จากกรณีโจรแสบงัดบ้านหรู เจอกุมารทอง โผล่ขวางทางกลางวันแสก ๆ วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายกุลภพ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ตะเวนขโมยของตามบ้านหรู ย่านบางแก้ว จ.สมุทรปราการ ที่กวาดทรัพย์สินกว่า 80 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทได้
นายกุลภพ เปิดเผยว่า ตัวเองแอบเข้าบ้านเพื่อไปขโมยของหลายหลังจนมาเจอบ้านหลังหนึ่ง ที่จู่ ๆ เจอกุมารทอง 2 ตนยืนขวางอยู่ ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลากลางวัน ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดและไม่ได้หลอนเพราะไม่ได้เสพยาเสพติดหรือดื่มสุรา จนทำให้มีอาการมึนเมาอย่างแน่นอน แต่เห็นกับตาจนทำให้ต้องรีบกระโดดออกจากชั้นสองของบ้านแล้วหนีไปโดยที่ไม่ทันได้ขโมยทรัพย์สินเลย
นายกุลภพ ยังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้ถูกจับกุมตัวได้แล้วอยู่ที่โรงพักรู้สึกว่าน้องกุมารทองทั้งสองตนก็ยังคงตามมาอยู่ที่นี่ด้วย ยังรู้สึกกลัวและหลอนอยู่เลย
ส่วนสาเหตุที่ต้องมาตระเวนขโมยของตามบ้านหรูแบบนี้ นายกุลภพ เปิดใจกับทีมข่าวว่า จริง ๆ แล้วตัวเองไม่ได้เป็นโจรมืออาชีพเพราะเพิ่งจะก่อเหตุครั้งนี้ครั้งแรก แต่ที่ทำไปเพราะหมดหนทางไม่มีเงินจริง ๆ เนื่องจากติดหนี้การพนันออนไลน์จนหมดเงินไปหลาย 100,000 บาท
ปกติตัวเองทำงานโรงงานพอตอนเย็นก็จะจะมาส่งพัสดุตามตามบ้านต่าง ๆ แล้วมีโอกาสเข้ามาในหมู่บ้านหรูหลายครั้ง พอเห็นบ้านใครไม่มีรถจอดอยู่หรือไม่มีคนก็แอบย่องเข้าไปขโมยทันที ตอนที่ไป ของที่บ้านหลังแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้ของจำนวนมากโดยเฉพาะทองคำเอาไปขายได้เงินมาประมาณ 70,000 บาท ก็เอามาเล่นพนันออนไลน์ต่อ ได้ประมาณ 100,000 บาท แต่ภายในวันเดียวกันนั้นก็เสียหมด วันรุ่งขึ้นก็มาก่อเหตุไปขโมยของในบ้านคนอื่นอีกในหมู่บ้านเดียวกัน
ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดในซอยของบ้านผู้เสียหายที่มีกุมารทองอยู่ จับภาพของนายกุลภพผู้ก่อเหตุช่วงเวลาประมาณช่วงเวลา 22.11 น. ซึ่งนายกุลภพกำลังเดินวนเวียนอยู่ภายในซอยเพื่อดูเป้าหมายว่าจะเข้าไปขโมยของบ้านหลังไหนดี แล้วก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของผู้เสียหายที่มีกุมารทอง
หลังจากนายกุลภพได้เป้าหมายคือบ้านหลังนี้แล้วก็หยุดดูลาดเลาอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านอีกประมาณ 1 นาที ก่อนจะทำการปีนเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายที่มีกุมารทองอยู่ ในช่วง 22.13 น.
หลังจากนั้นผ่านมาได้แค่ประมาณ 6 นาที ในช่วงเวลา 22.19 น. นายกุลภพรีบปีนหนีออกมาพร้อมกับไม่ได้ทรัพย์สินอะไรจากบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายกุลภพบอกว่าเข้าไปเจอน้องกุมารทอง 2 องค์ยืนขวางไม่ให้ขโมยของในบ้าน
นอกจากนั้นทีมข่าวของเรายังได้ภาพวงจรปิดภายในหมู่บ้านที่นายกุลภพผู้ก่อเหตุเดินวนเวียนเพื่อเลือกหาบ้านที่จะเข้าไปขโมยของซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่เห็นภาพและใบหน้าของนายกุลภพอย่างชัดเจน
ส่วนคลิปนี้เป็นคลิปบริเวณซอยอื่นที่ไม่ใช่บ้านของผู้เสียหายที่มีกุมารทองซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายกุลพบเดินอย่างสบายใจในหมู่บ้านก่อนที่จะเดินเข้าไปในซอยบ้านของผู้เสียหายที่มีกุมารทอง
เจ้าของบ้านเชื่อกุมารทองจุก-จันทร์ ช่วยรอดโจร
ขณะที่ทีมข่าวไปคุยกับ คุณธัญญ์ฐ์ดา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของบ้านที่เลี้ยงกุมารทองเอาไว้ บอกว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม ตำรวจโทร. มาถามว่าที่บ้านเลี้ยงกุมารทองหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาบอกว่าเจอกุมารทองในบ้าน ตอนนั้นตัวเองตกใจมากจึงรีบไปสถานีตำรวจก็ได้พูดคุยกับผู้ต้องหาเอง ซึ่งผู้ต้องหาเล่าว่าในขณะที่กำลังขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ปรากฏว่าผู้ต้องหารายนี้ต้องวิ่งหนีหน้าตั้งออกจากบ้านไปเพราะไปเจอกุมาร 2 องค์ ผมจุก ยืนถอดเสื้อท้าวเอวขวางที่ทางขึ้นบันได้
ซึ่งคุณธัญญ์ฐ์ดา ยอมรับว่า ได้เลี้ยงกุมารไว้จริง โดยเป็นกุมารที่ชื่อว่าพี่จุกกับพี่จันทร์ ที่ได้บูชามาจากวัดสวนหลวง อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อ 4-5 ปีก่อน และเป็นกุมารที่ตนเองมีความเชื่อความศรัทธาให้มาช่วยปกปักรักษาครอบครัวและทรัพย์สินในบ้าน ซึ่งรูปร่างของกุมาร ที่ผู้ต้องหาบอกกับตัวเอง ก็บอกตรงกันตามภาพที่ตนเองเอาให้ดู ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับตนเองและครอบครัว หากโจรในวันนั้นไม่เจอกุมารตามที่เขาบอก คงงัดเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีทรัพย์สินเงินทองอีกจำนวนมากอย่างแน่นอน โชคดีที่โจรได้เอาไปแค่พระเลี่ยมทองเฉย ๆ ซึ่งเชื่อว่าที่ผู้ต้องหาบอกว่าน้องกุมารทองตามไปอยู่ที่ห้องขังที่สถานีตำรวจด้วยก็เพราะน้องอาจจะตามไป ไปหาทรัพย์สินของที่บ้านคืนแม้ว่าผู้ต้องหาจะเอาไปขายแล้วก็ตาม