที่ยวงานแข่งเรือที่ท่าตูม แม่ไม่ขอสาบแช่งใคร กรรมใครกรรมมัน สิ่งที่แม่ขอในตอนนี้ ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี โลกที่ไม่มีคนใจร้าย โลกที่มีแต่งคนรักRIP กอล์ฟ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายคุณานนท์ หรือ กอล์ฟ อายุ 18 ปี ชาวอำเภอรัตนบุรี ถูกยิงจากด้านหลัง 1 นัด กระสุนฝังปอด ส่วนจุดที่ถูกดักยิงอยู่ริมถนนทางหลวง 2076 ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ เที่ยงคืนเศษของวันที่ 22 ตุลาคมคืนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ตำรวจได้เรียกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริจำนวน 14 คนมาสอบปากคำเพื่อหาตัวมือยิง
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ พันตำรวจเอกสราวุธ ศรีวิฑูรย์ศักดิ์ ผู้กำกับ สภ.ท่าตูม ได้นำกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปที่บ้านของนายสุเมธ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านตูม ม.1 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายสุเมธได้ติดต่อเข้ามอบตัวตำรวจ โดยสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวกันบนถนนจริง แต่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ และเป็นการยิงขู่เพื่อระงับเหตุไม่ให้วัยรุ่นทั้งสองกลุ่มทะเลาะวิวาทเท่านั้น
จากนั้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลเพื่อขอค้นบ้านของนายสุเมธ ซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 พื้นที่เกิดเหตุ โดยอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น โดยประสงค์เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบกระสุนขนาด 9 มม. 1 นัด นอกจากนี้ยังพบชุดใส่บาตร ข้าวสารอาหารแห้งภายในบ้านของผู้ใหญ่ที่เจ้าตัวเตรียมจะไปทำบุญตักบาตรเทโวในวันที่ 29 ตุลาคมนี้อีกด้วย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจค้นประมาณ 30 นาที ก่อนควบคุมตัวออกจากบ้าน
ระหว่างนำตัวขึ้นรถ ทีมพยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ก่อเหตุ เจ้าตัวอ้างว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายรวมตัวทะเลาะวิวาทกันบนถนน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนของตนเองที่ตนเองนอนพักอยู่ ห่างประมาณ 500 เมตร และด้วยความที่ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงต้องการเข้าไประงับเหตุเพื่อไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นสองฝ่ายยกพวกตีกัน โดยตนเองได้ถือปืนไปยืนอยู่ริมถนน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงขู่ใส่กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ จำนวน 3 นัด ทำให้วัยรุ่นทั้งหมดเลิกตีกันและขี่รถหนีกันหมด ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระสุนจะถูกเด็กจนเสียชีวิต
หลังจากยิงเสร็จระหว่างทางตนเองได้เดินผ่านสวนยางพาราของชาวบ้าน จึงได้ปลดกระสุนในแมกกาซีนที่เหลือจำนวน 6 นัด โยนทิ้งใต้ต้นยางพารา และเดินกลับไปนอนที่บ้านตามปกติ ยืนยันตนเองทำไปไม่ได้ตั้งใจให้เด็กตาย เป็นการยิงเพื่อระงับเหตุเท่านั้น
ทีมข่าวพยายามสอบถามนายสุเมธผู้ใหญ่บ้าน ที่อ้างว่ายิงขู่เท่านั้น แต่ทำไมถึงไม่ยอมยิงขึ้นฟ้า เจ้าตัวกลับเงียบ ไม่ได้ตอบทีมข่าว และรีบขึ้นรถตำรวจทันที
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุเมธผู้ใหญ่บ้าน พาทำแผนประกอบคำสารภาพอีกจุด ซึ่งเป็นสวนยางใกล้จุดเกิดเหตุ ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยให้พาไปชี้จุดที่เจ้าตัวนำกระสุนจากเมกาซีนที่ยิงเหลือจำนวน 6 นัด แอบนำมาทิ้งซ่อนไว้ภายในสวนยางพาราใกล้บ้านสวนของเจ้าตัว ซึ่งจากการนำชี้และตรวจหากระสุน ก็พบกระสุนซุกซ่อนอยู่ใต้ต้นยางพาราจริง
ก่อนจะพาตัวไปค้นหาหลักฐานเพิ่มที่ภายในบ้านสวนที่เจ้าตัวนอนในวันเกิดเหตุ และบอกจุดที่เจ้าตัวยืนยิงริมถนนที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเครื่องตรวจโลหะ เพื่อหาหัวกระสุนเพิ่มเติม แต่จุดที่นายสุเมธอ้างว่าได้ใช้ปืนยิงขู่ริมถนน ยังไม่พบหัวกระสุนใดๆ
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้สอบถาม นายสมศักดิ์ 72 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านซึ่งเป็นน้าชายของนายสุเมธผู้ใหญ่บ้าน บอกกับทีมข่าวว่า นายสุเมธนั้นรับตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นผู้ใหญ่บ้านมา 8 ปีแล้ว เป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่ อายุ 32 ปี โดยมีพ่อเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ที่ผ่านมานายสุเมธ เป็นที่รักของคนในชุมชน และทำงานเพื่อสังคมอยู่ตลอด ตนเองรู้สึกตกใจและเสียใจมากที่ทราบว่านายสุเมธ เป็นผู้ก่อเหตุยิงเด็ก 17 ตาย เพราะหลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้นายสุเมธยังมาหาที่บ้านและมานั่งพูดคุยกับตนเองเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่อยากเชื่อเลยว่านายสุเมธจะตั้งใจไปยิงเด็กตาย
ตนเองเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ และความหวังดีมากกว่าที่ต้องการยิงเพื่อระงับเหตุไม่ให้เด็กวัยรุ่นรวมกลุ่มตีกัน แต่กระสุนดันซวยไปถูกเด็ก เพราะที่ผ่านมาจุดเกิดเหตุมักมีวัยรุ่นมักรวมกลุ่มทะเลาะวิวาท ส่งเสียงรบกวนชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง
และในวันที่ 29 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ตามจริงนายสุเมธจะต้องเป็นหัวเรือหลักในการพาชาวบ้านทำบุญตักบาตรเทโว สังเกตได้จาก ในบ้านของนายสุเมธ ถุงชุดใส่บาตรวางอยู่เต็มบ้าน ซึ่งชาวบ้านทุกคนกำลังเตรียมของเพื่อทำบุญ ไม่คิดเลยว่าจะมาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
ต่อมาเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ครอบครัวผู้ตาย ได้นิมนต์พระจำนวน 4 รูปมาทำพิธีสวดเชิญดวงวิญญาณบริเวณจุดเกิดเหตุ มีญาติ ชาวบ้าน และเพื่อนของน้องกอล์ฟเดินทางมาร่วมเชิญดวงวิญญาณกันเป็นจำนวนมาก โดยระหว่างการสวดทำพิธีบรรดาญาติ ตะโกนบอกน้องกอล์ฟผู้เสียชีวิตตามกลับมายังที่บ้าน พร้อมกับสวดกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้
ส่วนความคืบหน้าทางคดีตำรวจได้แจ้งข้อหานายสุเมธผู้ใหญ่บ้าน 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวนายสุเมธไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุรินทร์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่งานศพของนายคุณานนท์ หรือ น้องกอล์ฟ ผู้เสียชีวิต เราได้ไปพูดคุยกับนายมนตรี จันทร์เพชร อายุ 52 ปี และนางสมร จันทร์เพชร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นลุงและแม่ของน้องกอล์ฟ บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่เชื่อคำอ้างของผู้ใหญ่บ้านที่ก่อเหตุ ที่บอกว่าตั้งใจใช้ปืนยิงขู่เพื่อระงับเหตุเท่านั้น และถามกลับไปยังผู้ใหญ่บ้านที่ก่อเหตุว่า ทำไมยิงขู่ถึงไม่ยิงขึ้นฟ้า และทำไมต้องเล็งมาที่ลูกชายของตนเอง รวมไปถึง จำนวนที่ยิงขู่ ทำไมต้องยิงถึง 3 นัด ซึ่งตนเองยังไม่เชื่อในคำให้การ และคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น ยิ่งผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย เป็นถึงผู้ใหญ่บ้านต้องมีจิตสำนึกมากกว่านี้
ยอมรับว่าตอนนี้ยังทำใจกับการสูญเสียลูกชาย เพราะที่ผ่านมาลูกชายเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นนักกีฬาตะกร้อของโรงเรียนและเคยเป็นอดีตตัวแทนนัก ตะกร้อประจำประจำอำเภอรัตบุรี วันเกิดเหตุลูกชายบอกตัวเองเพียงแค่ว่าจะไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อน ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะต้องมาถูกคนตายแบบนี้ ลูกชายไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แต่ต้องมาตาย ซึ่งทางครอบครัวอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายด้วย และอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษสูงสุด