พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจระดมกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัดเพื่อจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง" ว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมเสี่ยแป้งอยู่ โดยเชื่อว่าเสี่ยแป้งน่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ และยืนยันว่าบุคคลที่ตำรวจยิงปะทะเมื่อวานนี้คือเสี่ยแป้งแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวว่าทางตำรวจได้มีการวิสามัญเสียแป้งเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันยังไม่มีการวิสามัญผู้ต้องหา โดยฝากประชาสัมพันธ์ญาติพี่น้องของผู้ต้องหา หากตัวเสี่ยแป้งมีการติดต่อไป ก็ขอให้พาเสี่ยแป้งเข้ามอบตัว ตนเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับประกันความปลอดภัย เพราะมีการหลบหนีมาเป็นเวลานานแล้ว แต่หากเสี่ยแป้งยังไม่ยอมมอบตัว แล้วยังยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะเป็นการดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมอีก เพราะตนเองก็ไม่มีนโยบายให้วิสามัญผู้ต้องหาใดๆ ขอให้ญาติพี่น้องของผู้ต้องหาสบายใจ
นายแจ้ง แสงกุล อายุ 68 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านตระ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ใกล้กับจุดหลบซ่อนของเสี่ยแป้ง และจุดที่มีการปะทะเกิดขึ้น เมื่อวานนี้ที่ผ่านมา
รวมทั้งนายแจ้ง ยังเป็น 1 ในผู้บุกเบิกชุมชนบ้านตระมาตั้งแต่อดีต และเคยเป็นอดีตทหารพราน หน่วยจู่โจมที่ 42 ค่ายกะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง รวมถึงเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหารกรมทหารพรานที่ 42 ที่เคยต่อสู้ปราบปรามคอมมิวนิสในอดีต
นายแจ้งได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ชุมชนบ้านตระ เป็นชุมชนที่มีตำนานตั้งแต่ยุคสมัยก่อนมา บ้านตระเป็นชุมชนที่ “มหาจันทร์” ขุนโจรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต และชอบมาอาศัยอยู่ในบ้านตระ เพราะเป็นพื้นที่สบาย หรือเรียกได้ว่าเป็นชุมชนของขุนโจร ส่วนเสี่ยแป้ง ตนไม่เคยเห็นหน้า แต่ติดตามข่าวมาตลอด รวมไปถึงว่าเสี่ยแป้งเคยเป็นอดีตทหารพรานค่ายต้นโพธิ์ จ.พัทลุง
การที่ผู้ร้ายเข้าไปอยู่ในชุมชนนั้น หรือบริเวณใกล้เคียง มีอยู่ 3 ประการ 1.ภูมิประเทศง่ายกับการรบต่อสู้ 2.คนที่มาจากพัทลุงจะมีเยอะ 3.จะเป็นคอมมิวนิสเก่า ในส่วนนี้จะมีประมาณ 60 เปอร์เซ็น เพราะชุมชนบ้ายตระเคยเป็นฐานของคอมมิวนิสเก่า และเป็นสนามรบมาก่อน อีกทั้งการที่ขะเข้าไปอยู่ในนั้นก็มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเดี๋ยวนี้จะไปสอดคล้องกับยาเสพติด เด็กวัยรุ่นติดยาเสพติดเยอะหากใครเอายาเสพติดไปล่อก็จะสร้างปัญหาตรงนี้
พื้นที่บ้านตระติดอยู่ทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ ทิศตะวันตก ติด จ.ตรัง อ.ปะเหลียน เข้าทางน้ำตกโตนตก ทิศเหนือติด ต.ผาดำ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ทิศตะวันออกติด อ.กงหรา อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ทิศใต้ติด อ.มะนัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
ในอดีตคนที่ได้หนีออกจากชุมชนบ้านตระเพราะว่าป่วยไข้ทรพิษ ขุนโจรมากกลัวถูกปล้น จึงออกมาอยู่นอกพื้นที่แทน ส่วนที่จะกดดันให้เสี่ยแป้งออกมาได้คือการใช้ความเป็นนักเลง ส่วนใหญ่กำนันผู้ใหญ่บ้านเก่าๆ จะเป็นคนนักเลง คำไหนคำนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่น่าจะมองมาตรงนี้ก่อนเป็นจุดแรก
ตนมองว่าคดีเสี่ยแป้งจับได้ไม่ยาก แต่ต้องเอาวิชาโจรเข้ามาใช้ ถ้าเอาวิชาตำรวจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ถ้าตนยังเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ เสี่ยแป้งคงไม่กล้าเข้าในพื้นที่ เพราะในอดีตเพราะเอาจริง หากใครเข้ามาจะต้องแจ้งตนให้ทราบก่อนทุกคน โดยบัตรประชาชนชาวบ้านจะต้องอยู่กับตนเพราะจะต้องทำทำเนียบรายชื่อ ครั้งนี้ตนเชื่อว่าหากเสี่ยแป้ง ไม่มีน้ำมีอาหาร ก็น่าจะออกมาในไม่เกิน 2 วัน ถ้าหากปิดล้อมทุกจุดคงจะจับไม่ยาก เชื่อว่าไม่เกินความสามรถของเจ้าหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าเสี่ยแป้ง เคยเป็นอดีตทหารพรานเหมือนกัน
หากเสี่ยแป้งใช้กลยุทธ์ของทหารพรานมาใช้ ก็คงจะเพิ่มความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ทั้งความกลัวทั้งเลือดนักสู้ ความอดทนกับความกลัวบวกเข้ากันยิ่งทำให้เสี่ยแป้งฮึดสู้ได้เหมือนกัน ส่วนที่มีชาวบ้านให้การเชื่อเหลือเสี่ยแป้ง หากเสี่ยแป้งเป็นลูกหลานตน ตนก็จะไม่ยอมให้ลูกหลานต้องตาย หรือถูกจับเหมือนกัน ตนยอมรับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ 60 เปอร์เซ็น ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นยังผิดพลาด เพราะไม่ได้เจาะลึกพื้นที่ โจรต้องสู้กับโจร ไม่แต่งชุดทหารเข้าไป
จุดที่มีการปะทะเมื่อวานนี้ อยู่ห่างจากบ้านตระขึ้นไปประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ของฐานปฎิบัติการในอดีต และเป็นพื้นที่ที่เหมาะมากแก่การสู้รบ ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าเสี่ยแป้งเคยมาอยู่บ้านในตระเป็นเวลานานหลายเดือน จนเกิดความผูกพันธ์กับชาวบ้าน แต่ตนไม่ได้ไปสนใจเพราะไม่มีหน้าที่
อย่างไรก็ตามอดีตผู้ใหญ่แจ้งยังให้ข้อมูลอีกว่า พื้นที่บ้านตระ เป็นสถานที่อาถรรพ์และมีสิ่งชี้ลับตามความเชื่อ หากจะทำการใดให้สำเร็จต้องบนบายเส้นไหว้ “ทวดเล็ก” ซึ่งเป็นสิ่งสักสิทธิ์ประจำหมู่บ้านมาแต่อดีต เพื่อขอให้เปิดทางและทำงานให้ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งอดีตหากมีโจรที่คิดร้ายเข้าไปก็จะเสียชีวิตในพื้นที่ทุกราย พร้อมกับมีหลุมศพคนสูง 7 ศอก และมีกุโบว์ 2 แห่ง
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปสอบถามนายชุติพงค์ พลวัฒน์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และ นายชอบ รองเดช หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าโตนเต๊ะ ได้ให้ข้อมูลถึงลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ป่าแนวเทือกเขาบรรทัด โดยบอกว่าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สตูล สงขลา ตรัง และ จังหวัดพัทลุง มีเนื้อที่ทั้งหมด 790,000 ไร่ หรือ คิดเป็น 1,264 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีพื้นที่เทียบเท่าเกือบ = กรุงเทพมหานคร 1 กรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่เกือบกว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร โดยจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาบรรทัด สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1600 เมตร
ส่วนลักษณะภูมิประเทศของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด บริเวณนี้จะเป็นป่าดิบชื้น หากเสี่ยแป้งหรือคนธรรมดาไม่มีผู้ชำนาญหรือชาวบ้านพาเข้าไปในป่าลึก ก็อาจจะหลงทางและเกิดอันตรายได้ เนื่องจากภายในป่าลึกจะมีเส้นทางลาดชัน สลับด้วยหุบเหว ตอนกลางวันคล้ายกับกลางคืน เนื่องจากถูกร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ปิดบังทั้งหมด หากเดินไม่ระวังก็อาจจะตกเขาหรือตกหุบเหวได้
นอกจากนี้ภายในป่าดิบชื้น ยังเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานมี ทั้งงูเห่า งูจงอาง ทาก รวมไปถึง ไม้หนามจำนวนมาก ซึ่งตนเองเชื่อว่า เป็นไปได้ยากมากที่ เสี่ยแป้งจะพาสุนัขเข้าไปในป่าลึกด้วย เนื่องจากสัญชาตญาณของสุนัขจะอยู่กับเจ้าของที่สนิทเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีเจ้าของมันดูแล สุนัขก็ยากที่จะอยู่ด้วยลำพังกับเสี่ยแป้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
ส่วนพื้นที่ในหมู่บ้านตระ เป็นบริเวณแอ่งกระทะ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำการเกษตร มีลักษณะเป็นภูเขาล้อมรอบ มีบ้านเรือนของประชาชนประมาณ 280 ครัวเรือนเดือน มีประชากรประมาณ 500 คน โดยหมู่บ้านตระ เคยเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์มาก่อน และค่อนข้างมีความปลอดภัย เนื่องจากมีชาวบ้านอาศัยอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิมมานานแล้ว ระยะทางไกลจากชุมชนประมาณ 10 กิโล ซึ่งอยู่ภายในหุบเขา ต้องเดินเท้าหรือต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปเท่านั้น
ที่ผ่านมาในโซนพื้นที่บ้านตระ แทบไม่เคยมีใครหลงอยู่ภายในป่า เนื่องจาก แทบไม่มีคนนอกเข้ามาท่องเที่ยวอยู่แล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่ค่อนข้างชินและคุ้นเคยในพื้นที่
ทีมข่าวถามต่อว่า หากเสี่ยแป้งไม่มีลูกสมุนคอยส่งเสบียงให้ระหว่างอยู่ภายในป่า เสี่ยแป้งจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร หัวหน้าอุทยานฯ ให้ข้อมูลว่า เสี่ยแป้งหรือใครก็ตามที่ไม่ชำนาญพื้นที่ หากหลงเข้าไปในป่าลึก จะหลงทางได้ง่าย และจะขาดอาหารเสียชีวิตในที่สุด ไม่เกิน 7 วัน เนื่องจากภายในป่าดิบชื้น มีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ ไม่มีทั้งสัตว์ใหญ่ให้ล่า ส่วนสัตว์เล็กก็ล่าไม่ง่ายหาก และไม่มีผลไม้ต่างๆ ก็ไม่มีด้านในสักชนิด จะมีแต่เพียงแหล่งน้ำที่มีตลอดทั้งปีอยู่แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่อุทยาน ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกติดตามไล่ล่า โดยให้ความช่วยเหลือ ด้านอาคารสถานที่ในการตั้งจุดกองบัญชาการ และให้ความช่วยเหลือในการนำทางเข้าไปภายในป่าเท่านั้น ส่วนการติดตามไล่ล่าจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ