ความคืบหน้ากรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ผู้ต้องโทษที่หลบหนีขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี แต่ตำรวจได้ควบคุมผู้ร่วมก่อเหตุพาเสี่ยแป้งหนีได้ 6 คน

บิ๊ก จักรี 1 ในผู้ต้องหาช่วย "เสี่ยแป้ง" หลบหนีจากโรงพยาบาลขอมอบตัว

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บิ๊ก หรือ นายจักรี สามีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ ทราย ติดต่อมาเพื่อขอมอบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ ปรากฏว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 07.00 น. โดยนายบิ๊กได้ประสานนายตำรวจรายหนึ่งเพื่อขอเข้ามอบตัวในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ก่อนที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปรับตัวก่อนที่นำตัวมาในพื้นที่พัทลุง

เบื้องต้นช่วงประมาณเวลา 11.00 น. ทางเจ้าที่ตำรวจได้นำตัวในส่วนของ “นายบิ๊ก” ขึ้นรถตู้ มายังบริเวณบ้านของเจ้าตัวที่มีการตรวจค้นไปเมื่อวานนี้ และเป็นบ้านที่ทางเจ้าหน้าที่กองปราบได้มีการคุมตัวในส่วนของภรรยา “นางสาวทราย”

พี่สาวเครียดไม่ยอมพูดหลัง บิ๊ก น้องชายถูก

จากนั้นได้ขับรถพานายบิ๊กออกไป โดยไม่ได้ลงจากรถเข้ามาที่บ้าน ระหว่างนั้นพี่สาวของนายบิ๊กได้กลับมาเอากุญแจรถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพี่สาวนายบิ๊กว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง เพราะช่วงแรกที่มีข่าวออกมาพี่สาวของนายบิ๊กได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ว่า น้องตนเองไม่ได้เดี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน แต่ทางพี่สาวของนายบิ๊กปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามใดๆกับสื่อ มีเพียงยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้าน

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนได้เดินทางไปยังบริเวณคอกวัวของญาติ “นายบิ๊ก” ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลพญาขันต์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อตรวจยึด รถยนต์กระบะ 4 ประตู ดีแมกซ์ สีขาว ของ “นายบิ๊ก”ที่เป็นรถ 1 ใน 3 คันพาเสี่ยแป้งหนีออกจากโรงพยาบาลโดยได้นำมาจอดไว้บริเวณคอกวัวของญาติพื้นที่ใกล้เคียงบ้าน ทั้งนี้ภายในรถตรวจพบกระเป๋าสีดำ 1 ใบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋าที่ตรวจสอบพบในช่วงวันที่มีการนำกระเป๋าใส่เสื้อผ้า และอุปกรณ์บางส่วนในการช่วยเหลือ

ทางด้าน พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจค้นรถกระบะคันดังกล่าว โดยเบื้องต้นไม่พบในส่วนของอาวุธปืนหรือสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ตรวจพบในส่วนของกระเป๋าสีดำซึ่งภายในมีซองสีน้ำตาล พร้อมป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวถอดยัดอยู่ภายในกระเป๋า รวมไปถึงยังมีข้าวของเครื่องใช้บางส่วนซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการตรวจค้นเนื่องจากต้องรอในส่วนของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ขณะที่ในส่วนของรถกระบะคันดังกล่าวถ้าเป็นชื่อแม่ของทาง ”นายบิ๊ก“ รถกระบะคันขาวเป็นคันที่ทางนายบิ๊กได้ขับไปรับตัวในส่วนของเสี่ยแป้งเพื่อใช้ในการหลบหนีตามที่ปรากฏในกล้องวงจร


คุมตัว บิ๊ก สมุนเสี่ยแป้งสอบต่อที่ ตชด.434 นครศรีธรรมราช

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการเข้าควบคุมตัวในส่วนของ นายบิ๊ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติมที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 (ร้อย ตชด.434) ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง โดยไม่อนุญาต ให้ทางสื่อมวลชนได้เข้าไปในบริเวณที่มีการสอบสวน ก่อนที่จะมีการนำรถกระบะที่ตรวจยึดเข้ามาภายในบริเวณ ตชด.ดังกล่าว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้น ในเบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการชี้แจงในเรื่องของการออกหมายจับและพูดคุยเบื้องต้นกับทางนายบิ๊ก โดยทางเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ยังคงสามารถพูดคุยและสื่อสารกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามปกติ


แม่เครียดเตรียมเงินประกันลูกสาว "ทราย" เมียบิ๊ก ช่วยเสี่ยแป้งหนี

ต่อมาแม่ของนางวิลาวัลย์ หรือ ทราย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลและเป็นภรรยาของนายจักรี หรือ บิ๊ก ได้เดินทางมาที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางมาประกันตัวลูกสาว โดยขณะนั่งรอประกันตัวลูกสาวทีมข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งแม่ของทรายมีท่าทีเครียดมาก และไม่อยากตอบคำถาม เราพยายามถามว่า “ทรายได้หลบหนีไปกับบิ๊กหรือไม่” ซึ่งแม่ตอบว่า “ไม่ได้หลบหนี”

จากนั้นทีมข่าวได้ถามว่า “บิ๊กได้ติดต่อกลับมา หรือมาที่บ้านพักหรือไม่” ปรากฎว่าแม่ไม่พูดอะไรเลย ก่อนเดินหนีไม่ตอบคำถาม

ต่อมาตำรวจก็คุมตัวนางวิลาวัลย์ หรือ ทราย ออกมาทันทีเพื่อไปฝากขังต่อ ระหว่างที่คุมตัวทรายออกจากห้องสอบสวน ทีมข่าวได้พยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าทรายอยากจะชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ รวมทั้งบิ๊กซึ่งเป็นสามีได้ติดต่อกลับมาหลังก่อเหตุหรือไม่ และทราบหรือไม่ว่าบิ๊กหลบหนีไปที่ใด ปรากฏว่าทรายไม่มีการตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น แต่เมื่อทีมข่าวได้สอบถามว่าทรายได้พยายามหนีไปกับบิ๊กหรือไม่ ทรายก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที

คุมตัว ลูกวัว จีระวุฒิ ผู้ต้องหาคนสำคัญสอบเครียดหลังพา เสี่ยแป้ง หนี!

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทน ผบช.ภ.9 เดินทางเข้ามาสอบปากคำทางด้าน นายปอย หรือ นายจีระวุฒิ ไปสอบปากคำที่กองร้อยตระเวนชายแดนที่ 434 โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีต รอง ผบ.ตร. มาสอบปากคำร่วม

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ ยืนยัน ว่าทางทั้งสองผู้ต้องหาเองมีการติดต่อขอมอบตัวเข้ามา โดยจากพฤติการณ์ที่มีการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้งคู่เองมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นบุคคลที่เข้าไปช่วยเหลือในการหลบหนี ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวนำตัว“เสี่ยแป้ง” ไปส่งที่จุดบริเวณพื้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างพัทลุง- ตรัง ก่อนที่ทางเสี่ยแป้งและสมุนได้มีการประสานกับทางบุคคลที่คาดว่าเป็นคนที่สนิทและทางเจ้าตัวเองนับถือเพื่อให้ช่วยเหลือในการหลบหนี

หลังจากนั้นในส่วนของทางสมุยหรือลูกน้องหลังจากที่มีการส่งเสี่ยแป้งแล้วเสร็จก็ได้มีการแยกย้ายกลับมายังบริเวณบ้าน ก่อนที่จะมารับตัวของภรรยาและลูก ทั้งคู่เพื่อหลบหนีไปยังบริเวณอื่น แต่เมื่อพอเป็นกระแสข่าวค่อนข้างดังทำให้ทั้งเจ้าตัวเองรู้สึกผิดและคิดว่าไม่สามารถหลบหนีได้จึงได้พยายามที่จะติดต่อเข้ามามอบตัว รวมไปถึงไม่มีใครช่วยเหลือเลยต้องจำใจมอบตัว

ทั้งนี้ยอมรับว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้นในส่วนของทางนายบิ๊กและนายปอย มีประโยชน์ในการขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปตามตัวของ “เสี่ยแป้ง” ถือว่าข้อมูลสำคัญกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งข้อมูลเอาผิด ทางสถานีตำรวจเองมีข้อมูลชัดเจน แต่ในส่วนการที่จะตามตัวอาจจะต้องใช้เวลาเนื่องจากทางเจ้าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างมีเครือข่าย ตลอดจนทางเจ้าตัวเองเคยมีประสบการณ์และอดีตในเรื่องของคดี เลยค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในเรื่องของการหลบหนี ยืนยันไม่หนักใจและคิดว่าคงตามตัวได้ มีการประสานทุกช่องทางที่เชื่อมโยงและมีความเป็นไปได้ว่าทางเจ้าตัวจะหลบหนี


คุมตัว บิ๊ก-ปอย ส่งไปพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช

กระทั่งเวลาช่วงประมาณ 19.10 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมกำลังประมาณ 10 นาย ได้มีการคุมตัวในส่วนของ 2 ผู้ต้องหา เพื่อนำส่งต่อตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชเจ้าของคดี โดยระหว่างที่มีการคุมตัวนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสวมชุดเกาะพร้อมอาวุธปืนเพื่อตรึงกำลังในส่วนของผู้ต้องหา ขณะที่ในส่วนของผู้ต้องหาเองเบื้องต้นในส่วนของ “นายบิ๊ก” มีการนำในส่วนของผ้าปิดบังใบหน้าบางส่วนโดยที่ทางใบหน้าของตัวนั้นลักษณะปกติไม่ได้มีความเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด และจะมีอาการค่อนข้างอ่อนล้า เช่นเดียวกับทางนายปอย ซึ่งทางเจ้าตัวเองไม่ได้มีการปกปิดใบหน้าแต่อย่างใดโดยที่มีการเดินขึ้นรถตามปกติ ทั้งนี้ทั้งคู่ไม่ได้มีการเปิดปากหรือพูดคุยกับนักข่าว

เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองขอความร่วมมือ ไม่ให้ทีมข่าวสอบถาม หรือเข้าใกล้ตัวทั้งคู่เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองกลัวว่าทางเจ้าตัวนั้น จะแสดงอาการไม่พอใจ เพราะก่อนหน้านี้ทางผู้ต้องหาในส่วนของนายบิ๊กเอง ได้แสดงความไม่พอใจหลังจากที่ทีมข่าวได้มีการบันทึกภาพ จึงหวังว่าจะเกิดการประทะ

ทั้งนี้ภายหลังที่ทางสถานีตำรวจได้มีการคุมตัวโดยมีการแยกคุมตัวทางนายบิ๊กในส่วนของรถกระบะคันหนึ่งโดยมีทางเจ้าหน้าที่คอยคุ้มกันด้านซ้ายและด้านขวา เช่นเดียวกับทางนายปอยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้นำรถขึ้นอีกคันโดยแยกคันกับทางนายบิ๊กพร้อมกับมีตำรวจตำรวจคุ้มกันซ้ายขวา


ฝากขังผู้ร่วมขบวนการพาเสี่ยแป้งหลบหนี พบวางแผนดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายคเณศ หรือบอย หนึ่งในผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ออกจากห้องสอบสวนเพื่อมุ่งหน้านำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างที่คุมตัวนายบอยออกจากห้องสอบสวน ทีมข่าวพยายามสอบถามนายว่า มีอะไรอยากชี้แจ้งหรือไม่นั้น รู้จักเสี่ยแป้งได้อย่างไร ปรากฏว่าทรายไม่มีการตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น ก่อนจะขึ้นรถคุมขังออกไป โดยวันนี้นายบอยมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ตอบคำถามใดๆ


แม่บอย เปิดใจเครียดและยืนยันลูกไม่ได้ช่วยเสี่ยแป้งหลบหนี เพียงแต่ไปเยี่ยม

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับแม่ของนายคเณช หรือ บอย ด้วยที่มาเยี่ยมลูกชายในวันนี้ บอกว่า ตนไม่รู้เรื่องอะไร เห็นตามข่าวพร้อมกันกับทุกคน ยอมรับว่าเครียดมาก และตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เมื่อคืนวานนี้จึงเดินทางมาหาลูกชายที่โรงพักด้วย โดยลูกชายยืนยันว่า คืนวันเกิดเหตุได้เข้าไปที่โรงพยายาลจริง แต่ไม่ได้พกอาวุธไปให้ตามรายงานข่าว และยอมรับว่ารู้จักกับบิ๊ก

ส่วนการช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ลูกชายบอกว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และเชื่อว่าลูกชายถูกหลอก เพราะเวลาลูกชายทำผิด ก็จะยอมรับทันที แต่ครั้งนี้ไม่พูด แต่ถ้าหากลูกชายผิดจริง ก็จะไม่เข้าข้าง ยอมให้ติดคุกและอยากขอความเป็นธรรมว่าอย่าจับเพียงแต่ลูกชายตน ให้จับคนที่ทำผิดทั้งหมดไปเลย


ราชทัณฑ์ ตั้งรางวัลค่าหัว เสี่ยแป้ง 1 ล้านบาท

กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน ระบุว่า “ราชทัณฑ์เพิ่มเงินรางวัลนำจับกรณีเสี่ยแป้ง ผู้ต้องขังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชหลบหนี เป็น 1,000,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

สมุนเสี่ยแป้งแค้นติดคุกแทนลูกพี่ แฉยับเปิด รร.สุมหัวแหกคุก 3 วัน ตร.ไม่รู้หนีพ้นไทย