จากกรณีทางเพจ Survive - สายไหมต้องรอด ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับตายายคู่หนึ่งซึ่งเป็นพี่น้องกัน ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เรื่องของเรื่องคือตากับยายจะอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง และเป็นคนเก่าคนแก่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ หลายครั้งจึงมักมีคนในพื้นที่แวะเวียนมานั่งพูดคุยกับสองตายายอยู่เสมอ จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุ (30 ต.ค.66) ได้มีคนร้ายเข้ามาทำทีตีสนิท และชวนตากับยายกินเหล้า ทางด้านตาก็คงจะคิดว่าเป็นลูกหลานใครสักคนในหมู่บ้านจึงยอมนั่งดื่มด้วย แต่ทางยายนั้นไม่ใช่คนดื่มเหล้าจึงได้แค่นั่งพูดคุยด้วยเท่านั้น แต่คนร้ายก็ได้พยายามเข้ามาลูบมาคลำตามตัวยาย ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน ทางตากับยายก็เกิดเริ่มควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ เริ่มอ่อนแรงและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กว่าลูกชายจะมาพบก็เป็นเช้าวันที่ 31 ต.ค.66 จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทางหมอก็ได้แจ้งว่า ให้ญาติ ๆ นั้นทำใจให้ดี เนื่องจากตาเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ระบบภายในล้มเหลว ซึ่งสาเหตุมาจากการตรวจพบสารพิษในร่างกายโดยมาจากเหล้าที่ตานั้นได้ดื่มเข้าไป ส่วนทางด้านยายก็ได้พูดเพ้อว่า "เอาเงินกูมา อย่าเอาไป" ทางลูกชายจึงได้เข้าไปตรวจเช็คภายในบ้าน พบว่าเงินสดได้หายไป 8,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์ 2 เครื่อง ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังติดตามจับกุมตัวไม่ได้

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่มายังหมู่บ้านเอื้ออาทรเขาแตงอ่อน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อมาพบกับ ยายลำดวน อายุ 72 ปี 1 ในผู้เสียหายที่ถูก 2 โจรโฉดเข้ามาตีสนิทและป้ายยาจนเสียทรัพย์ โดยยายลำดวน ได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้กับทีมข่าวช่อง8 ฟังว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ตนกับตาณรงค์ พี่ชาย 2 คนอยู่บ้านกันตามปกติ ส่วนลูกชายคือนายบัญชา ออกไปทำงาน สักพักมีชาย 2 คน รูปร่างสูงผอม หน้าตาดูดี ใส่เสื้อดำ กางเกงขายาวทั้งคู่ ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าบ้านตน จากนั้นก็เดินเข้ามาหาตนหน้าบ้าน ซึ่งชายทั้ง 2 คน อ้างว่าเป็นพ่อลูกกัน และมาเดินทางมาแถวนี้เพื่อถวายสังฆทานที่วัดบ้านน้อยนาดี แถวบ้านของ 2 พี่น้องตายาย แต่เวลานั้นคนที่วัดเยอะมาก จึงขอมานั่งพักที่บ้านของ 2 พี่น้องตายายก่อน และเมื่อที่วัดคนเริ่มน้อยแล้วก็จะออกไปที่วัดอีกครั้ง

 

ซึ่งในขณะที่ชายทั้ง 2 คน มานั่งอยู่บ้านตน ก็พยามพูดจาตีสนิทตนกับพี่ชายของตน สักพักเมื่อคุยกันไปคุยกันมา ก็พูดจากถูกคอกัน จนชายทั้ง 2 นั้น ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ลุงดื่มมั้ย?” ตาก็บอกไปว่าดื่ม ซึ่งชายทั้ง 2 ก็บอกตาอีกว่า โอโห้ แก่ขนาดนี้แล้วยังกินเหล้าอยู่อีก“ พร้อมกันนั้นก็นำขวดเอ็ม100 ที่เตรียมมาพร้อมกับแก้ว นำเหล้าในขวดรินใส่แก้ว ประมาณข้อนิ้วนึงให้ตาดื่ม ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเหล้าที่ชายทั้ง 2 รินให้ตาสีอะไร และเมื่อชายทั้ง 2 ยื่นแก้วให้ตาดื่มเหล้า ตาก็รับแก้วมากระดกแบบไม่เกรงใจ

 

หลังจากนั้นชายทั้ง 2 ก็หันมาคุยกับตน พร้อมกับจับขาตนทั้ง 2 ข้าง แล้วลูบไปมาแล้วบอกว่า “ป้านี่อ้วนถ้วนดีจังเลย” และหลังจากนั้น 2 นาที ตาก็มีการตัวแข็งตาแข็งมือหงิกมืองอแล้วร่วงลงไปนอนกับพื้น มีน้ำตาและน้ำลายสีเขียวๆออกมาจากปากเล็กน้อย เมื่อตนเห็นนั้นจึงพูดบอกกับตาว่า “เป็นอะไรเนี่ย กินเหล้าแค่นี้ก็เมาแล้วเหรอ อย่าทำเป็นเล่นไปนะศาลาที่วัดเพิ่งจะว่าง” ซึ่งเมื่อชายทั้ง 2 เห็นตามีอาการแบบนี้ จึงหันมาคุยกับตนว่า “ตาเป็นอะไร ทำไมอาการน่ากลัวจัง“

 

จากนั้นไม่นานตนก็รู้สึกปวดปัสสาวะ จึงลุกเดินออกมาจากชายทั้ง 2 เพื่อไปเข้าห้องน้ำในบ้าน แล้วต่อมาเมื่อเดินเข้ามาที่ห้องนอน ตนก็รู้สึกเบลอๆปวดขาเป็นอย่างมากจนเดินไม่ไหว จึงต้องจำใจปล่อยให้ตานอนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับชายทั้ง 2 คน จนมาทราบทีหลังว่าตาถูกชายทั้ง 2 คนวางยา และโทรศัพท์ 2 เครื่อง พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ 8 พันบาท ก็หายไปด้วย สุดท้ายก็อยากไปถึงคนรุ่นตัวเอง ให้ระวังตัวกันให้มาก มิเช่นนั้นจะถูกหลอกแบบตน

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางรัตน์ จำรัส อายุ 50 ปี ลูกสาวของยายลำดวน ซึ่งนางรัตน์ได้พายายลำดวนมาพักอาศัยที่บ้านของเธอ เพราะห่วงความปลอดภัย โดยนางรัตน์ได้เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าอาการล่าสุดของตาณรงค์ ที่ถูก 2 โจรแสบ หลอกล่อให้ดื่มเหล้าที่ผสมสารบางอย่างจนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล เมื่อเช้าทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งอาการของตาณรงค์ว่าอาการโคม่า อยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว ทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น เนื่องจากระบบต่างๆในร่างกายล้มเหลวเฉียบพลัน และเบื้องต้นทางหมอแจ้งว่าสารที่พบในร่างกายของตาณรงค์ คือสารเสพติดชนิดรุนแรง แต่ยังระบุได้ว่าสารชนิดนี้คือสารอะไรกันแน่ ส่วนความคืบหน้าคดีขณะทางตำรวจกำลังไล่กล้องวงจรปิด แล้วก็ได้ส่งรูปผู้ต้องสงสัยให้ยายลำดวนดูว่าใช่คนนี้หรือไม่ แต่ที่ตำรวจส่งมาตอนนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมด

 

จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ติดต่อไปยังรศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีของ 2 โจรแสบหลอกตาตายาย โดยคนร้ายได้หลอกให้ตานั้นได้ดื่มเหล้าที่มีสารชนิดนึงผสมอยู่ ส่วนยายก็ถูกคนร้ายลูบไปที่บริเวณขาจากนั้นก็อาการปวดเมื่อยที่ขาอย่างรุนแรงจนไม่สามารถลุกเดินได้

 

เบื้องต้นหมอหมูระบุว่า ตอนนี้ทางการแพทย์ ยังไม่มีการรายงานการวางยาผ่านทางผิวหนัง ซึ่ง ณ ตอนนี้เกือบทั้งหมดของการวางยาสารพิษจะอยู่ในรูปแบบของงการดื่มกินเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในกรณีดังกล่าวจาย่าจะดื่มเหล้าที่มีการผสมสารพิษเข้าไป จนมือการตัวเกร็งมือหงิกงอ

 

คาดว่าน่าจะยาจำพวกยาที่มีฤทธิ์ส่งผลต่อจิตประสาทอย่างรุนแรง อาทิ ยาสลบที่ใช้กับคน ยาสลบที่ใช้กับสัตว์ หรือสารเสพติดบางชนิด และหากสารจำพวกนี้ได้รับการผสมกับแอลกอฮอล์ ก็จะมีการออกฤทธิ์อย่างรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ 5-10 เท่า นั้นจึงทำให้เกิดความอันตรายอย่างรุนแรง บางรายอาจจะเสียชชีวิตในทันที บางรายก็อาจจะไม่เสียชีวิตทันที แต่ก็รุนแรงจนทำให้อวัยวะต่างๆในร่างกายล้มเหลวเฉียบพลัน

 

ส่วนล่าสุดทีมข่าวช่อง8 ได้รับการเปิดเผยจากทางตำรวจสภ.ท่าตะเกียบว่า ขณะนี้คนร้ายมีการใช้สิทธิ์บัตรประชารัฐของ 2 ตายาย จำนวน 300 บาท ที่ร้านธงฟ้า จำนวน 2 ร้าน ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ในวันพรุ่งนี้ทางตำรวจจะลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายว่าได้นำบัตรประชารัฐของ 2 ตายาย ไปใช้ในพื้นที่ใด

เปิดนาทีเผชิญหน้า 2 โจรหน้าหล่อ พกแก้วเหล้าส่งให้เหยื่อ กรึ๊บ 2 นาทีโคม่า ผลตรวจอึ้งเจอสารเสพติดรุนแรง