จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตอยู่บนภูเหล็กไฟอย่างปริศนา เมื่อ 11 พฤษภาคม 2563 ซึ่งในขณะนั้นเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนและแจ้งถูกออกหมายจับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องชมพู่ คือ นายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นจำเลยในคดี ถูกตำรวจออกหมายจับฐาน “เจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล , ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปีเป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณพบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น”



ส่วนนางสมพร หรือ ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล ถูกได้แจ้งข้อหา “กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น” ซึ่งหลังจากมีการสืบพยานมาเกือบ 3 ปี ล่าสุด ใกล้ถึงตอนอวสานเมื่อศาลจังหวัดมุกดาหารได้นัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปที่วังปู่ปาริจิต - นาลุงพลป้าแต๋น ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เนื้อที่ทั้งหมด 8 ไร่ ติดถนนทางหลวงชนบท ซึ่งถือเป็นอาณาจักรแห่งใหม่ของลุงพล ที่ได้ย้ายทั้งพญานาค และมาสร้างบ้านอยู่ที่แห่งใหม่ หลังศาลมีคำสั่งว่าวังพญานาคของลุงพลบุกรุกป่า ที่บ้านกกกอก

เมื่อทีมข่าวไปถึงพบว่า ลุงพลกำลังยืนฉาบปูนทำห้องครัวใหม่ โดยมีกลุ่มยูทูบเบอร์นับ 10 คน กำลังไลฟ์สดเกาะติดชีวิตลุงพลอยู่ไม่ห่าง โดยลุงพลยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และพูดเล่นหยอกล้อกับกลุ่มยูทูบเบอร์อย่างสนุกสนาน ไม่ได้มีสีหน้ากังวล หรือ เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านแต่อย่างใด

ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามลุงพล ถึงความรู้สึกเมื่อใกล้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม ที่ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ลุงพลตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าน้องชมพู่ โดยเจ้าตัวบอกกับทีมข่าวว่า ตนเองนั้นรอคอยวันนี้มานานแล้ว เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตนเองถูกตกเป็นจำเลยสังคมที่มองว่าเป็นคนฆ่าน้องชมพู่ ซึ่งตนเองปฏิเสธและต่อสู้มาโดยตลอด โดยในวันที่ 30 ตนเองจะเดินไปรับฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดมุกดาหารแน่นอน ไม่มีการหลบหนีไปไหน



ส่วนความกังวลยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีกังวลบ้าง แต่หลังจากมีการสืบพยานรอบสุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีความกังวลแล้ว และคงต้องปล่อยให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะตัดสิน ส่วนกำลังใจตอนนี้ตนเองมีกำลังใจค่อนข้างมาก เนื่องจากมีกำลังใจจากครอบครัว ญาติ และเหล่าเอฟซีจากทั่วทุกมุมโลกคอยส่งกำลังใจมาให้

ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคมที่จะถึงนี้ หากศาลตัดสินยกฟ้อง ให้ตัวเองไม่มีความผิด ก็ถือว่า ที่ผ่านมาตนเองเดินมาถูกทางแล้ว และสังคมจะได้รู้เสียทีว่าอะไรเป็นอะไร และเมื่อวันนั้นมาถึงก็อยากให้สังคมตัดสินตนเองจากความจริง ส่วนจะมีการฟ้องกลับ กับบุคคลใดบ้าง ก็ขอปรึกษากับทีมทนายความอีกครั้งก่อน แต่หากศาลตัดสินสั่งลงโทษ ตนเองยืนยันว่าจะมีการ ต่อสู้ทางคดี และยื่นอุทธรณ์ต่อไปแน่นอน “เราตั้งใจที่จะสู้ให้ถึงที่สุด”



ส่วนก่อนจะถึงวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา ตนเองจะถือเคล็ดก้าวเท้าไหนออกจากบ้าน หรือ ไปทำบุญที่ไหนบ้าง ตนเองคงไม่ได้ไปไหน หรือ คิดถึงว่าจะก้าวเท้าไหนออกจากบ้าน ที่ผ่านมาสื่อนำไปเป็นประเด็นเอง ซึ่งก่อนวันตัดสินตนเองคงไม่มีวันพิเศษอะไร ตนเองจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลมุกดาหารในช่วงเช้าตามปกติ และเรียบง่าย

เช่นเดียวกับป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองและสามีพร้อมทีมทนายความ ที่ผ่านมาได้ร่วมกันต่อสู้มาจนถึงวันนี้แล้ว ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นวันตัดสิน พวกตนเองก็รอฟังคำตัดสินของศาลอยู่ ส่วนความกังวลตอนนี้ไม่มี เพราะ ถือว่าได้ต่อสู้เต็มที่มาตั้งแต่แรกแล้ว “ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว อะไรมันจะเกิดขึ้นมันก็ต้องเกิด”

และถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาเพียงไม่กี่วันตนเองและสามีก็ทำตัวตามปกติอยู่บ้านไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังคงก่อสร้างครัวใหม่ ยังกินข้าว นอนหลับปกติ



นอกจากนี้ ป้าแต๋นยังฝากขอบคุณไปยังเอฟซีทุกคนที่ คอยให้กำลังใจตนเองและลุงพลมาตลอด ถึงแม้ว่าตนเองและลุงพลจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าน้องชมพู่ แต่เอฟซีทุกคนก็คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างพวกตนเองมาโดยตลอดหนีหายไปไหน และยิ่งนานวันเอฟซีของพวกตนเองก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใครที่ไม่ชอบตนเองและรู้ผล พวกตนเองที่ผ่านมาไม่เคยเก็บมาใส่ใจ หรือเก็บมาคิดกังวลอยู่แล้ว เพราะเกิดเป็นคนมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ

ส่วนก่อนที่จะถึงวันตัดสิน ในวันที่ 29 ตุลาคม นี้ ตนเองจะมีการทำบุญใหญ่กับองค์ปู่ปาริจิตในช่วงเช้า และรออีกทีหลังคำตัดสินของศาลเลยทีเดียว

พ่อแม่น้องชมพู่ มั่นใจหลักฐานมัดตัวคนร้ายฆ่าน้องชมพู่ได้

ส่วนทางฝั่งของครอบครัวของน้องชมพู่ ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนายอนามัย วงศ์ศรีชา และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่ของน้องชมพู่



สาวิตรี แม่น้องชมพู่ บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองเฝ้ารอคอย วันที่ 31 ตุลาคม ที่จะถึงนี้มานานมากกว่า 3 ปี 5 เดือน ที่น้องชมพู่ลูกสาวจากไป และยังมีความเชื่อมั่นมาตลอดว่า ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อมอบให้แก่ศาลพิจารณาลงโทษตัวคนร้ายที่ลงมือฆ่าน้องชมพู่ได้แน่ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองได้พูดคุยกับตำรวจชุดคลี่คลายคดี และรับรู้ถึงพยานหลักฐาน ซึ่งตนเองค่อนข้างมั่นใจ เกินกว่า 90% ว่า ศาลจะพิจารณาลงโทษคนร้ายที่ทำร้ายน้องชมพู่ได้



แต่ไม่ว่าผลจะออกเป็นอย่างไร ทางครอบครัวก็น้อมรับในคำตัดสินของศาล แต่ก็ยังเชื่อเสมอว่าคนร้ายจะได้รับโทษกับสิ่งที่ได้กระทำลงไปอย่างแน่นอน และทางครอบครัวก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อให้น้องชมพู่ได้รับความยุติธรรม

อย่างไรก็ตามอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันตัดสินคดีแล้ว ทางพ่อและแม่ของน้องชมพู่ยังไม่ได้มีการทำบุญให้น้องเป็นพิเศษ เพราะในทุกวันสำคัญทางศาสนา ทางครอบครัวก็จะไปไหว้น้อง และทำบุญให้น้อง ที่สถูปภายในวัดถ้ำภูผาแอกอยู่แล้ว พอหลังจากตัดสินคดีจบ
ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 66 นี้ก็จะมีการจัดงานทำบุญใหญ่ให้กับน้องอีกด้วย

นอกจากพ่อแม่น้องชมพู่ยังได้พาทีมข่าว เข้าไปดูภายในบ้าน ซึ่งยังคงติดรูปของน้องชมพู่ลูกสาวจำนวนมากไว้บริเวณผนังบ้าน โดยเธอบอกว่า น้องชมพู่เปรียบเสมือนดวงใจที่ทำให้ตนเองมีแรงในการทำงาน และเป็นแรงขับเคลื่อนให้ตนเองต่อสู้คดีเพื่อลูก



โดยอาชีพของตนเองนั้นปัจจุบันมีหลากหลาย อาชีพหลักคือขายเสื้อผ้าไหม ซึ่งมีรายได้จากการขายขายของออนไลน์ โดยมีลูกสาวคนโตคือสะดิ้ง และนายอนามัยสามีเป็นคนช่วยขายของ นอกจากนี้ยังมีรายได้ส่วนอื่น เช่น การเข้าสวนกรีดยางพาราอีกด้วย

ส่วนวันที่ 31 ตุลาคม นั้น ตนเองจะเดินทางไปตั้งแต่เช้า โดยจะไปรอที่จังหวัดมุกดาหารตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมเลย โดยจะมีแฟนคลับเดินทางมาให้กำลังใจด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเองก็อยากขอบคุณประชาชนและแฟนคลับทุกคนที่ยังให้ความความสนใจกับข่าวนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจครอบครัว

นอกจากนี้ทีมข่าวยังย้อนกลับไปเก็บภาพบรรยากาศบริเวณหน้าบ้านของน้องชมพู่ จุดที่น้องหายตัวไป โดยจุดที่น้องหายตัวไปนั้นอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้านของน้อง พบว่า ปัจจุบันแม่น้องชมพู่ได้สร้างบ้านใหม่ รวมถึงบ้านของน้าต่ายที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นน้องสาวของแม่น้องชมพู่ สภาพบ้านแต่ละหลังเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

ยูทูบเบอร์น้ำตาคลอ ประกาศชัด ! พร้อมยืนเคียงข้างลุงพล

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายพิทักษ์ อายุ 58 ปี หรือ จิมมี่เรื่องจริง หนึ่งในยูทูบเบอร์ที่ตามติดชีวิตลุงพล บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองนั้นเริ่มต้นติดตามชีวิตลุงพลตั้งแต่ช่วงแรกที่ลุงพลเริ่มโกนหัว ซึ่งตอนนั้นลุงพลได้โกนหัว เพื่อล้างซวย เอาสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต

ในตอนนั้นตนเองได้ติดตามข่าวจากโทรทัศน์ และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ชีวิตน่าสงสารที่ถูกกล่าวหา และรู้สึกเห็นใจลุงพล จากนั้นจึงเดินทางมาตามติดชีวิตลุงพลพร้อมกับเพื่อนยูทูบเบอร์อีกหนึ่งคน

ซึ่งจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ช่องยูทูบเบอร์ของตนเอง คนติดตามหลักร้อย ตอนนี้เพิ่มมาจนถึง ผู้ติดตาม 3 แสนกว่าคนแล้ว ถือว่า เยอะมาก ช่วงกระแสดัง ๆ ไลฟ์สด 1 ครั้งคนดูหลักหมื่น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า มีประชาชนและแฟนคลับให้กำลังใจและสนใจในชีวิตลุงพลมาก โดยตนเองเคยได้ข้อมูลว่าฐานแฟนคลับของลุงพลนั้นมีไม่ต่ำกว่า 5,000,000 คน อิงจากผู้ติดตามในแต่ละช่องของเหล่ายูทูปเบอร์ที่ตามติดชีวิตลุง



และการที่ตนเองได้มาเป็นยูทูบเบอร์ตามติดชีวิตลุงพลนั้น ทำให้ตนเองมีอาชีพ มีกินมีใช้ทุกวันนี้ได้ก็เพราะลุงพล ลุงพลเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของตนเองไปแล้ว และถือเป็น “ผู้ชุบชีวิต” ของตนเองเลยก็ว่าได้

เช่นเดียวกับกลุ่มยูทูบเบอร์นับ 10 คน ที่ยังคงตามติดชีวิตลุงพล ซึ่งทุกคน มีกินมีใช้ทุกวันนี้ได้ก็เพราะลุงพลคอยช่วยเหลือ ขนาดที่พัก พวกตนเองมีบ้านอยู่ ลุงพลและป้าแต๋นให้ความช่วยเหลือให้ที่พักฟรี โดยไม่เสียเงินซักบาท ออกแค่ค่าน้ำและค่าไฟฟ้าเท่านั้น กินอยู่ ทำงานด้วยกันเหมือนครอบครัว

เพราะฉะนั้นในวันที่ 31 ตุลาคมที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา พวกตนเองและกลุ่มยูทูบเบอร์ทั้งหมดทั่วทุกมุมโลก จะเดินทางให้กำลังใจลุงพลบริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารแน่นอน โดยในวันนั้นจะมีการใส่เสื้อทีมลุงพลป้าแต๋นกันทุกคน

นอกจากนี้ยังมีเหล่าแฟนคลับที่จะนั่งรถทัวร์จากทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยมากำลังใจลุงพลและป้าแต๋นด้วย คาดว่าในวันนั้น จะมีกลุ่มยูทูบเบอร์ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 200-300 คน และมีเหล่าแฟนคลับมาให้กำลังใจ รวมทั้งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ซึ่งตนเองเชื่อว่าในวันนั้นบริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร คงมีประชาชนมาเฝ้าติดตามคำตัดสินของศาลจนแน่นเต็มท้องถนน ซึ่งตนเองได้ข่าวมาล่าสุดโรงแรมภายในเมืองจังหวัดมุกดาหารเริ่มมีเหล่าแฟนคลับของลุงพลได้ติดต่อจองห้องพักกันเกือบทั้งหมดแล้ว

และไม่ว่าในวันนั้นคำตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไร ตนเองถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของลุงพลและป้าแต๋นไปแล้ว ตัวเองยืนยันจะยังอยู่เคียงข้างลุงพลและป้าแต๋นเหมือนเดิม และจะรักลุงพลป้าแต๋นตลอดไป

ลุงพลลุ้นคำตัดสินลั่นไม่หนี FC ทำเสื้อเชียร์มานับพันหน้าศาล แม่ชมพู่พูดชัด "เจอกัน"