วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ทีมข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าขึ้นน้ำตกโตนตก ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นไปยังเทือกเขาบรรทัด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทีมข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังคงมีทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สลับเวรกันตรวจตราคนเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ ได้ขึ้นไปด้านบนเขาเพื่อติดตามไล่ล่าเสี่ยแป้งเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เป็นทีมส่งเสบียงอาหารคอยประจำอยู่ศูนย์ปฎิบัติการเท่านั้น
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้ไปสำรวจระดับน้ำบริเวณสะพานทางขึ้นน้ำตกโตนตกบนเขาบรรทัด พบว่า น้ำป่ายังคงไหลแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนระดับน้ำสูงจากช่วงเย็นเล็กน้อย แต่ยังไม่ท่วมปิดสะพานเส้นหลัก
น้ำป่าซัดเขาบรรทัด "เสี่ยแป้ง" ได้เปรียบซุกตัวหนีชุดจับ
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถาม นายสายลม สมบัติทอง อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านควนไม้ดำ ซึ่งเจ้าตัวเคยเป็นนายพรานมา 30 กว่าปี มีความชำนาญในการเดินป่าบนเขาบรรทัด มองว่า การที่ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นข้อได้เปรียบของเสี่ยแป้งมาก ในการหลบซ่อนตัว เพราะเสี่ยแป้งไม่ได้ลำบากอะไรเลย หากอยู่บนเขาแค่นั่งเฉย ๆ พลังงานก็ไม่ต้องใช้ และหากเสี่ยแป้งจะลงจากเขา ตนเองก็เชื่อว่า ด้วยความชำนาญของเสี่ยแป้ง ก็คงจะรู้ทิศทางในการเดินลง และคงไม่ถูกน้ำป่าซัดง่าย ๆ เพราะทางลงเขามีหลายทาง และของกินในป่าก็เยอะ อยู่ได้เป็นเดือน ๆ ถ้าคนมีความชำนาญเส้นทาง
ส่วนฝ่ายที่จะเสียเปรียบก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปล่าตัวเสี่ยแป้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเดินค้นหาในเวลากลางคืน ใช้พลังงานมากกว่าและที่แย่ไปกว่านั้น สัตว์มีพิษต่าง ๆ เช่น ทาก ปลิง ก็จะเล่นงานเจ้าหน้าที่ได้
ค้นบ้านญาติแป้ง สงสัยช่วยส่งเสบียง
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่11 พ.ย. 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง เพื่อตรวจค้นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังสืบทราบว่า นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ฯ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยแป้ง ได้ให้ความช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ในการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจค้น สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบหาข้อมูลสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปถึงตัวของเสี่ยเเป้ง และนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการเชิญตัวนายกษิดิ์ชาติฯ ไปยัง สภ.เมืองพัทลุง เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เปิดใจ พงษ์ โต้ช่วยส่งเสบียง-ให้ที่หนีเสี่ยแป้ง
ทีมข่าวได้ข้อมูลจากการสืบสวนเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยแป้ง พบว่า หลังวันที่ 22 ตุลาคมที่เสียแป้งหลบหนีออกจากโรงพยาบาล นายกษิดิ์ชาติได้ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ในวันที่ 23 ตุลาคม ช่วงเวลา 12.14-18.30 น.
ซึ่งตามข้อมูลทางการสืบสวน พบว่าแม้ นายกษิดิ์ชาติจะไม่ได้พบเจอกับเสี่ยแป้งโดยตรง แต่มีการสนับสนุนโดยนำเงินจำนวน 10,000 บาท ให้กับเสี่ยแป้งไว้ใช้ซื้อเสบียงในการหลบหนี โดยให้ผ่านกับลูกสมุนของเสี่ยแป้งที่ชื่อ นายเสี้ยม ถึง 2 ครั้ง ในช่วงเวลา 12.14-18.30 น. ของวันรุ่งขึ้นหลังเสียแป้ง หลบหลีออกจากโรงพยาบาล
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวของเราได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ฯ พี่ชาย ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยแป้ง หลังจากถูกเชิญตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี
นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ เปิดใจกับทีมข่าว ว่า เมื่อช่วงเช้ามืดมีตำรวจนำหมายค้นมาขอค้นบ้านเพราะจากกระแสข่าว พบว่ามีพี่ชายของเสี่ยแป้งที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนีขึ้นเทือกเขาบรรทัด
ซึ่งนายกษิดิ์ชาติ ก็ยอมรับกับทีมข่าวว่าตัวเองเป็นข้าราชการสังกัดกรมป่าไม้ตำแหน่ง หัวหน้างานสืบสวนและบังคับคดี ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด
พอเจ้าหน้าที่มาถึงตั้งแต่ช่วงเช้ามืดตัวเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ด้วยการนำอาวุธปืนที่มีมีอยู่สองกระบอกมาให้กับเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบเป็นปืนขนาด 9 มม. และปืนลูกซอง พร้อมกับนำใบอนุญาตมาโชว์ให้กับเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นก็นำโทรศัพท์ไปตรวจสอบ พร้อมเชิญตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองพัทลุง
แต่ที่ตัวเองรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเมื่อไปถึงที่ สภ.เมืองพัทลุง กลับรู้สึกเหมือนถูกยัดข้อหา ให้ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือนำเสบียงส่งให้กับเสี่ยแป้งที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แล้วก็ทำเรื่องฝากขังต่อศาลภายในวันนี้เลย แต่ก็โชคดีที่ศาลเมตตาอนุญาตให้ประกันตัวมาได้
นายกษิดิ์ชาติ ยืนยันว่า ตัวเองทำงานทุกวันไม่ได้มีเวลาไปช่วยเหลือให้เสี่ยแป้งหลบหนีได้เลย และรู้ดีว่าในทางกฎหมายตัวเองเป็นข้าราชการการให้การช่วยเหลือหลบหนีคดีมีโทษรุนแรง ซึ่งตอนที่เสียบแป้งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วเตรียมสรุปนี้ก็ยืนยันว่าตัวเองไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน
ส่วนข้อมูลที่ระบุว่า แม้จะไม่ได้ให้การช่วยเหลือและเจอเสี่ยแป้งโดยตรงแต่นายกษิดิ์ชาติเป็นคนให้เงิน จำนวน 10,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง สนับสนุนผ่านลูกสมุนของเสี่ยแป้งอีกคนนึงที่ชื่อว่านายเสี้ยม ในประเด็นนี้ นายกษิดิ์ชาติยอมรับว่ารู้จักนายเสี้ยม แต่ตัวเองไม่ได้มีเงินจำนวนมากขนาดนั้นไปให้กับเสี่ยแป้ง ที่สำคัญตัวเองก็ยังยังไม่รู้เลยว่าเค้าอยู่ที่ไหนแล้วจะฝากใครไปให้ถึงเสี่ยแป้งจริง ๆ ที่สำคัญตอนนี้ตัวเองก็ค่อนข้างขัดสนเรื่องเงินทองอยู่คงเก็บเอาไว้ใช้กินในครอบครัวดีกว่า เพราะต้องจ่ายค่าเทอมให้กับลูกตั้งสี่คนที่มีข้อมูลว่าไปกดเงินมาให้สนับสนุนเสียแป้งหรือเปล่ายืนยันว่าเอามาใช้ส่วนตัว
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าตัวเองทำงานอยู่ที่เทือกเขาบรรทัดแล้วเสียแป้งไปหลบหนีซ่อนตัวอยู่ที่นั่นอาจจะทำให้การช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ฯ เปิดใจกับทีมข่าวของเรา ว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเสี่ยแป้งอยู่บนเทือกเขาบรรทัด ถ้าหากว่าอยู่บนเทือกเขาบรรทัดจริงเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่าหลาย 100 คน ทำไมจึงไม่สามารถควบคุมตัวได้
คนสนิท เผย เสี่ยแป้งเป็นนักแม่นปืน
วันนี้ทีมข่าวของเรายังได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นน้องคนสนิทของเสี่ยแป้งซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกัน ชื่อว่า จ่าภู นาโหนด อายุ 25 ปี บอกว่าตัวเองรู้จักและสนิทกับเสี่ยแป้งได้ประมาณเจ็ดปีแล้ว ยอมรับว่าเสี่ยแป้งเป็นผู้มีพระคุณกับตัวเองคนหนึ่ง เพราะเคยช่วยเหลือในสมัยที่ตัวเองมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มอื่น และส่วนตัวก็ยังมองว่าเสี่ยแป้งเป็นคนดีคนหนึ่ง
ส่วนที่เรื่องเสี่ยแป้งไปก่อเหตุหลบหนีคดีนั้น ส่วนตัวก็มองว่าเป็นคนละเรื่องกันแต่เชื่อว่าเสี่ยแป้งทำไปก็มีเหตุผลส่วนตัว
ในฐานะที่เคยสนิทกับเสี่ยแป้งเชื่อว่าตอนนี้เสี่ยแป้งไม่ได้อยู่บนเทือกเขาบรรทัดแล้วแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน ในตอนสมัยที่สนิทสนมกันนั้น เคยไปเที่ยวเดินขึ้นเขาอยู่บนเทือกเขาบรรทัดกับเสี่ยแป้งด้วยตอนนั้นไปกันประมาณสามคน โดยมีนายพรานนำทาง ซึ่งเสียแป้งเองก็ไม่ได้เป็นคนเชี่ยวชาญเท่าไรนัก และในระยะหลังแกป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเชื่อว่าการเดินขึ้นป่าจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเสี่ยแป้งในตอนนี้
แต่ที่ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษและเป็นความชำนาญเฉพาะทางของเสี่ยแป้งคือการยิงปืน เพราะสมัยก่อนที่สนิทกันมักจะชอบไปยิงปืนด้วยกัน ซึ่งเสียแป้งยิงแทบไม่เคยพลาดเป้าเลยถ้ามีคะแนนเต็ม 100 ก็คงจะให้ 100 คะแนนเต็ม หากจะพลาดบ้างก็แค่ 2% เท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่เสียแป้งต้องหนีคุกออกมาแบบนี้เท่าที่ทราบมาในฐานะคนที่เคยสนิทกันเชื่อว่าเสี่ยแป้งอยากเรียกร้องค่ะทำให้กับตัวเองเพราะคดีที่เสียแป้งถูกดำเนินคดีนั้นเป็นเพราะเสี่ยแป้งถูกหลอกและล่อลวงไปให้ก่อเหตุแล้วถูกจับกุมดำเนินคดี