กรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานพา น.ส.หมิว อายุ 21 ปี เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง เพราะเธอถูกนายจ้างที่เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านภาษีเจริญ ทำร้ายร่างกายเยี่ยงสัตว์มานานหลายปี และตามตัวของเธอก็มีร่องรอยบาดแผลอยู่ทั่วทั้งร่างกายเลย



วันนี้ 26 ตุลาคม 2566 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.หมิว ผู้เสียหาย มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาลโดยมี นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเอาไว้

จากนั้น น.ส.หมิว อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย ชี้แจงกรณีนายจ้างเปิดภาพที่เธอใช้มีดกรีดศีรษะตัวเองว่า นายจ้างได้มีการสั่งให้ตัวเองทำ โดยจะทักข้อความปชตมาหา แล้วให้วิดีโอคอลไปหา แล้วจะสั่งให้ทำร้ายร่างกายตัวเอง โดยเลือกวิธีการเองว่าจะทำวิธีการใดก็ได้ที่ทำแล้วมีเลือดออก ระหว่างเอาสก็อตเทปทุบหัวตัวเอง หรือเอามีดกรีด ซึ่งที่ตัวเองยอมทำร้ายร่างกายตนตัวเอง เนื่องจากว่าถ้าหากให้นายจ้างมาทำจะโดนทำร้ายหนักกว่านี้ ซึ่งที่ตัวเองต้องทำร้ายตัวเองจากการที่โดนเขาสั่ง ก็นับครั้งไม่ถ้วน



อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตัวเองยอมทำตามคำสั่งเขา เพราะตัวเองรู้สึกว่ายังเป็นหนี้เขาอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตัวเองเคยยืมเงินนายจ้างในเรื่อวค่าเดินทางไปทำธุระเกี่ยวกับคดี และค่าคลอดบุตรก่อนหน้านี้

ส่วนเรื่องที่นายจ้างบอกว่าตัวเองถอดเมมโมรี่การ์ดจากกล้องวงจรปิดนั้น ตัวเองยอมรับว่าเคยถอดจริง แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากตอนนั้น ตนได้ไปแอบกินเศษอาหารที่เหลือ ถ้าหากนายจ้างรู้ ก็กลัวจะโดนลงโทษ จึงถอดเมมโมรี่การ์ดกล้องวงจรปิดออกไป ส่วนครั้งอื่น ๆ เป็นนายจ้างที่ถอดเอง และนายจ้างจะถอดเมมโมรี่เพื่อที่จะไม่มีหลักฐานว่าได้ทำร้ายตัวเอง

นอกจากนี้เธอยังได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนอีกเลย ตั้งแต่คลอดลูกออกมา ซึ่งตัวเองก็พร้อมที่จะตรวจร่างกายเพื่อพิสูจน์ และไม่เคยได้รับเงินเดือนเลยสักครั้งจากนายจ้าง



ส่วนเรื่องที่ว่าตัวเองขโมยนาฬิกาของนายจ้างนั้น ขอยืนยันว่า ที่ตัวเองทำไปเพราะนายจ้างเป็นคนบังคับให้ตัวเองหยิบนาฬิกาใส่กระเป๋า ก่อนที่เขาจะบันทึกคลิปไว้เป็นหลักฐาน ว่าตัวเองเป็นคนขโมยนาฬิกาเขา เพื่อเอาคลิปนั้นใช้ในการขู่ตัวเอง

โดยเหตุการณ์ทั้งหมดตัวเองก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะกลัวนายจ้างจะไปคุกคามครอบครัว หรือมาทำร้ายคนในครอบครัวตัวเอง หลังให้สัมภาษณ์ น.ส.หมิว ผู้เสียหาย ได้โชว์บาดแผลตามร่างกาย ให้ทีมข่าวดู ซึ่งเป็นบาดแผลจากที่เจ้าตัวถูกนายจ้างทำร้าย

ด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี จะนำผมลูกจ้างไปตรวจหาสารเสพติด พร้อมกับแนะนำว่า ให้พาน้องไปตรวจสุขภาพจิตให้แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อหาข้อเท็จจริง ดร.ธนกฤต ยังมีการโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ของกรมสุขภาพจิต เพื่อให้ดูแลผู้เสียหาย ในเรื่องของการตรวจสภาพจิตใจ และดูแลสุขภาพจิตใจของน้องด้วย



ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพบกับนายฤทธิ หนึ่งในพยาน ซึ่งเป็นชาวบ้านตรงข้ามหอพักของผู้เสียหาย ภายในซอยเพชรเกษม 58 กรุงเทพมหานคร

นายฤทธิ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ตัวเองอยู่หอพักตรงข้ามกับผู้เสียหาย เท่าที่ตัวเองเจอกับผู้เสียหายเวลาอยู่หอพัก ตัวเองพบว่าเขาไม่เคยมีเงินใช้หรือมีเงินติดตัวเลย บางวันเค้าเดินมาขอเศษเงินจากตัวเองด้วยสภาพร่างกายที่มอมแมม มีร่องรอยบาดแผลเต็มตัว โดยเขาพูดกับตัวเองว่า “พี่ มีเศษตังค์ไหม หนูจะขอซื้อมาม่า” ซึ่งตัวเองก็ให้เงินเขาไปเพราะเป็นการช่วยเหลือให้เขาได้มีข้าวกิน

โดยตัวเองจะเจอผู้เสียหายรายนี้ บ่อยบ่อยช่วงเวลาประมาณตีสองตีสาม ที่เขาเดินกลับหอพักหลังจากเลิกงาน ซึ่งก็เคยถามเขาว่าทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไหร่ เขาก็บอกว่า เค้า ทำงานอาหารญี่ปุ่น แต่เค้าไม่มีเงินเงินเดือน เนื่องจากเป็นหนี้นายจ้าง

มีวันหนึ่ง ตัวเองเห็นบาดแผลตามร่างกายของน้อง และพบว่าน้องโกนผม ทั้งยังมีบาดแผลที่ศีรษะ จึงถามน้องว่าไปโดนอะไรมา เขาก็บอกว่าเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยไม่ยอมปริปากบอกตัวเอง ว่าถูกทำร้าย ส่วนที่เค้าไม่อยากแจ้งความ เนื่องจากเขาถูกนายจ้างข่มขู่ เพราะนายจ้างเขาอ้างว่าเขารู้จักกับตำรวจยศใหญ่



กระทั่งประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเองเจอเขาอีกครั้ง เขาถึงยอมสารภาพว่า เขาถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย ที่เขาเล่าให้ฟังก็จะมี ถูกนายจ้างเอาแก้วฟาดปาก เอาข้าวของในร้านตีหัว และเวลาน้องไปหาหมอ เพื่อรักษาบาดแผล นายจ้างก็ให้น้องบอกกับหมอว่า “น้อง เป็นโรคซึมเศร้า และทำร้ายร่างกายตัวเอง”

ส่วนประเด็นเรื่องของยาเสพติด ตัวเองก็ยืนยันว่าน้องไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะขนาดเงินจะกินข้าวน้องก็ยังไม่มีเลย และตัวเองก็ไม่เคยเห็นน้องมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายอีกด้วย ตัวเองเชื่อว่าน้องหมิว เขาพูดความจริง

นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 อย่างกล้องวงจรปิด วินาทีที่ น.ส.หมิว ผู้เสียหาย สวมเสื้อแดง เดินมาขอความช่วยเหลือที่หน้าบ้านของพลเมืองดี หลังจากที่เจ้าตัวหลบหนีออกมาจากร้านอาหารญี่ปุ่นในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม 58 นาที



ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังหอพักของ น.ส.หมิว ในพื้นที่เพชรเกษม 58 กทม. ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.น้อย นามสมมติ คนดูแลหอพัก ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองจำไม่ได้ว่าน้องหมิวอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งนี้ได้กี่ปี โดยช่วงแรก ๆ เขาจะอาศัยอยู่กับเพื่อน กระทั่งเพื่อนย้ายออกไป เชาก็อาศัยอยู่คนเดียว

โดยช่วงที่เขาอาศัยอยู่กับเพื่อนนั้น ตัวเองก็เคยให้คนเข้าไปทำความสะอาดในห้องดังกล่าว ซึ่งก็ได้เจอกับอุปกรณ์เสพยา แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นของหมิว หรือว่าของเพื่อน แต่พอเพื่อนย้ายออกไปแล้ว ช่วงที่หมิวอยู่คนเดียว ตัวเองก็ไม่เคยเห็นอุปกรณ์เสพยาในห้องของหมิวอีกแล้ว



ยอมรับว่าตอนที่หมิวอาศัยอยู่หอพัก เขาจะไม่ค่อยพูด เป็นคนเงียบ ๆ ซึ่งตัวเองเคยสังเกตุเห็นบาดแผลขนาดใหญ่ ที่แขนของนางสาวหมิว ก็ถามเขาไปว่าไปโดนอะไรมา เขาก็บอกว่า โดนน้ำมันลวกมาจากที่ทำงาน และเห็นว่าเขาชอบใส่ปลอกแขนอยู่บ่อย ๆ จึงไม่ค่อยเห็นบาดแผลในตัวเขา กระทั้งมาทราบอีกทีก็ตอนที่เป็นข่าว ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หมิวได้ย้ายออกจากหอพักตัวเองไป แล้วตัวเองก็ไม่เจอเขาอีกเลย

ช่วงที่หมิวอยู่หอพักตัวเอง เขาก็ไม่เคยมีพฤติกรรมขโมยของ หรือลักทรัพย์คนในหออีกด้วย ส่วนนายจ้าง ของนางสาวหมิว ตัวเองก็เคยเจอเขานาน ๆ ครั้ง เท่าที่พูดคุย เขาก็ดูเป็นคนจิตใจดี

 

ลูกจ้างโต้แหลกนายจ้างยัดผิด กรีดหน้าถูกบังคับ ชาวบ้านเชื่อเรื่องจริงงัดคลิปแฉ