ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า  เมื่อเวลาประมาณ   21.30 น.วันที่  4  พฤศจิกายน  2566  ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยศวรรธน์  กระจ่างวงศ์   ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง   พ.ต.อ.ธนสิทธิ์  จงหวัง  ผกก.สภ.เมืองพัทลุง  พ.ต.ท.หาญพล  รามด้วง  รอง  ผกก.(สส.) สภ.เมืองพัทลุง  นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุรถยนต์ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านร้างที่เป็นบ้านไม้  2  ชั้น  อ.เมือง จ.พัทลุง  จากการตรวจสอบในเบื้องต้นรถยนต์รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ  ทะเบียน 4 กด 7839 กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนปลอม  โดยป้ายทะเบียนจริง ขม.1359 สงขลา  ในเบื้องต้นเป็นรถยนต์คันเดียวกันกับที่ นายสุทิวัส ขุนณรงค์  อายุ  28  ปี  หรือหนอน ทุ่งลาน  ที่เป็นคนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวพานายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด  หลบหนีการควบคุมจากโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดพบรถ พบรถได้จอดอยู่ในใต้ถุนบ้านร้างที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ โดยมีผ้าคลุมรถ คลุมไว้อีกครั้ง สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีชาวบ้านได้นำวัวมาปล่อยไว้แล้วพบรถจอดทิ้งอยู่ จึงได้แจ้งสายตรวจตำบลตำนานมาตรวจสอบดู พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงร่วมกับ กำนันตำบลตำนานและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมจัดเวรยามเฝ้าตลอดคืน

ซึ่งจุดที่น่าสังเกตคือ จุดที่เจอรถเก๋งซีวิคเำที่จิดทิ้งไว้ อยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายสุทิวัส ขุนณรงค์ หรือหนอน และผู้คุมวีระชัย หนูด้วง

พบห่างจากบ้านผู้คุมวีระชัย 450 เมตร และห่างจากบ้านของนายหนอน 4.8 กิโลเมตรเท่านั้น

ต่อมาเวลา 08.10 น. จัดเจ้าหน้าที่ชุด EOD กก.สส.ภ.จว.พัทลุง เข้าทำการตรวจสอบ ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ

จากนั้นในเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จังหวัดพัทลุง ได้เข้ามาตรวจสอบรถ เพื่อเก็บวัตถุพยาน และตรวจหาดีเอ็นเอคนร้าย ก่อนทาง พ.ต.ต.ภรดานันท์ มีบุญ สารวัตรเวร สภ.เมืองพัทลุง ได้บันทึกการตรวจยึด พร้อมประสานทาง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำของกลางไปเก็บต่อไป

จากการตรวจสอบทะเบียนของรถยนต์คันดังกล่าวพบว่ามีนายชูเกียรติ ชาวบ้าน ต.บ่อยาง  อ.เมืองสงขลา  เป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว  และรถยังติดไฟแนนซ์ โดยได้นำไปจำนำแล้วรถหลุดจำนำ ก่อนผู้ที่รับจำนำ ได้ขายต่อไปยังเต็นส์รถมือสองใน จ.กระบี่  

ส่วนร่องรอยของรถคันดังกล่าวน่าจะนำมาจอด  7-10  วัน  ในขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งที่อยู่บ้านติดกันก็ไปนอนเฝ้าบุตรสาวใน  รพ.พัทลุง  จึงไม่ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาจอดในบ้านร้างหลังดังกล่าว  ซึ่งเป็นของนายเล็ก ฤทธิวงศ์ ที่เสียชีวิตไปแล้วหลายปี

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับ นายฟื้น อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ นายเล็ก เจ้าของบ้านร้าง ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ที่ถูกนำรถเก๋งซีวิคดำ คันที่นายหนอน ทุ่งลาน ใช้ขับนำขบวนพาเสี่ยแป้งหนี นำรถมาจอดทิ้งไว้

โดยนายฟื้นให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าซึ่งเป็นบุตรชายของนายเล็ก เจ้าของบ้านร้างหลังดังกล่าว  เผยว่าตนไปสร้างบ้านอยู่นอกพื้นที่และไม่ได้เข้ามาในบ้านร้างหลังดังกล่าวนานแล้ว   เพิ่งทราบข่าวดังกล่าวจากน้องสาวจึงเดินทางเข้ามายังบ้านในตอนสายวันนี้ ซึ่งตนก็แปลกใจว่ารถคันดังกล่าวเข้ามาจอดได้อย่างไร  และตนก็ไม่เคยเห็นรถยนต์เก๋งคันนี้มาก่อน แต่มั่นใจว่าคนที่จะนำรถเก๋งมาจอดไว้น่าจะมีคนในพื้นที่เป็นคนนำทางในการนำรถเข้ามาจอดทิ้งไว้  เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวเป็นทางตันติดอยู่กับสวนยางพาราของชาวบ้าน 

โดยตนคาดว่าเมื่อนำมาจอดแล้วคนขับและคนนำทางน่าจะเดินเท้าออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปยังสวนยางพารา  เพื่อไปขึ้นรถยนต์ที่พรรคพวกนำมาจอดรอบนถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน  โดยอยู่ห่างจากบ้านร้างประมาณ  400  เมตร โดยคนร้ายคงไม่กล้าเดินผ่านถนนที่นำรถยนต์มาจอดไว้เพราะป้องกันมิให้คนพบเห็นอย่างแน่นอน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสม (นามสมมติ) อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านร้างและเป็นผู้พบรถเก๋งคันดังกล่าว เจ้าตัวบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นของพ่อตน ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน แต่ก่อนหน้านั้นพ่อไม่สบาย ก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่บ้านญาติรอบนอกเพื่อสะดวกต่อการเดินทางไปรักษา ดังนั้นรวมแล้วร้างมาประมาณ 10 ปี แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ ปีนึงเข้ามาดูครั้งสองครั้ง เพราะตนและพี่น้องของตนก็มีครอบครัว ย้ายออกไปอยู่ด้านนอกกันหมด

กระทั่งเมื่อวานนี้ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ตนพาวัวมาล่ามให้กินหญ้าแถวนี้ ก็เลยเห็นว่ามีรถจอดอยู่ใต้ถุนบ้าน ลักษณะคลุมผ้าเอาไว้ ก็เลยเอะใจว่าเป็นรถของใคร จึงเข้าไปเปิดผ้าออก ถึงทำให้นึกขึ้นได้ว่าคล้ายกับรถของ “นายหนอน” ที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดขณะที่พา “เสี่ยแป้ง” หนี เนื่องจากตนติดตามข่าวนี้ทุกวัน จึงตัดสินใจโทรแจ้งนายกฯในพื้นที่และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ

ส่วนถ้าถามว่าก่อนหน้านี้รู้จัก “นายหนอน” กับ “เสี่ยแป้ง” และลูกน้องเขาไหม เจ้าตัวยืนยันว่าไม่รู้จักเลยทั้งคู่ เคยเห็นแต่ในข่าว แต่คาดว่าที่เอารถมาจอดที่นี่ก็น่าจะมีคนชี้เป้าเพราะรู้ว่าหลังนี้ไม่มีคนอยู่นานมากแล้ว ส่วนตัวยอมรับว่าตอนนี้กังวลเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะตนและครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้ก็งงเหมือนกัน