เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หมายเลขดำ อ.1013/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยา ร่วมกันเป็นจำเลยที่1-2 กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่
วันนี้มีโจทก์ โจทก์ร่วมทั้งสอง ทนายโจทก์ร่วมทั้งสอง จำเลยทั้งสอง และทนายจำเลย ทั้งสอง มาศาล ตามที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาเดิมในวันนี้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างสำนักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 4 ตรวจสำนวนและร่างคำพิพากษา ตามระเบียบฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการรายงานคดีในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา ซึ่งศาลส่งสำนวนและร่างคำพิพากษาไปตรวจตามระเบียบดังกล่าว ซึ่งการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคว่าด้วยการรายงานคดีและ พ.ศ. 2562 ข้อ 2ก. (3) ประเภทคดีมีที่อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี ขึ้นไป
แต่ร่างคำพิพากษาและสำนวนยังไม่ กลับมาจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ศาลจึงไม่อาจอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้ เห็นควร ให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ธันวาคม นี้ เวลา10.00 น.ตามที่ทุกฝ่ายมีวันว่างตรงกัน
นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังติดตามไปดูถึงห้องนอนของลุงพล คือ หมายเลข 406 ว่าวันนี้ลุงพลจะเดินทางไปฟังคำตัดสินที่ศาลนั้น ลุงพลจะก้าวขาไหนออกจากห้อง ปรากฎว่า ลุงพลก้าวชาซ้ายเดินออกมาจากห้อง ซึ่งตามความเชื่อของคนเถ้าคนแก่เชื่อว่า “ขวาร้าย ซ้ายดี”
ทีมข่าวได้สอบถามความรู้สึกของพ่อแม่ลุงพล ถึงความรู้สึก ทั้งสองเปิดเผยว่า วันนี้มาให้กำลังใจลูกชายและลูกสะใภ้ที่จะต้องไปศาลจังหวัดมุกดาหาร และอยากให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัย เพราะเชื่อว่า ลูกชายและลูกสะไภ้ไม่ได้เกี่บวกับคดีน้องชมพู่ และรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายคนมีติดตามและมาปกป้องลูกชายจำนวนมาก และวันนี้ก็ได้พูดให้กำลังลูกชายไปว่าขอให่ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ด้วยดีและขอให้ศาลตัดสินไปในทางยุติธรรม ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูก โดยพ่อกับแม่ของลูกทุกคนบอกว่า ตัวเองเชื่อในนิสัยของลูกชาย ที่ลูกชายตั้งแต่เด็กเป็นเด็กดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี และรักเด็กมาก เป็นไปได้ที่ลูกชายจะเป็นคนร้ายฆ่าน้องชมพู่ได้
นอกจากนี้ยังมีแชทหนึ่งที่มีการปรากฏในเฟซบุ๊ก (เพจดาวแปดแฉก) ที่เป็นแชตของแม่น้องชมพู่ คุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊คอีกราย โดยมีข้อความว่า
“ลึกๆแล้วก็เสียใจอยู่นะทึ่วันที่ลูกแม่ถูกฆ่าตายอันนี้ข้อข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ "ชมพู่ตาย" จำเลยว่าที่ฆาตกรคือพี่เขย แต่คนในบ้านกลับไปให้กำลังใจจำเลยกันหมด เราต้องนั่งมองภาพลูกที่น่ารักเดียวดายในบ้านเพียงลำพัง เขาจะเป็นคนร้ายหรือไม่เขายังมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเอง แต่ชมพู่ และครอบครัววงศ์ศรีชาไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรเลย ต้องยอมรับความสูญเสียสถานเดียว นอกจากต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อหาความยุติธรรมลูกที่ตายไปแล้ว ยังต้องสู้กับสัตว์สังคมเพื่อหาความยุติธรรมให้สามชีวิตที่เหลืออยู่อีกชีวิตนึงตายจาก ที่เหลืออีก 3 คือตายทั้งเป็น เป็นการสูญเสียที่โหดร้ายที่สุด“
ซึ่งทีมข่าวได้สอบถามกับแม่ของน้องชมพู่ จึงทราบว่าแชทดังกล่าวเป็นแชทที่แม่ของน้องชมพู่ ได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทคนนึ่งที่ให้กำลังใจ และติดตามคดีของน้องมาตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆ จนทุกวันนี้ก็ยังพูดคุยให้กำลังใจกันมาตลอด จึงทำให้ค่อนข้างจะสนิทกันพอสมควร โดยข้อความดังกล่าวได้พูดคุยกันผ่านแชทเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งยอมรับว่าข้อความในแชทเป็นเรื่องที่อัดอั้นมานาน เนื่องจากเป็นความรู้สึกของแม่ที่ไม่สามารถพูดคุยกับคนในครอบครัวได้เลย เพราะว่าคนในครอบครัวต่างก็บอบช้ำ หากพูดออกไปกลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจ เพราะนี่คือการสูญเสียที่โหดร้ายที่สุดของครอบครัว