จากกรณีมีเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธมีดไล่ฟันวัยรุ่นคู่กรณี ภายในงานหมอลำ จนฝ่ายวัยรุ่นเผ่นหนีเข้าบ้านคนรู้จักเพื่อไปหลบซ่อนตัวและขอความช่วยเหลือ แต่ฝ่ายคนร้ายยังบุกตามเข้าไปในบ้านโดยไม่ยำเกรงกฎหมาย ขณะที่หลานชายเจ้าของบ้านวัย 17 ปี กำลังนั่งเล่นเกมกับเพื่อน ไม่รู้เรื่องด้วย แต่คนร้ายกลับใช้มีดปรี่เข้าไปกระหน่ำแทงเข้าชายโครง 3 แผล ทั้งที่เหยื่อพยายามพนมมือไหว้ร้องขอชีวิต พร้อมบอกว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย แล้วก็ตาม ภายหลังพ่อแม่เด็กรู้เรื่องถึงกับช็อกเสียใจจนเป็นลม พร้อมกับวอนขอให้ตำรวจและฝ่ายงานเกี่ยวข้อง จับกุมคนร้ายรายนี้มาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น



ประชาทัณฑ์วุ่น "ไอ้ปลื้ม" ฆาตกรฆ่าเด็ก 17

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รักษาการแทน ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณ์ พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกับ สภ.น้ำเกลี้ยง และสภ.ใกล้เคียง เข้าจับกุมตัว นายธนพนธ์ หรือปลื้ม อายุ 24 ปี พร้อมกับ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี น้องชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ จ274/2566 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักใน ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ



จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 50 นาย ได้ควบคุมตัว นายธนพนธ์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดที่ 1 คือจุดที่ภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพตอนจูงรถจักรยานยนต์ที่น้ำมันหมด หลังก่อเหตุเสร็จ จุดที่ 2 เป็นจุดที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน ตรงที่จัดงานหมอลำ จุดที่ 3 เป็นจุดที่คนร้ายก่อเหตุแทงน้องโมเสียชีวิต ซึ่งจุดนี้มีพ่อ แม่ และญาติผู้เสียชีวติ ยืนถือรูป น้องโม รอดูหน้าตาของคนร้าย พร้อมกับมีชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 100 คน มามุงดู พร้อมกับส่งเสียงตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง



หลังทำแผนผู้ต้องหาได้เข้าไปก้มกราบ พ่อ แม่ และรูปของผู้ตาย คือ น้องโม พร้อมกับพูดว่า “ผมต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแทงจริง” ด้าน พ่อและแม่ น้องโม พยายามจะถาม ว่าทำไมถึงแทงน้องโม น้องก็บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่ทำไมถึงแทง แต่ผู้ต้องหาก็ได้แต่กล่าวว่า “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ขณะกำลังจะนำผู้ต้องขึ้นรถยนต์ไปที่จุดอื่น ญาติพี่น้องของผู้ตาย และชาวบ้าน พยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหา จนเกิดเหตุตะลุมบอลปรี่เข้ามาชกต่อย และใช้เท้าถีบผู้ต้องหา จนเป็นเหตุชุลมุนกันเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถได้อย่างปลอดภัย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พาไปชี้จุดที่จะเดินทางเข้าไปในตัวอำเภอน้ำเกลี้ยง จุดที่มาซื้อน้ำเติมใส่รถ จุดที่นำรถไปจอดเก็บไว้ และจุดสุดท้ายคือจุดที่นำไปชี้จุดที่นำอาวุธมีดไปโยนทิ้งลงสระน้ำหนองตะคราม หมู่ 7 ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ

เปิดคำพูดมือฆ่าเด็ก 17 ฝากกลอนลาคนรักเข้าคุก

จากการสอบสวน นายธนพนธ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง ในวันเกิดเหตุตนได้ไปเที่ยวงานหมอลำกับน้องชาย คือนายเอ ซึ่งหลงรักสาวบ้านเจ้าภาพที่มีการจัดงานแสดงหมอลำ โดยตนชอบสาวผู้พี่ ส่วนนายเอ ชอบสาวผู้น้อง หลังดูหมอลำเสร็จได้ขับรถออกมาจากงานพบกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จับกลุ่มนั่งพุดคุยและหัวเราะสนุกสนาน ตนจึงเข้าไปถามก็เกิดการทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่ายพูดจาท้าทายตน และเกิดการไล่ล่ากัน โดยกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ไปจอดรถที่บ้านหลังเกิดเหตุ



จากนั้นได้วิ่งเข้าไปหลบหลังบ้านและห้องนอนด้านหน้า ด้วยความโมโหของตนจึงวิ่งตามเข้าไปโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เนื่องจากทุกคนชุลมุนกัน และคิดว่าผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงใช้มีดแทง เนื่องจากตนต้องป้องกันตัวเองด้วย เพราะถูกฝ่ายตรงข้ามใช้ขวดตีศีรษะเช่นกัน ตนไม่ได้ตั้งใจ ยอมรับว่าเป็นเหตุเข้าใจผิด และตนขอแสดงความเสียใจและยกมือไหว้ขอโทษกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย
นอกจากนี้ยังขอฝากถึงแฟนสาวในเมื่อเหตุมันเกิดขึ้นแบบนี้แล้ว ถ้าฟ้าดินยังมีหูมีตาอยู่ก็อยากจะฝากถึงสาวคนที่รัก ถ้ารอตนได้ก็รอ ถ้ารอไม่ได้ก็ไปหาเอาคนใหม่ที่ดีกว่านี้ เพราะตนก็ประวัติเสียแล้ว พร้อมฝากกลอนคำคมถึงสาวคนที่รักว่า “รักบริสุทธิ์จากใจโจร” อีกด้วย

ขณะที่ นางกาญจนา พรมตา อายุ 43 ปี แม่ของน้องโม กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเสียใจมาก และแม่จะไม่ยอมยกโทษให้อย่างเด็ดขาด แต่จะอโหสิกรรมให้ เพื่อที่จะให้ดวงวิญญาณของน้องจะไปอย่างสงบ และคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้พยายามติดตามจับกุมตัวคนร้ายจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด แต่จะถามว่าแม่จะยกโทษให้กับผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้น แม่ยืนยันไม่ยกโทษให้

เปิดใจจากคุกฆาตกรฆ่าเด็ก 17 รับแทงผิดตัว

ต่อมาในช่วงค่ำทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.น้ำเกลี้ยง ได้พูดคุนกับนายปลื้ม ผู้ต้องหา (คุยผ่านห้องขัง) บอกกับทีมข่าวว่า ตัวเองอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตเสมอ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน ที่แทงคนตาย เพราะแทงผิดตัว เนื่องจากคู่กรณีที่ตัวเองมีเรื่องด้วยนั้น เขาวิ่งหลบหนีไปบ้านหลังเดียวกันกับที่ผู้ตายอยู่ ตัวเองจึงเข้าใจผิด แล้วก็ก่อเหตุ



วันนี้ถึงตัวเองได้ก้มกราบเท้าพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตแล้วนั้น ตัวเองก็ไม่รู้สึกสบายใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่าได้ทำในสิ่งที่อยากทำจากใจจริง ๆ ส่วนเรื่องมีดตัวเองก็พกติดตัวเป็นปกติประจำอยู่แล้ว และตัวเองเป็นคนไม่เคยหาเรื่องใครก่อน

ส่วนวันนี้หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารที่มีชาวบ้านเข้าประชุมประชาทัณฑ์ตัวเองนั้น ตัวเองก็ไม่โกรธพวกเขา เพราะตัวเองเข้าใจความสูญเสียของพวกเขา ตอนนี้ตัวเองอยากจะฝากไปถึงแฟนสาวว่า “ตัวเองรักเขามาก ถ้าเกิดออกจากเรือนจำมา สัญญาว่าจะเป็นคนดี” โดยแฟนสาวคนดังกล่าวตัวเองคบหากันได้ประมาณสี่เดือน

ฆาตรกรคลั่งรักฆ่าเด็ก 17 ที่แท้ตื๊อจีบสาวไม่เล่นด้วย

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังบ้านของ น.ส.แอน (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้หญิงที่นายปลื้มผู้ก่อเหตุมีใจให้ น.ส.แอน บอกกับทีมข่าวว่า วันที่เกิดเหตุที่บ้านของตัวเองเป็นเจ้าภาพในการจัดงานบุญ วันนั้นตัวเองไม่รู้เลยว่า นายปลื้มเขาจะมาหาตัวเอง และตัวเองก็ยังไม่ได้เจอกันกับเขา กระทั่งเขาไปก่อเหตุแทงคนเสียชีวิตก่อน



ซึ่งหลังจากตัวเองทราบข่าวว่านายปลื้มไปก่อเหตุแทงคนเสียชีวิต ตัวเองก็รู้สึกโกรธเขาอย่างมาก ที่เขากระทำแบบนั้น และไม่ขอให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำ ยอมรับว่าที่ผ่านมานายปลื้มพยายามจะมาจีบตัวเอง แต่ตัวเองก็ไม่เล่นด้วย เพราะตัวเองมีครอบครัวแล้ว และก็ขอยืนยันว่าตัวเอง ไม่เคยเป็นแฟนกับนายปลื้มแต่อย่างใด

ส่วนที่นายปลื้มฝากมาบอกว่าเขารักตัวเองมากนั้น ตัวเองก็ไม่ขอรับไว้ เพราะตัวเองไม่ได้รักหรือว่าชอบเขาเลย และที่เขาฝากมาบอกว่าหากออกจากคุกมาจะปรับปรุงตัวใหม่เป็นคนดีนั้น ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับตัวเอง เพราะถึงอย่างไรตัวเองก็ไม่ได้รักนายปลื้มอยู่แล้ว ถ้าเขาฟังข่าวอยู่ก็อยากจะบอกเขาว่า “ถ้าคิดให้ดีก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้” และยอมรับว่าน้องชายของนายปลื้ม ก็แอบชอบกับน้องสาวของตัวเองอีกด้วย