จากรณีที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุดขึ้นปฏิบัติการปิดล้อม “บ้านในตระ” อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) และได้ปฏิบัติตรวจค้นพื้นที่บ้านในตระ และเมื่อช่วง 14.30 น. เมื่อวานนี้ จนได้รับรายงานว่า เกิดการยิงปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด”

ก่อนจะมีกระแสข่าวลือสะพัดว่า เจ้าหน้าที่สามารถวิสามัญเสี่ยแป้งได้แล้ว แต่เวลาต่อมาได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ท.ธนา ชูวงค์ รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า “เสี่ยแป้ง ยังไม่ตาย” และหลบหนีไปได้ระหว่างการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดปิดล้อม ซึ่งจุดที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปะทะกับเสี่ยแป้ง อยู่บนเทือกเขาบรรทัด บริเวณบ้านในตระ และเขตรอยต่อจังหวัดตรัง-พัทลุง นั้น



ที่แรก! ช่อง 8 บุกรัง “เสี่ยแป้ง” กลางเทือกเขาบรรทัด เผยนาทีขอมากบดาน

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้เดินทางเข้าไปภายในเขตรอยต่อเทือกเขาบรรทัด จ.ตรัง - พัทลุง เพื่อเดินทางไปที่บ้านของนายพริก ซึ่งมีข้อมูลว่า คืนวันที่ 22 ตุลาคม เสี่ยแป้งได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช โดยมีลูกน้องรับตัวส่งต่อตัวเสี่ยแป้งมาเป็นทอด ๆ

จนกระทั่งได้พาเสี่ยแป้งมาซุกซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้านตระ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช กว่า 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนายเขียวลูกสมุนของเสี่ยแป้ง ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านตระ ที่ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ลูกน้องอีกกลุ่มได้พาตัวเสี่ยแป้งมาส่งถึงหมู่บ้านตระ ในเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 22 ตุลาคม



และนายเขียวยังให้การอีกว่า เสี่ยแป้งได้มาซุกซ่อนตัวและพักอาศัยที่บ้านนอนที่บ้านของนายพริก ซึ่งอยู่ภายในหุบเขาในหมู่บ้านตระ 1 คืนเต็ม ก่อนที่เสี่ยแป้งจะหลบหนึขึ้นไปอยู่บนเขาในวันที่ 23 ตุลาคม

ต่อมาทีมข่าวจึงได้เดินทางขึ้นรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเดินทางเข้าไปที่บ้านของนายพริก ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร โดยเส้นทางที่จะไปถึงบ้านในนั้น จะต้องใช้รถจักรยานยนต์ หรือการเดินเท้าเท่านั้น รถใหญ่ไม่สามารถขึ้นไปได้ และจากการเดินทางเข้าไปที่บ้านของนายพริก ทีมข่าวพบว่า เส้นทางค่อนข้างลาดชัน และเต็มไปด้วยป่าที่รกทึบ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือไฟฟ้าใช้ภายในหมู่บ้าน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังตรวจคนเดินทางเข้าออกเส้นทางเป็นชั้น ๆ



ส่วนเส้นทางนั้นก่อนจะไปถึงบ้านของนายพริก จะต้องผ่านสหกรณ์ของหมู่บ้าน และร้านค้าของชาวบ้าน 1 ร้าน ซึ่งจุดดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่อีกชุดตรึงกำลังอยู่ภายในหมู่บ้านเช่นกัน โดยจุดดังกล่าวใช้เป็นจุดรับข่าวสารจากวิทยุสื่อสาร จากชุดไล่ล่าที่เดินเข้าไปในเทือกเขาบรรทัดอีกทอด ซึ่งก่อนที่ข่าวสารจากชุดไล่ล่าจะส่งไปถึงศูนย์บัญชาการใหญ่จะต้องผ่านเจ้าหน้าที่ชุดนี้ก่อน เนื่องจากสัญญาณวิทยุไปไม่ถึง ซึ่งจุดสหกรณ์ของหมู่บ้านนั้น อยู่ห่างจากศูนย์บัญชาการประมาณ 8 กิโลเมตร

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายหรั่ง (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้านตระ ซึ่งเป็นร้านเดียวภายในหมู่บ้าน และเป็นร้านค้าที่ใกล้บ้านของนายพริกมากที่สุด ซึ่งบ้านของพริกต้องเดินทางขึ้นเขาไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร โดยนายหรั่งให้ข้อมูลว่า ตนเองไม่เคยเห็นหน้าเสียแป้งมาก่อน และเพิ่งเห็นจากข่าว ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่เคยเห็นเสี่ยแป้งหลบหนีเข้ามาซุกซ่อนตัวภายในหมู่บ้าน ซึ่งตนเองอาจจะไม่เห็นก็ได้เนื่องจากช่วงเวลาที่เสียแป้งหลบหนีเป็นเวลากลางคืน ร้านของตนเองปิดแล้ว



ส่วนนายเขียวและนายพริกที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านตระจริง ซึ่งตนเองก็จะเห็นทั้งสองคนเป็นประจำ และที่ผ่านมาทั้งสองคนจะขี่รถมอเตอร์ไซต์เข้าออกหมู่บ้านบ่อยครั้ง โดยขนข้าวสารอาหารแห้งจากด้านล่างขึ้นมาเป็นประจำเป็นปกติ ทำให้ตนเองไม่รู้ว่าข้าวสารอาหารแห้งที่นายเขียวและนายพริกขนขึ้นเขาไปนั้น นำไปเป็นเสบียงให้กับเสี่ยแป้งจริงหรือไม่

และหากถามว่า เสี่ยแป้งหากเข้ามาซุกซ่อนตัวภายในหมู่บ้านจริง ก่อนที่จะเดินทางดีขึ้นเทือกเขาบรรทัดเสี่ยแป้งจะอยู่ลำบากหรือไม่หากเข้าไปในป่าลึก ซึ่งตนเองเห็นต่างจากหัวหน้าอุทยานที่บอกว่า เสี่ยแป้งอาจจะอดตาย หากไร้เสบียงอาหาร เนื่องจากไม่มีสัตว์ป่าให้ล่า แต่ตนเองมองว่า เสี่ยแป้งจะอยู่รอดภายในป่าได้ เนื่องจากมีแหล่งน้ำตลอดทั้งปี ซึ่งหากไม่มีสัตว์ให้ล่า ก็สามารถจับปลา มาปิ้งปลากินได้สบาย ๆ เพราะมีแหล่งน้ำ

ซึ่งตนเองถือว่าการที่เจ้าหน้าที่จะค้นหาตัวเสียแป้งหากซุกซ่อนตัวอยู่ในแนวเทือกเขาบรรทัดจริง คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เนื่องจากพื้นที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล

ช่อง 8 เปิดชีวิตความเป็นอยู่ “เสี่ยแป้ง” ในป่าทึบ พบจุดหลบซ่อนตัวจำนวนมาก มีแหล่งน้ำพร้อม เจอถ้ำลับใช้กบดานได้

ขณะเดียวกันจากความเห็นของชาวบ้านที่มองว่า เสี่ยแป้งอาจจะอยู่รอดใช้ชีวิตภายในป่าได้ แต่จะต้องอยู่แบบยากลำบาก ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่บริเวณป่ารอบหมู่บ้านตระ โดยเดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน ซึ่งมีการเคลียร์พื้นที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว

พบว่าลักษณะป่าภายในเทือกเขาบรรทัดเป็นป่าดิบชื้น และเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ โดยมีจุดที่เสียแป้งจะหลบซ่อนตัวได้จำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจของทีมข่าว ตัวอย่างจุดแรก พบก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะคล้ายถ้ำที่เสี่ยแป้งสามารถเข้าไปหลบได้ ฝนหลบแดดได้อยู่ในพื้นที่ด้วย



รวมไปถึงหากเสี่ยแป้งใช้ชีวิตอยู่ในป่า หากเสี่ยแป้งหลบซ่อนตัวไม่ขยับตัวมาก เจ้าหน้าที่ก็แทบที่จะไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า และสามารถหลบซ่อนสายตาจากเจ้าหน้าที่ได้ง่ายมาก เนื่องจากเต็มไปด้วยป่าที่รกทึบ แต่ก็มีข้อเสียคือไม่มีผลไม้หรือสัตว์ให้ล่ามากนัก ซึ่งหากเสี่ยแป้งหลับนอนอยู่ภายในป่า เจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าที่เข้าไปติดตามตัวเสี่ยแป้ง จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ทีมข่าวได้เดินตรวจสอบพบว่ามีแหล่งน้ำจำนวนมากไหลผ่านตามแนวเทือกเขาบรรทัด โดยแหล่งน้ำดังกล่าวจะไหลไปบรรจบที่จังหวัดสตูล และลงทะเลในที่สุด ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่าแหล่งน้ำในแนวเทือกเขาบรรทัดนั้นมีตลอดทั้งปี และยิ่งมากในช่วงนี้เนื่องจากยังเป็นฤดูฝน ซึ่งเสี่ยแป้ง สามารถดื่มน้ำจากลำธารได้อย่างสบาย

หลังจากทีมข่าวเดินทางไปถึงสหกรณ์กลางหมู่บ้านตระแล้ว ได้เดินทางต่อไปที่บ้านของนายพริก ซึ่งอยู่ห่างจากสหกรณ์ของหมู่บ้านไปอีก 12 กิโลเมตร โดยเส้นทางดังกล่าวมีความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้มีถนนปูน หากเดินทางช่วงหลังฝนตกจะเต็มไปด้วยโคลน



เมื่อไปถึงบ้านของนายพริก ทีมข่าวได้พบกับกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประจำอยู่บริเวณจุดดังกล่าว โดยมีอาวุธครบมือ สลับกำลังเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายพริกจริง และเสี่ยแป้งได้เดินทางมาซุกซ่อนตัวบ้านหลังดังกล่าวจริง ก่อนที่จะหายตัวไป ซึ่งเส้นทางบ้านของนายพริกนั้น เป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ที่เส้นทางรถจักรยานยนต์สามารถไปถึง แต่หลังจากพ้นบ้านของนายพริกไปแล้ว เสี่ยแป้งจะต้องใช้การเดินเท้าเพื่อขึ้นเทือกเขาบรรทัดเท่านั้น

ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเดินทางไปถึงบ้านนายพริก พบว่า พริกและเสี่ยแป้งไม่อยู่แล้ว และแทบไม่มีร่องรอยการอยู่อาศัย ไม่มีหมอน ผ้าปูที่นอนใด ๆ เหลือเพียงแมว 1 ตัว ของนายพริก ที่เฝ้าบ้านอยู่เท่านั้น

โดยค่ำคืนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่โดยรอบจำนวน 10 โรงพักด้วยกัน ซึ่งเข้ามาตรึงกำลังและตรวจคนเข้าออกบริเวณทางขึ้นน้ำตกโตนตก ซึ่งทางเข้าออกเส้นทางดังกล่าวนั้น เป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดในการที่จะเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาบรรทัด และตำรวจคาดว่าเสี่ยแป้งอาจจะใช้เส้นทางนี้ในการขึ้นไปบนเขา



หากใช้รถจักรยานจักรยานยนต์จะใช้เวลาในการเดินทางขึ้นสู่หมู่บ้านประมาณ 20 นาที แต่หากเดินทางต่อไปยังบ้านของนายพริก จุดที่ตำรวจเชื่อว่าเสี่ยแป้งมาหลบซ่อนตัว จะใช้เวลากว่า 1-2 ชั่วโมง เพราะเส้นทางยากลำบากขึ้นหลายเท่าตัว ใช้รถมอเตอร์ไซค์และการเดินเท้าเท่านั้น

ส่วนบ้านของนายพริกนั้นอยู่ห่างจากจุดประทะของเจ้าหน้าที่พบเสี่ยแป้ง ประมาณ 5-6 กิโลเมตร และจุดปะทะ อยู่ห่างจากเขื่อนหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดไปดักปิดล้อมไว้แล้ว ซึ่งระยะทางจากจุดประทะ ไปยังเขื่อนหัวช้าง ซึ่งเป็นทางลงอีกฝั่งหนึ่งของเขาบรรทัด จะต้องใช้เวลา 1-2 วัน ในการเดินเท้า ซึ่งภายในป่า เส้นทางค่อนข้างยากลำบากและอันตรายมาก โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจได้เต็มกำลังไว้ทั้งหมดแล้ว และมีกำลังสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง

 

ที่แรก! ช่อง 8 เปิดรังซ่อนตัวเสี่ยแป้งกลางป่า อึ้งถ้ำลับใช้นอน ดึงใบไม้พรางหนีทีมล่า