จากกรณีที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุดขึ้นปฏิบัติการปิดล้อม “บ้านในตระ” อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา และได้ปฏิบัติตรวจค้นพื้นที่บ้านในตระ จนได้รับรายงานว่า เกิดการยิงปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 2 แล้วที่ตำรวจยังคงไล่ล่าตัวแป้งอย่างต่อเนื่อง



เจอเลือดใกล้จุดปะทะ คาดเสี่ยแป้งบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้เดือนสำรวจพื้นที่บริเวณใกล้หมู่บ้านตระ โดยทีมข่าวได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า นอกจากถ้ำที่ทีมข่าวเดินทางไปสำรวจเมื่อวานนี้ ยังมีอีกหนึ่งถ้ำ ที่อาจเป็นจุดหลบซ่อนของเสี่ยแป้งก็เป็นไปได้



จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ป่าไม้นายหนึ่ง เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าถ้ำดังกล่าว เป็นพาหินขนาดใหญ่ และมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมรอบตัวถ้ำ เมื่อเดินเข้าไปถึง ได้ไปพบกับ กองคล้ายคราบเลือด อยู่บริเวณใกล้ตัวถ้ำ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการก่อไฟใกล้จุดที่พบกองเลือดอีกด้วย ซึ่งจากการสังเกตของทีมข่าวยังไม่แน่ชัดว่าเป็นกองคราบเลือด หรือคืออะไรกันแน่



นอกจากนี้ได้เดินสำรวจเพิ่มเติมรอบตัวถ้ำ ทีมข่าวยังไม่พบกับปลอกกระสุนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก ซึ่งมีสภาพใหม่ ถูกวางทิ้งอยู่ริมผนังถ้ำ และยังพบขวดแก้ว ไฟแช็ก คล้ายกับกองขยะ อยู่บริเวณถ้ำด้วย ซึ่งคาดว่าบริเวณถ้ำดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นที่ที่เสี่ยแป้งเคยใช้หลบซ่อนตัวหรือไม่

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ให้ข้อมูลว่า เขตพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่สามารถยิงปืนหรือล่าสัตว์ภายในเขตดังกล่าวได้ โดยจุดนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านในตระไม่ไกลมากนัก

ฝนถล่ม - น้ำป่าหลาก เสี่ยแป้งส่อรอดยาก

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขึ้นเขาไปติดตามการไล่ล่าตัวเสี่ยแป้ง โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสติดตามกองกำลังของตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมอาวุธครบมือ กว่า 10 นาย เดินทางขึ้นเทือกเขาบรรทัดในช่วงบ่ายวันนี้ โดยเป้าหมายหลักของทีมชุดนี้คือเพื่อไปเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าที่ขึ้นเขาไปก่อนหน้านี้ รวมไปถึงนำเสบียงอาหารขึ้นไปให้ทีมเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าที่กำลังตรึงกำลังอยู่บนแนวเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อจังหวัดตรัง-พัทลุง เพิ่มเติม



ระหว่างเดินทางในวันนี้ ทีมเจ้าหน้าที่ได้พบกับอุปสรรคใหญ่เนื่องจากมีพายุฝนโหมกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักในช่วงบ่าย ทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินทางเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่จะขึ้นไปภายในหมู่บ้านตระ จะต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางขึ้นไปเท่านั้น และมีระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร จากทางขึ้นเขาน้ำตกโตนตก ทำให้การเดินทางขึ้นไปเสริมกำลังบนเขานั้น ยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้นอีก จาก 3 ชั่วโมงเป็น 4 ชั่วโมง เนื่องจากเส้นทางเป็นดินทั้งหมด และมีความลาดชัน ทำให้การขับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย



ต่อมาทีมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อ โดยไปรวมกำลังกันอยู่ที่บ้านของนายพริก ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีก 12 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้บ้านของนายพริกที่เสี่ยแป้งเคยมาค้างคืนก่อนจะหลบหนีเข้าป่า ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการย่อยอยู่ที่นั่น

นอกจากนี้ทีมข่าวระหว่างที่จะเดินทางลงจากเขาบรรทัดพร้อมเจ้าหน้าที่ พบว่า ฝนยังตกหนักอยู่ต่อเนื่อง เนื่องจากภายในเทือกเขาบรรทัดนั้นเต็มไปด้วยหุบเขา และค่อนข้างสูงชัน ทำให้ฝนที่ตกลงมา ก่อให้เกิดน้ำป่าไหลลงจากเทือกเขาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า น้ำป่าบนเขาบรรทัดนั้น เป็นอันตรายมาก หากใครอาศัยอยู่บนเขาและไม่รู้จักที่หลบภัยที่ดี อาจจะถูกน้ำป่าซัดตกเขา ได้รับบาดเจ็บได้ ซึ่งฝนที่ตกตกลงมานั้น หากเสี่ยแป้งยังอยู่ภายในป่า ขณะนี้อาจจะต้องอยู่อย่างยากลำบาก

ส่วนความลำบากของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีเช่นกัน ไม่ใช่แค่เสี่ยแป้ง โดยระหว่างทีมข่าวกำลังเดินทางลงจากเขาพบว่า ทางขึ้นลงน้ำโตนตก ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่ง่ายที่สุด ในการขึ้นเทือกเขาบรรทัด จาก จ.ตรัง ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ปริมาณน้ำจำนวนมากอาจทำให้ ปิดทางขึ้นเขาบรรทัดได้ ซึ่งเป็นอุปสรรค หลังจากนี้หากเจ้าหน้าที่จะขึ้นไปเสริมกำลังหรือนำเสบียงขึ้นไปให้ชุดไล่ล่าเพิ่มเติม

ครั้งแรก ! เปิดศูนย์ไล่ล่าเสี่ยแป้งกลางป่า

หลังจากทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตรังได้รวมตัวกันที่บ้านของนายพริกแล้ว ได้ประชุมวางแผนกันประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำกำลังขึ้นไปเสริมกับทีมไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด พร้อมกับนำเสบียงขึ้นไปเสริม โดยทีมข่าวได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการเดินทางขึ้นไปยังด้านบนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า บ้านของนายพริกเป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ที่เส้นทางรถมอเตอร์ไซต์จะไปถึงเส้นทางจากนั้นจะต้องเดินทางทั้งหมด



จากนั้นทีมตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตรังนับ 10 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ป่า ได้เดินเท้าขึ้นเขาบรรทัด โดยมีอาวุธครบมือขึ้นไปเสริมกำลัง โดยอยู่ห่างจากบ้านนายพริก ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งจุดดังกล่าวที่ทีมข่าวติดตามเจ้าหน้าที่ไปนั้นอยู่ใกล้กับจุดที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยยิงปะทะกับกลุ่มเสี่ยแป้งไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่ทีมข่าวได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่แล้วว่าจุดที่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังอยู่นั้น มีการลาดตระเวน และเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดแล้ว



จากนั้นทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปดู จุดเพิงพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า พบว่า ในป่าลึกเจ้าหน้าที่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก ไม่มีไฟฟ้าและ สัญญาณโทรศัพท์ และเป็นป่าดิบชื้นที่มืดทึบ กลางวันคล้ายกลางคืน โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเสริมกำลังนั้น ได้มีเสบียงติดตัวขึ้นด้วย เพื่อใช้กินประทังชีวิต ซึ่งจุดเพิกพักของเจ้าหน้าที่นั้น จะแบ่งกันเป็นจุด ตามรอยต่อเทือกเขาบรรทัด ซึ่ง เจ้าหน้าที่จะมีการเดินลาดตระเวนและเคลียร์พื้นที่ให้แคบลงเรื่อย ๆ เพื่อจะบีบให้เสี่ยแป้งจนมุม

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้มีโอกาสสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดไลล่าถึงสภาพความเป็นอยู่ภายในป่า โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ต้องอยู่อย่างยากลำบาก ไม่มีทั้งหมอนและผ้าห่ม นอนพื้นบนใบไม้ และมีแค่ผ้ากันแดดกันฝนเท่านั้น ส่วนเวลากลางคืน ก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ใช้การก่อไฟเป็นส่วนใหญ่

ที่แรก! เปิดจุดยิงเจอรอยคล้ายเลือด-กระสุน คาดเสี่ยเจ็บ ทึ่งจุดล่าดงดิบ ตร.โคตรอึด