วันที่ 31ต.ค. 66 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณซอยประสานสุข ซอย 1 ม. 10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี  จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดหนุมาน กองปราบ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรราชบุรี กว่า 20 นายได้สนธิกำลังลงพื้นที่พร้อมหมายศาล ขอเข้าตรวจค้นหนึ่งในลูกน้องคนสนิทของเสี่ยแป้ง ที่หนีมากบดานอยู่ที่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่กลางใจเมืองราชบุรี

 

โดยมีข้อมูลว่าลูกน้องคนนี้ได้อาศัยรถกระบะ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขค 8701 นครศรีธรรมราช และได้มาอยู่ที่แมนชั่น แห่งนี้เป็นเวลากว่า 4 วันแล้ว จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมนายสุทิวัส ขุนณรงค์ อายุ 28 ปี หรือหนอนทุ่งลาน  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจ.นครศรีธรรมราช พร้อมเข้าตรวจสอบภายในห้อง เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาได้ควบคุมตัวนายหนอนมาที่กองกำกับการสอบสวน ตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เพื่อสอบสวน ก่อนจะฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรีหนึ่งคืน และจะนำตัวไปที่จ.นครศรีธรรมราชต่อไป

 

เบื้องต้นสารภาพมาว่าตนไปส่งที่ชายแดน ก่อนที่จะเดินทางมากบดานที่จ.ราชบุรีในส่วนของคดียังไม่ได้ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์

 

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับภรรยาของนายหนอน ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกน้องคนสนิท และเงินที่โอนเข้าบัญชีไม่ใช่เงินค่าจ้างแต่เป็นเงินส่วนตัวของนายหนอน

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยัง ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของ นางสุญญาตา หรือ ปูเป้ ภรรยาของนายหนอน โดยเมื่อไปถึงพบเพียงแม่ของนางปูเป้ พี่ชาย และน้องชายเท่านั้น

 

นางชลพิกามาศ อายุ 40 ปี (แม่ยายหนอน) เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนเองนั้นได้เจอกับลูกสาว และนายหนอนล่าสุดคือตอนที่เขาคลอดลูก ประมาณเดือนกรกฎาคม โดยตนได้ไปนอนเฝ้าเขา 1 คืน ก็ได้เจอกับนายหนอนและครอบครัวนายหนอนที่นั่นเป็นครั้งแรก

 

ที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้ว่าลูกสาวคบกับใคร หรือไปจดทะเบียนกันตอนไหน รู้เพียงว่าเขามีแฟนเท่านั้น ตนเองก็ไม่เคยคุยกับนายหนอนมาก่อน ลูกสาวไม่เคยพามาเจอ และปกติลูกสาวก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านตนเองมาหลายปีแล้ว

 

ล่าสุดที่คุยกับลูกสาวคือเมื่อประมาณวันที่ 2-3 ตุลาคม โทรคุยกัน แต่หลัง จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้อีกเลย โดยเวลาที่โทรไปก็จะเป็นการปิดเครื่องตลอดไม่สามารถติดต่อได้

 

สำหรับนายหนอนนั้นตนเองไม่เคยรู้จักมาก่อนและไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ยืนยันว่าเคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียวตอนที่ลูกสาวตนคลอดลูกเท่านั้นและตนก็ไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลยที่ผ่านมาเขาคบกันตนก็ไม่รู้นิสัยใจคอนายหนอนเป็นอย่างไร

 

พอตนเห็นข่าวตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูก พยายามติดต่อหาเขาแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าลูกสาวของตนและหลานไปอยู่ที่ไหน ตนได้ข่าวมาว่าหนอนไม่ได้พาปูเป้ไปด้วย ตนก็ไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวตนอยู่ที่ไหน

 

ถ้าปูเป้ลูกสาวตนได้ดูอยู่ ตนก็อยากจะฝากบอกเขาว่า อยากให้ปูเป้คุยกับหนอน ให้มามอบตัว ตนก็อยากให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ถึงจะติดคุกอย่างไรแต่ก็ยังถือว่ายังมีชีวิตอยู่กับครอบครัว

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ได้มีจดหมายลึกลับส่งถึงรักษาการศาลแขวงจังหวัดสงขลา นายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 ลงวันที่ 27ตุลาคม 66  ส่งถึงอัยการปาน หรือนายเลอศักดิ์  ชองจดหมายเขียนว่า แจ้งคุณปาน พัทลุง มึงเอาเงินที่มึงไปเอามาคืนพี่แป้งด้วย มึงเป็นพวกเดียวกับไอ้บอย (หมายถึงอัยการบอย) พวกมึงหักหลังทีมกู มึงรู้อยู่แก่ใจ มึงระวังตัวไว้ได้เลย คนพัทลุงด้วยกัน ไม่น่าทำกันเลย มึงกับเมียระวังตัวไว้  ขับ BMW กับ Benz สีขาว ครอบครัวมึงด้วย มึงระวังตัวไว้ได้เลย กูจะยิงให้แว่นมึงทะลุตา  พร้อมวาดปืนสั้น ไว้ในจดหมาย เขียนว่าตาย จนเป็นเหตุให้นายเลอศักดิ์เกรงกลัว ก่อนเดินทางไปแจ้งความ ที่สภ.เมืองสงขลา ดังกล่าว

 

สำหรับนายเลอศักดิ์ เพิ่งย้ายมาจากสำนักงานอัยการคดีเด็กและเยาวชน จังหวัดพัทลุง มารับตำแหน่งอัยการศาลแขวงจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 เมษายน 66  โดยเป็นผู้บังคับบัญชาอัยการบอย ที่เสี่ยแป้ง นาโหนด หมายจะปองร้ายไว้ก่อนหน้านี้  

 

วันนี้ (31 ต.ค.) นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ กรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “เสี่ยแป้ง” อายุ 37 ปี นักโทษต้องคดีร้ายแรงหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า จากเดิมมีกรอบตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ ในวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังคงไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะมีเนื้อหารายละเอียดที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก พบข้อมูลพาดพิงบุคคลอื่นๆ ไม่ใช่เพียงเจ้าหน้าที่ 4 รายที่มีคำสั่งย้ายไปก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องกรอบระยะเวลาได้เร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมเฝ้าจับตา

 

“อีกทั้ง ต้องพิจารณาระเบียบของราชทัณฑ์ ว่ามันมีความบกพร่องก่อนเกิดเหตุการณ์การหลบหนีของผู้ต้องขังหรือไม่ เช่น ตั้งแต่วันแรกที่นายเชาวลิตเข้ามาที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเป็นอย่างไร , การอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำฯ มีความถูกต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนหรือไม่ , การเลื่อนนัดหมายของแพทย์ว่าเจ้าหน้าที่ได้รับทราบการเลื่อนนัดนั้น ก่อนที่จะคุมตัวนายเชาวลิตออกไปโรงพยาบาลหรือไม่ เป็นต้น”

 

นายสหการณ์ เผยว่า ส่วนการสอบสวนผู้คุมราชทัณฑ์ในวันเกิดเหตุ เบื้องต้นชี้แจงว่าในห้องผู้ป่วยรวมดังกล่าวมีความหนาแน่นแออัด จึงตัดสินใจออกมาจากห้องคนไข้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแพทย์และพยาบาลที่กำลังให้การรักษาผู้ป่วยรายอื่นๆ แต่การกล่าวอ้างเช่นนี้ยังรับฟังไม่ได้ เพราะเมื่อผู้คุมมีผู้ต้องขังอยู่ในความรับผิดชอบดูแล ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ ห้ามละเลย ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นไปตามระเบียบแต่อย่างใด อีกประเด็นเรื่องเครื่องพันธนาการจะต้องเเน่นหนา มีรายงานข่าวว่าทางผู้คุมได้ขยายโซ่ตรวนของผู้ต้องขังจึงเกิดการหลวมนั้น ตรงนี้ก็เป็นการสันนิษฐาน อย่างไรต้องรอรายละเอียดรายงานจากคณะกรรมการก่อน นอกจากนี้ ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินผู้คุมว่ามีการรับผลประโยชน์ มีการรับเงิน เอื้อประโยชน์ในส่วนใดหรือไม่ และก็ต้องตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ที่เคยเข้าเยี่ยมนายเชาวลิตด้วย

 

นายสหการณ์ กล่าวยอมรับว่า ราชทัณฑ์ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้ และต้องนำผู้ที่กระทำความผิดมารับผลทางกฎหมาย พร้อมเร่งปรับปรุงแก้ไขระเบียบของราชทัณฑ์ อุดช่องโหว่ไม่ให้สามารถใช้ดุลพินิจในทางที่ไม่เหมาะสมหรือเอื้อประโยชน์ได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สั่งการไปยังผู้บัญชาการเรือนจำทั่วทุกแห่งในประเทศไทย กรณีการนำผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำหรือออกไปปฎิบัติสาธารณะประโยชน์ ขอให้ผู้คุมราชทัณฑ์มองถึงความมั่นคงปลอดภัยเป็นอันดับแรก และจะต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมด้วย เพราะหน้าที่หลักคือต้องควบคุมดูแลผู้ต้องขังไม่ให้หนีและไม่ให้ก่อปัญหา

 

เหิมมาก! สมุนเสี่ยแป้งขู่อัยการฝากรูปปืนไปให้ "หนอน" สิ้นท่าแฉเสี่ยไปแล้ว