ระทึกงานกีฬาสี จ.ขอนแก่น นักเรียนใช้ถังดับเพลิงฉีดควันแทนดรายไอซ์ เกิดหน้ามืด แน่นหน้าอก หนักสุดอาเจียนเป็นเลือด ต้องหามส่ง รพ. ร่วม 40 ราย ล่าสุด ผอ.เขตการศึกษา สั่งสอบสวนด่วน ระบุเบื้องต้น คณะครูไม่รู้เรื่อง
จากกรณีเกิดเหตุในงานปิดกีฬาสีประจำปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เมื่อจู่ ๆ พบมีการนำถังดับเพลิง มาฉีดเป็นควันสีขาว ๆ แทนดรายไอซ์ (น้ำแข็งแห้ง) จนทำให้เด็กนักเรียนที่สูดควันเข้าไป หน้ามืด แน่นหน้าอก อาเจียน หนักที่สุดมีคนอาเจียนเป็นเลือด รวมเด็กและคนที่ชมการแสดง ที่หามส่งโรงพยาบาล 40 คน นั้น
ล่าสุด (11 พฤศจิกายน 2566) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งยังมีแสตนของสี แต่ละสีตั้งเรียงรายอยู่ขอบสนามแต่เนื่องจากวันนี้ เป็นวันเสาร์ มีเพียงครูเวร เข้าเวรอยู่เท่านั้น โดยครูเวรแจ้งว่า วันนี้ ผอ.โรงเรียน จะไปเยี่ยมอาการของเด็ก
จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงพยาบาลภูเวียง พบกับ นายลิขิต ห่มขวา ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะผู้บริหารได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของนักเรียนที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 1 ราย พร้อมเผยว่า ยอมรับเหตุดังกล่าวไม่มีใครคาดคิด เพราะคุณครูไม่รู้เรื่องมาก่อน การแสดงดังกล่าวเป็นการเตรียมการของนักเรียนบางกลุ่ม ทำให้ห้ามปรามไม่ทัน
หลังเกิดเหตุ มีนักเรียนและผู้ชมการแสดง มีอาการไอ แน่นหน้าอก แสบผิว และ อาเจียน รวม 40 ราย ทางโรงเรียนรีบแก้ปัญหา ส่งผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที ตอนนี้กลับบ้านได้ 34 ราย และยังรักษาที่โรงพยาบาล 6 ราย แต่อาการปลอดภัย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุมีการสอบสวนเรื่องราวร่วมกับตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่มองว่าเป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีใครต้องการดำเนินคดี หลังจากนี้ ทางโรงเรียนจะเข้มงวดไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด
ทาง ผอ. บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุครูทุกคนแทบไม่ได้นอน เพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ และมีการพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก ๆ เพื่อขอโทษและทำความเข้าใจแล้ว
ด้าน นายทวีศักดิ์ สมนอก รอง ผอ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ได้ทราบเรื่องและตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว สรุปว่าเรื่องถังดับเพลิงเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีใครทราบมาก่อน หลังจากนี้ต้องหาวิธีป้องกัน และจะต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยเยียวยาจิตใจ เพราะมีเด็ก ๆ เสียขวัญ รวมถึงมีการออกหนังสือเป็นข้อห้าม ข้อปฎิบัติอย่างชัดเจน ไม่ให้มีการนำถังดับเพลิงมาใช้ผิดประเภท เพื่อเน้นย้ำไปอีกครั้งไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ