จากรณีตำรวจราชบุรียิงญาติข้างบ้านเสียชีวิตเนื่องจากจัดงานแต่งเปิดเพลงเสียงดัง สภาพที่เกิดเหตุพบร่องรอยของงานเลี้ยง มีชุดเครื่องเสียง โต๊ะจีน และรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ 2 คัน ท่ามกลางเสียงญาติที่อยู่ในงานด้วยอาการความเศร้าโศกเสียใจ ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ ร.ต.ต.สนธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดราชบุรี

ลูกสาวผู้ตายหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นตำรวจศาล

ทีมข่าวช่อง 8 พบกับ น.ส.พัณณิตา อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ตาย เล่าว่า ในช่วงที่เกิดเหตุเมื่อวานตนอยู่ภายในห้องเพราะเตรียมแต่งตัวที่จะไปงานเลี้ยงงานแต่งที่โรงแรมในช่วงเย็น ซึ่งในช่วงเช้าได้ตัดพิธีในช่วงเช้าที่บ้านไปแล้ว ซึ่งในช่วงนั้นพ่อของตนก็ได้ไปบอกให้คนคุมเครื่องเสียงได้เปิดเพลงซัก 2 เพลงห่อนที่จะเก็บเครื่องเสียง ซึ่งคนอื่นๆและเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ไปที่ง่นเลี้ยงหมดแล้วที่บ้านจึงจะเหบือแต่เด็กและผู้หญิง

จากนั้นตนจึงได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นเพลงแรก ซึ้งจากการฟังก็ยอมรับว่าดังจริง แต่ได้ซักพักเสียงเพลงก็เหมือนเบาลง และหบังจากนั้นได้ซักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมีเสียงดังโครมครามซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสียงที่พ่อของตนได้วิ่งหนีมาหลังตากถูกยิงและมาชนกับรถจักรยานยนต์ล้ม2คัน บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นจึงได้วิ่งเข้ามาในห้อง และบอกว่า “กูถูกยิงพาส่งโรงพยาบาลหน่อย” ซึ่งตนก็เห็นในช่วงนั้น ซึ่งจากนั้นพ่อก็หมดสติไปและหายใจโรยรินลงเรื่อยๆซึ่งขณะนั้นที่บ้านมีรถแต่ก็ไม่มีใครขับได้เลยเพราะมีแต่เด็กและผู้หญิง และตนได้เห็นว่าบริเวณที่พ่อของตนถูกยิงคือใต้ราวนมข้างซ้าย ซึ่งหลังจากนั้นแม่ของตนก็ได้วิ่งออกไปจ้างนอกห้องเพื่อไปหาคนมาช่วยเหลือและนำพ่อส่งโรงพยาบาล

ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้ก็น่าจะมาจากการเปิดเพลงเสียงดังแล้วทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ส่วนเรื่องบาดหมางกันก่อนนี้เท่าที่รู้เรื่องส่วนตัวไม่น่ามีจะมีแต่รุ่นของพ่อแม่และผูเใหญ่ที่มีเรื่องบาดหมางเรื่องที่ดินกัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรซึ่งหบังจากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ และเรื่องได้ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้เข้าใาเป็นเขยของบ้าน ซึ่งบ้านเขาและบ้านพ่อก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็เปรียบเหมือนญาติกัน จึงไม่น่าจะมาทำแบบนี้

อีกทั้งในช่วงที่ก่อเหตุก็ยังมีน้องของตนซึ่งอายุเพียง 7 ขวบ ก็อยู่ในเหตุการณ์ตลอดและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ตนจึงคิดว่าผู้ก่อเหตุไม่ควรทำแบบนี้เลยมันเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมเกิดไป และตัวผู้ก่อเหตุยังเป็นตำรวจจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วย

ภรรยาห่วงคดีนี้เพราะเป็นตำรวจศาล ขอความเป็นธรรม ตำรวจอย่าช่วยตำรวจ

ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.ยุจิรา ซึ่งเป็นภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุเมื่อวานตนอยู่ระหว่างการแต่งตัวเพื่อที่จะไปงานเลี้ยงงานแต่งงานของน้อง ซึ่งตนก็อยู่ภายในห้อง ซึ่งช่วงแรกต้นก็ได้ยินเสียงเพลงก็ยอมรับว่าเสียงเพลงดังจริง แต่ได้สักพักก็ได้เบาลง จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าใครจุดประทัดหรือทำอะไร พอได้สักพักต้นจึงเห็นว่า นายเกมส์วุฒิ ได้วิ่งเข้ามาภายในห้องและตะโกนบอกให้ตนช่วยเรียกรถพยาบาลเนื่องจากถูกยิง

จากนั้นจึงล้มลง ตนจึงได้เข้าไปดูและได้เห็นว่า นายเกมส์วุฒิ ได้ถูกยิงหนึ่งนัดบริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ออกไปดูด้านนอกจึงได้พบกับ ร.ต.ต.สนธยา ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านของเขาซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของตน ตนจึงได้ตะโกนถามไปว่า “ทำไมถึงทำแบบนี้” ร.ต.ต.สนธยา จึงได้ตะโกนตอบกลับมาว่า “ก็กูบอกให้เบาเสียงเพลงแล้วทำไมไม่เบาให้กู” จากนั้นจึงได้เดินขึ้นบ้านไปโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย แล้วในขณะนั้นบ้านตนมีแต่เด็กกับผู้หญิงซึ่งไม่มีใครขับรถได้ จึงไม่สามารถพา นายเกมส์วุฒิ ไปโรงพยาบาลได้ตอนดึกต้องวิ่งไปเรียกขอความช่วยเหลือจากคนติดบริเวณด้านนอก ซึ่งหลังจากนั้นก็มีคนโทรเรียกรถพยาบาลและรถกู้ภัยให้ จึงได้เข้ามาดู

นายเกมส์วุฒิ ได้พบว่าหมดสติไปแล้ว ซึ่งโดยสาเหตุก็น่าจะมาจากเรื่องการเปิดเพลงเสียงดัง เพราะเขาได้อ้างว่าภรรยาของเขาเป็นโรคหัวใจ ส่วนเรื่องการบาดหมางกันเรื่องอื่น ก็จะจะมีเรื่องที่ดินใช้เป็นเส้นทางเข้าออกของบ้าน แต่เรื่องมันก็ผ่านไปตั้งสองปีแล้ว จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องให้โกรธแค้นจนก่อเหตุดังกล่าว

ซึ่งในตอนนี้ตนก็เป็นห่วงเรื่องคดีเป็นอย่างมากเพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจและยังมีญาติเป็นตำรวจยศใหญ่อีกหลายคน ซึ่งเรื่องมันเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยจึงไม่น่าจะมาทำกันถึงขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นห่วงลูกทั้งสองคน เพราะ นายเกมส์วุฒิ ถือว่าเป็นเสาหลักของบ้าน ซึ่งจะทำมาหากินด้วยกันขับขายกับข้าวลักษณะรถพุ่มพวง เลี้ยงครอบครัว จึงอยากฝากกับเจ้าหน้าที่อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด และดำเนินการด้วยความเป็นธรรมและยุติธรรม

ตำรวจโหด! ฉุนเพื่อนบ้านเปิดเพลงดังบุกรัวปืนกลางงานแต่ง ลูกช็อกภาพติดตานาทีพ่อตาย