วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2566) ทีมข่าวได้นำคลิปวิดีโอที่เสี่ยแป้งโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเป็นการซ้อมยิงปืนในสนามส่วนตัวให้ พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 วิเคราะห์ ซึ่งบอกว่า ปืนที่เสียแป้งใช้ฝึกซ้อมคลิปดังกล่าวเป็นปืนไรเฟิล M4 อยู่ในชนิดอาวุธสงคราม ซึ่งในคลิปขณะที่ยิงปืนเสียงปืนไม่ดังคาดว่ามีปลอกเก็บเสียงที่บริเวณปลายปืน แต่หากถามว่าเสี่ยแป้งยิงแม่นหรือไม่ในคลิป ไม่สามารถบอกได้เนื่องจากในคลิปเสียแป้งใช้เลเซอร์ช่วยขณะที่ยิงยังไงก็ต้องยิงแม่นอยู่แล้ว
ปืนเสี่ยแป้งใช้สู้ตำรวจ เป็นกระสุนเจาะเกราะ
จากนั้นทีมข่าวยังได้นำลูกกระสุนปืนซึ่งซึ่งบรรจุอยู่ในแมกกาซีน ที่ตำรวจยึดได้เป็นของกลางในวันนี้จากที่กบดานของเสี่ยแป้งบนเทือกเขาบรรทัดให้ดูปรากฏว่า พ.ต.ท.ศรายุทธ บอกว่า เป็นลูกกระสุนปืน FN 57 ขนาด 5.7 *28มม. สำหรับการใช้งานในปืนพก FN 57 เป็นลูกกระสุนปืนเจาะเกราะอย่างดี ผลิตจากบริษัท FN จากประเทศเบลเยี่ยมมีความเร็วต้น 2,600-2,700 ฟุตต่อวินาที ขณะลั่นลูกกระสุนออกจากปืน โดยลูกกระสุนมีราคาแพง เฉลี่ยตกลูกกระสุนละ 150-200 บาทต่อลูก ซึ่งคาดว่าในแมกกาซีนมีประมาณ 20 ลูก
เริ่มแรกบริษัทที่ผลิตลูกกระสุนดังกล่าว ทำลูกกระสุนชนิดนี้ใช้กับปืนกลมือ FN P90 และปืนพก FN 57 แต่คนนิยมใช้กับปืนพก FN 57 มากกว่า โดยลูกกระสุนปืน FN 57 สร้างมาเพื่อทำลายเสื้อเกราะโดยเฉพาะ หากจะให้เปรียบเทียบปัจจุบันตำรวจไทยมีเสื้อเกราะ 3 แบบ คือ เสื้อเกราะเคฟล่า (แบบอ่อน) เสื้อเกราะแผ่นเหล็กและเสื้อเกราะเซรามิก
จากการที่ตนเคยทดสอบใช้ปืนพก FN 57 ยิงเสื้อเกราะเคฟล่า (แบบอ่อน) ปรากฏว่าสามารถยิงทะลุเสื้อเกราะได้ง่ายดายแต่เสื้อเกราะแผ่นเหล็กและเสื้อเกราะเซรามิก ตนยังไม่เคยนำมาใช้ทดสอบกับปืนพก FN 57 นี้ ก็มองว่าจากของกลางที่พบคงเป็นแค่บางส่วนที่เสี่ยแป้งทิ้งไว้ก่อนเดินทางหลบหนีต่อ เพื่อให้มีของติดตัวน้อยกว่าเดิมในการให้คล่องตัวสำหรับการเดินป่า เนื่องจากทิ้งเพียงลูกกระสุนปืนบางส่วนไว้แต่ไม่ได้ทิ้งปืนไว้ด้วย ดังนั้นปืนพก FN 57 จึงต้องติดตัวอยู่ตอนนี้ขณะหนี
ดังนั้นตำรวจที่ตระเวนล่าตัวจะเข้าจับกุมตัวต้องระมัดระวัง เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเสี่ยแป้ง ยังมีอาวุธปืนสงครามชนิดอื่นติดตัวอีกหรือไม่ ซึ่งขณะแหกคุกหนีจากโรงพยาบาลหนีไปตัวเปล่าแล้วมีลูกน้องคนสนิทเอาอาวุธมาให้แสดงว่าจะต้องมีการวางแผนหนีอย่างรัดกุมก่อนหน้านี้ และคงไม่ได้มีปืนแค่กระบอกเดียว
ส่วนตัวมองว่าหากเจอเสี่ยแป้งตัวเป็นเป็นบนเขาเสี่ยแป้งต้องสู้ตาย เพราะถ้าเสี่ยแป้งจะหนีก็คงหนีนานแล้ว แต่ในส่วนบนเขาที่เสี่ยแป้งกำลังหนีไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ง่าย ๆ หากไม่คุ้นทางก็อาจหลงป่า หากโชคร้ายก็โดนสัตว์มีพิษหรือสัตว์ป่าทำร้าย อีกทั้งยังมีตำนานความอาถรรพ์ซึ่งตำรวจในพื้นที่จะรู้ดีและระวังหากเข้าพื้นที่ก็คิดว่าเป็นไปได้ที่เสี่ยแป้งยังอยู่บนเขาเพราะหลงทาง