ป.ป.ส.มองเกณฑ์ยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพเหมาะสมแล้ว ข้อมูลทางการแพทย์ ขยายเป็น 10 เม็ด อาจทำผู้ค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น
ความคืบหน้ากรณีกระทรวงสาธารณสุข เตรียมประกาศกฎกระทรวง ปรับเกณฑ์ผู้ครอบครองเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) 10 เม็ดให้เป็นผู้เสพ ไม่ใช่ผู้ค้า วันนี้ (1 พ.ย.66) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการเสนอเอกสารวิชาการทางการแพทย์ ที่ระบุว่าการครอบครองเพียง 10 เม็ด ให้จัดเป็นผู้เสพ เนื่องจากตามปกติผู้เสพยาบ้าจะใช้ยาอยู่ที่ 1-3 เม็ด ซึ่งปริมาณที่ต่ำกว่า 5 เม็ด หากเสพเกินกว่า 5 เม็ด จนถึง 10 เม็ด ผู้เสพจะมีอาการกระสับกระส่ายไม่สามารถควบคุมตนเองได้ การเสพมากกว่า 10 เม็ด จะมีผลถึงขั้นเสียชีวิต
“ผมทำงานเป็นตำรวจมาก่อน มองว่าการปรับเกณฑ์ครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ 10 เม็ด โทษที่ตามมาคือจะทำให้มีผู้ค้ารายย่อยมากขึ้น”
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ป.ป.ส. มีหน้าที่ต้องบูรณาการการบำบัดฟื้นฟู ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนตัวได้มีข้อเสนอว่าเกณฑ์การครอบครองยาบ้าควรจะอยู่ที่ 5 เม็ด ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานยึดหลักนี้มาตลอด ส่วนผู้ค้ารายย่อย ก็มองว่าไม่คุ้มกับการพกพา 5 เม็ดแล้วถูกจับโทษหนัก ที่ผ่านมา จากรายงานการจับกุมผู้ใช้สารเสพติด 100 คน จะเป็นผู้ค้า 12.5 คน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวานนี้ มีข้อสั่งการเร่งด่วน ให้เร่งนำผู้ใช้ยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด ทั้งนี้ในจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดประมาณ 530,000 คน มีผู้เสพที่มีอาการทางจิตเวชและอาจก่อเหตุรุนแรง 32,623 คน แบ่งเป็น กลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 1,963 คน กลุ่มเฝ้าระวังสูง 5,024 คน และกลุ่มเฝ้าระวังทั่วไป 25,636 คน
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ประกาศยังได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วน เพื่อควบคุมการลักลอบนำเข้ายาบ้าเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบด้วย เชียงใหม่ 5 อำเภอ เชียงราย 6 อำเภอ และนครพนม 4 อำเภอ โดยหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ จะประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในประเทศเพื่อนบ้าน บูรณาการป้องกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศ