จากกรณีที่ น.ส.อ้อน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี หญิงชาวจังหวัดหนองคาย ร้องเรียนกัน จอมพลัง ถูก นายหนอม ลุงข้างบ้านและยังเป็นญาติมีศักดิ์เป็นลุงของสามีผู้เสียหายได้เสนอเงิน 10,000 บาท เพื่อขอมีอะไรด้วยแต่ตัวเองปฏิเสธ และบล็อกช่องทางติดต่อ ตอนกลางคืนลุงข้างบ้านจึงบุกเข้าบ้าน โดยจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่า นายหนอม ได้เข้ามาในบ้านของ น.ส.อ้อน จากนั้นจึงได้นำกางเกงในที่ตาก มายืนกระพือและสูดดม ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน โดยได้เดินสูดดมกางเกงในเข้าไปในห้องของยายนอนติดเตียงวัย 67 ปี โดยจะพยายามลวนลามและข่มขืน น.ส.อ้อน นั้น
แฉโจรกางเกงในบุกบ้านสาวหวังขืนใจ
ในวันนี้ (25 ตุลาคม 2566) น.ส.อ้อน เผยว่า นายหนอมพยายามตามจีบและพูดจาขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตน ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาระยะ 2-3 ปี ทั้งโทร. และดักเจอตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน หากติดต่อตนไม่ได้ก็ไปป่าวประกาศว่าจะตามหาไปทุกที่ ทั้ง ๆ ที่นายหนอมเองก็มีภรรยาและลูกอยู่แล้วที่บ้าน แล้วตนก็ไม่เคยคิดอะไรในทำนองนั้น เนื่องจากมีครอบครัวอยู่แล้ว เพียงแค่สามีไปทำงานต่างพื้นที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
กระทั่งต้นเดือนตุลาคม 2566 นายหนอม ทักเฟซบุ๊กและไลน์มาเสนอเงิน 10,000 บาท เพื่อแลกกับขอมีอะไรด้วย แต่ตนปฏิเสธและบล็อกช่องทางติดต่อทั้งหมดไป กลายเป็นว่านายหนอมเอาเรื่องของตนไปพูดให้ชาวบ้านเข้าใจผิด ป่าวประกาศว่าเคยนอนเคยได้กับตนแล้ว ทั้งที่ไม่จริง ตนก็เลยอับอาย ไม่กล้าออกไปในพื้นที่ชุมชน
จนกระทั่งวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายหนอมเข้ามาที่บ้านด้วยความโมโห เนื่องจากติดต่อตนไม่ได้ แล้วมาตื๊อขอมีอะไรกับตน ดักคุย แต่ตนไม่ยุ่งด้วย เพราะรู้สึกกลัวและระแวงกับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ
ทำให้ช่วงกลางดึกในคืนนั้นนายหนอมบุกเข้ามาในบ้านโดยใส่แค่กางเกงในตัวเดียว แล้วก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา ได้เหลือบไปเห็นกางเกงในผู้หญิงแขวนอยู่บนราวโถงในบ้าน จึงหยิบมากระพือแล้วสูดดมกลิ่นสุดกำลัง หลังจากสัมผัสกลิ่นคงรู้สึกชอบ จึงเอากางเกงในครอบหัวตัวเองแล้วบุกเข้าไปหาตน
ทว่า ระหว่างนั้น นายหนอม ดันไปเจอกับยายของของตนที่นอนป่วยติดเตียงอยู่กลางบ้าน ก็เลยก่อเหตุจับยายถอดกางเกงออก แต่ก็ต้องผงะและผิดหวังเพราะคุณยายสวมผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไว้ด้านในอีกชั้น บวกกับยายร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบวิ่งออกมาดู
เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นตน จึงเปลี่ยนเป้าหมาย เดินมาหาบอกว่าอยากคุยด้วย ตนก็บ่ายเบี่ยงบอกให้รอคุยที่ห้องครัว ไม่ต้องเข้ามาในบ้าน แต่นายหนอมไม่ยอมพยามจะข่มขืน ฉุดกระชากตนและดึงชุดนอนของตนออก ตนจึงหนีไปหลบในห้องน้ำ แต่นายหนอมก็ยังไม่ละความพยายาม มีการจะปีนเข้าไปในห้องน้ำด้วย แต่ไม่สำเร็จ
ระหว่างที่ตนแอบอยู่ในห้องน้ำประมาณ 10 นาที นายหนอมก็มีการออกอุบาย ทำทีล็อกบ้านให้ตนได้ยินเสียง พร้อมตะโกนดัง ๆ ประมาณว่า “ไปแล้ว ๆ” ตนจึงออกมากจากห้องน้ำและเปิดไฟเพื่อดูยาย แต่กลับพบว่านายหนอมแอบอยู่ในห้องโถงเก็บของ ไม่ได้ออกไปจริง ๆ พอเห็นตนก็พยายามจะข่มขืนอีกครั้งด้วยการจับถอดเสื้อและกางเกงจนตนเปลือยเปล่า พร้อมกับใช้กำลัง กดแขนตนเพื่อจะลวนลาม แต่ไม่สำเร็จ เพราะผู้เสียหายอ้อนวอนขอชีวิตเอาไว้ รวมถึงโทร. หาเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ผู้ก่อเหตุจึงออกจากบ้านไป
แต่ก่อนจะออกไป มีพูดข่มขู่ทิ้งท้ายไว้ว่า “นี่แค่มาเตือนนะ ถ้ารอบหน้าติดต่อไม่ได้เนี่ย จะเข้ามาอีกรอบ” และตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย แต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ นายหนอม ยังใช้ชีวิตปกติ ลอยหน้าลอยตาอยู่ในชุมชนได้ แถมครอบครัวของเขายังพูดนินทาว่าร้ายให้ตนว่าไปอ่อย นายช่างหนอม ด้วยการไม่ใส่กลอนบ้านก่อนหรือเปล่า ทั้งที่จริงแล้วเขาบุกเข้ามายามวิกาล
เจ้าตัวบอกว่าจริง ๆ แล้วคืนนั้นรู้สึกกลัวไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดึก จะตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านก็รู้สึกอับอาย ใจหนึ่งก็คิดอยากจะไปบอกกับครอบครัวของผู้ก่อเหตุเสียตอนนั้นเลย แต่ก็หวั่นว่าเขาจะเข้าข้างกันและช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
ส่อวุ่นลุงข้างบ้านแจง บุกบ้านสาวแค่หวังทวงหนี้
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ตนจึงปรึกษากับสามีและเข้าประสานขอความช่วยเหลือกับ กัน จอมพลัง เพื่อพาเข้าร้องเรียนกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯรัฐมนตรีในวันนี้
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายหนอม ผู้ก่อเหตุ ซึ่งพบว่าบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่ในซอยเดียวกันกับบ้านของผู้เสียหาย โดยบ้านของผู้เสียหายฝั่งตรงข้ามเยื้องกับของนายหนอม
นายหนอม เปิดใจว่า ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับ น.ส.อ้อน หลานสะใภ้มา 3 ปีแล้ว โดยได้แอบคบกันแบบลับ ๆ ไม่ให้ภรรยารู้
ตนเองยอมรับว่ารักหลานสะใภ้ หากหลานสะใภ้เอ่ยปากเรื่องเงินว่าไม่มีเงินใช้ ตนเองก็จะรีบไปหาหยิบยืมเงินจากคนอื่นมาให้ น.ส.อ้อน ครั้งละ 1,000-2,000 บาท บางครั้งก็เป็นหมื่น ซึ่งยังไม่รวมเงินที่ตนเองไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ได้มาครั้งละ 300-400 บาท ก็จะเอาไว้ให้นางอ้อนใช้จ่ายประจำวัน
นอกจากนี้นายหนอม ยังยอมรับอีกว่าวันที่เกิดเหตุ ตนเองยอมรับว่า ได้ดื่มสุราจนเมา ก่อนจะบุกเข้าไปที่บ้านของ น.ส.อ้อน จริง เพื่อไปทวงเงินจำนวน 3,500 บาท ที่ตนไปหยิบยืมเงินเจ้าหนี้มาให้ น.ส.อ้อน ไว้ใช้จ่ายแต่พอครบกำหนดชำระคืน ตนเองไม่สามารถติดต่อนางอ้อนได้จึงได้บุกเข้าไปถามที่บ้าน แต่ น.ส.อ้อน ก็ไม่ยอมออกมาคุยกับตนเอง จึงได้อ้อมไปหลังบ้านของผู้เสียหาย และเปิดประตูหลังบ้านเข้าไป ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็เห็นยายที่นอนป่วยติดเตียง เห็นตนเองก็ได้ร้อง เพราะตอนนั้นตนเองได้ใช้ผ้าปิดบังใบหน้า ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่กางเกงในตามที่ น.ส.อ้อน กล่าวหา
ขณะที่ยายกำลังร้องด้วยความตกใจ ตนเองจึงได้บอกกับยายที่นอนป่วยติดเตียงว่า "ผมเอง หนอม" ตนเองยืนยันว่าที่บุกเข้าไปหา น.ส.อ้อน เพราะต้องการไปทวงเงิน โดยไม่ได้คิดจะไปทำร้าย หรือข่มขืนใคร
เปิดแชตลุงข้างบ้านส่งข้อความหาผู้เสียหายขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ทีมข่าวมีการเปิดเผยแชตข้อความที่ นายหนอม ขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ น.ส.อ้อน โดยในแชตได้บอกว่าจะให้เงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อแลกกับการร่วมหลับนอนกับ น.ส.อ้อน
ขณะที่อีกแชตเป็นช่วงที่ นายหนอม ได้ยอมรับผิดกับ น.ส.อ้อน และขอโทษ น.ส.อ้อน ที่ได้ทำพฤติกรรมในลักษณะลวนลามและพยายามข่มขืน น.ส.อ้อน โดยในแชต น.ส.อ้อน ก็ได้ต่อว่ากลับไป
กัน จอมพลัง ฝากถึงเมียลุงข้างบ้าน อย่าหลงผัวให้มาก
ด้าน กัน จอมพลัง บอกว่าเบื้องต้นได้ประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ให้ช่วยเร่งรัดคดี เพราะขณะที่ลุงผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตปกติ และผู้เสียหายต้องถูกคนรอบบ้านตีตราว่าเป็นฝ่ายผิด เพราะไปอ่อยเขาก่อน
กัน จอมพลัง ยังฝากไปถึงภรรยาของผู้ก่อเหตุ ว่าอย่าเข้าข้างสามี ให้ลองนึกว่าหากตัวเองเป็นเหยื่อ ที่ถูกบุกเข้าในบ้านแล้วพยายามจะข่มขืนแต่กลับถูกตราหน้าว่าเป็นฝ่ายอ่อย ท่านจะรู้สึกอย่างไร
“ควรดูคลิปวงจรปิด อย่าเลือกที่จะฟังเหตุผลจากปากผัวให้มาก เพราะหากผัวไปทำเรื่องเลว ๆ ไว้ เขาก็คงไม่ยอมรับกับท่านตรง ๆ รู้จักผิดชอบชั่วดีเพราะท่านก็มีลูก ควรจะเป็นตัวอย่างให้ลูก ย้ำ !! อย่าหลงผัวให้มาก”
เมียลุงข้างบ้าน รู้มาตลอดว่าทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เคยเตือนให้หยุดแต่ไม่หยุด เตรียมฟ้องคบชู้กับสามีตนเอง
ด้านนางผ่อง (นามสมมุติ) ภรรยานายหนอม ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองรู้มาตลอดว่าสามีของตนเองกับหลานสาวมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน ซึ่งตนเองก็เคยถามสามีและยอมรับว่ามีอะไรกัน เคยขอร้องให้เลิกทำพฤติกรรมเช่นนี้ถึง 2 ครั้ง โดยสามีก็รับปากว่าจะเลิก แต่สุดท้ายก็ไม่เลิก จนกระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นที่สามีบุกรุกเข้าไปบ้านผู้เสียหาย
และวันเกิดเหตุตนเองก็ไม่ทราบว่าสามีออกไปตั้งแต่เมื่อไรเพราะตนเองนอนหลับแล้ว รู้แค่ว่าช่วงค่ำ ๆ สามีไปออกไปหาปลา และมาทราบอีกทีตอนที่ตำรวจมาหาที่บ้าน แจ้งว่าสามีบุกรุกบ้านนางอ้อน
ส่วนเรื่องที่สามีจะปลุกไปข่มขืนยายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงตนเองเชื่อว่าสามีไม่ได้ทำแน่นอน แต่ถ้าเข้าหา น.ส.อ้อน ตนเองเชื่อว่าสามีเข้าไปหานางอ้อนจริง เพราะทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมานานแล้ว ล่าสุดตนเองเตรียมที่จะหย่ากับสามีและฟ้องนางอ้อนในข้อหาคบชู้กับสามีตนเอง