สาว อบต. สะดุ้ง!! บิลค่าน้ำแพงเกือบ 20,000 บาท จากปกติเดือนละไม่ถึงร้อย ประปาเทศบาลรับเจ้าหน้าที่จดผิด บางคนไม่จดจริงใช้เดาสุ่ม ได้ลาออกแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนางสาวภาสินี อายุ 29 ปี เจ้าของบ้านแห่งหนึ่ง ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาของกองการประปา เทศบาลตำบลนครหลวง มาให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่ามีใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาสูงถึง 18,051 บาท ยอดรวม 3 เดือน ในยอดของเดือนสิงหาคม 95 บาท ยอดเดือนกันยายน 65 บาท แต่เดือนตุลาคมนี้ มียอดพุ่งถึง 17,886 บาท
ด้านนางสาวภาสินี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติที่บ้านจะพักอาศัยกันอยู่ 3 คน ส่วนใหญ่จะใช้อาบน้ำช่วงเช้า และเย็นส่วนซักผ้าก็จะใช้ซักอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งปกติจะใช้ค่าน้ำเดือนหนึ่งไม่เกิน 100 บาท แต่พอวันนี้มีใบแจ้งหนี้มาพบว่าเป็นยอดรวม 18,051 บาท ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจมากว่า ทำไมยอดค่าน้ำสูงผิดปกติ
ตนเองก็พยายามไปตรวจสอบว่า มีท่อประปาตรงไหนรั่วหรือไม่ จึงได้ปิดวาล์วน้ำก็พบว่า มอเตอร์ไม่ได้หมุนผิดปกติ สังเกตที่ยอดใบแจ้งหนี้พบว่า ใบแจ้งหนี้จดเลขครั้งก่อน 2985 หน่วย เลขจดปัจจุบัน 6016 หน่วย เท่ากับใช้น้ำเดือนปัจจุบันไป 3031หน่วย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ จึงเข้าไปตรวจสอบที่มาตรวัดน้ำของตนเอง พบว่า มีตัวเลขปัจจุบันเพียง 3016 หน่วย เท่ากับตนเองใช้น้ำเดือนนี้ไปเพียง 31 หน่วย แต่เจอใบแจ้งหนี้ค่าน้ำเกือบสองหมื่น ทำให้ตนเองก็รู้สึกตกใจมากและงงทำอะไรไม่ถูก อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไข ส่วนพนักงานโรงงานทั้ง 2 ราย ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันถึงกับเครียดโดนบิลค่าน้ำไปหลังละพันกว่าบาท
ด้านนางสาวทิพวรรณ เจ้าของบ้านอีกแห่ง พบใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปามาเดือนนี้ 994 บาท ส่วนอีกรายโดนไป 1,432 บาท ซึ่งเจ้าของบ้านทั้งสองหลังรู้สึกตกใจมาก ค่าน้ำแพงเกินจริง ปกติค่าน้ำของแต่ละเดือนจะใช้ไม่เกิน 100 บาท เพราะเนื่องจากทำงานโรงงานจะใช้อาบน้ำเพียงเท่านั้นและก็จะซักผ้าอาทิตย์ละครั้ง และก็ตรวจสอบระบบการรั่วไหลของน้ำภายในบ้านรอบๆ ไม่มีการรั่วไหล ส่วนตัวเลขของการใช้มิเตอร์น้ำก็ตรงกับใบแจ้งหนี้ แต่ทำไมถึงมียอดค่าน้ำแพงเกินความจริง ตนเองเป็นเพียงพนักงานโรงงานหาเช้ากินค่ำ ถ้าหากจะต้องมาจ่ายค่าน้ำเดือนละเป็นพันก็คงไม่ไหว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยเหลือและแก้ไขโดยด่วน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กองการประปา เทศบาลตำบลนครหลวง ชี้แจงบิลค่าน้ำ เกือบ 20,000 บาท โดยนายสมยศ จาดแก้ว ผู้อำนวยการกองช่างรักษาการ กองการประปา เทศบาลตำบลนครหลวง ชี้แจงในกรณีของบ้านนางสาวภาสินีที่มียอดค่าน้ำพุ่งถึง 18,051 บาท นั้นเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เทศบาลที่จดตัวเลขมิเตอร์ผิดพลาด มิเตอร์น้ำปกติ ปัจจุบันคือ 3061 หน่วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจดเป็น 6061 หน่วย ทำให้ตัวเลขของมิตเตอร์น้ำ เกินความจริงไป ถึง 3000 หน่วย ทำให้มีตัวเลขของการใช้น้ำประปา 17,886บาท
เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แก้ไขตัวเลขดังกล่าวแล้ว ซึ่งเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวจะมีการใช้ค่าน้ำตามความจริงไปเพียง 31 หน่วยเท่านั้น
ส่วนในกรณีของพนักงานโรงงานทั้ง 2 รายที่มีค่าน้ำแพงขึ้นเกินความจริงนั้น ก่อนอื่นต้องขออธิบายว่า ทางกองการประปา เทศบาลตำบลนครหลวงได้มีการปรับเปลี่ยนระบบ การจัดเก็บค่าน้ำประปารูปแบบใหม่ จากแมนนวลเป็นระบบดิจิตอล พบความผิดปกติภายในระบบ และเป็นการผิดพลาดในการทำงานของพนักงานจดมิเตอร์น้ำ ซึ่งเป็นลูกจ้างเหมาชั่วคราวของเทศบาลนครหลวงเอง เนื่องจากพนักงานจดมิเตอร์น้ำไม่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในการจดมิเตอร์น้ำตามความจริง แต่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง โดยการใช้การสุ่มเดาตัวเลขมิเตอร์เอง ก่อนจัดส่งใบแจ้งหนี้ให้กับผู้ใช้น้ำ
จนกระทั่งกองการประปามีการปรับเปลี่ยนระบบให้แจ้งหนี้ใหม่ จนพบว่าระบบการจดมิเตอร์น้ำแบบเก่ามีความผิดปกติ จึงตรวจสอบการใช้น้ำใหม่ทั้งหมด พบว่าแต่ละบ้านมีการใช้น้ำจริงและสะสมมานานถึง 13 เดือน จึงสรุปและแจ้งยอดหนี้จึงทำให้มีค่าน้ำแพงโดดไปมากกว่าเดือนอื่น อธิบายให้ผู้ใช้น้ำเข้าใจว่า การใช้น้ำจริง แต่สามารถทำเรื่องขอผ่อนผันใช้หนี้ในระยะเวลา 3 เดือน ขณะที่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดได้ยื่นใบลาออกไปแล้ว