สาวคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องเมียหลวงบุกจับสาวสวยคนสนิทสามี ที่นั่งบนรถสามีเธอ ปรากฎตอนที่ไปเจอเคาะรถเรียกสาว แต่สามีและสาง ไม่ยอมลงมาเคลียร์ไม่พอ ดันขับรถหนี ฝ่ายคนโพสต์เกาะรถตาม โดนลากไปกับรถขาเป็นแผล สุดท้ายได้ตบสาวคนสนิทสามี ก่อนโดนสามีล็อกคอ แล้วกันให้กิ๊กหนีไป
วงจรปิดวินาทีเมียหลวงจับสามีพาสาวคนสนิทนั่งรถกลางดึก ก่อนเกาะรถเคาะเรียกให้ลงมาคุยกัน แต่โดนลากไปไกลกว่า 200 เมตร สุดท้ายอาศัยแรงฮึบ กระโดดขึ้นหลังกระบะ
ภาพวงจรปิดจุดแรก วันที่ 11 พ.ย. 2566 เวลา 03.26นาที จับภาพรถจักรยานยนต์ของภรรยาหลวง ขี่มาจอดบริเวณหน้ารถกระบะของสามีซึ่งมีสาวคนสนิทนั่งอยู่ในรถกระบะด้วย จากนั้นภรรยาหลวงลงมาจากมอเตอร์ไซค์เดินไปที่ประตูข้างคนนั่งจากนั้นรถกระบะขับออกไปอย่างรวดเร็ว
มุมนี้จะสอดรับกับมุมแรก หลังรถกระบะขับมานิดหนึ่งแล้ว จอดหน้าประตูโรงเรียน โดยมีภรรยาเกาะรถพยายามเคาะเรียกคนในรถให้เปิดประตูรถกระบะที่จอดอยู่ แต่รถก็ขับออกไป
กล้องช่วงถัดมาจะเห็นมุมไกลช่วงที่ภรรยาขึ้นหลังรถกระบะแล้วรถจะค่อยๆ ขับออกไปในเส้นทาง โดยจุดสังเกตคือเห็นคุณเมย์ ภรรยายืนหลังกระบะที่เป็นคอกเหล็กไปตามเส้นทาง
กล้องมุมไกลช่วง 03.29 น. เห็นหลังจากภรรยาหลวงปีนขึ้นมาหลังรถกระบะ สามีได้มาจอดรถ มีลักษณะคนในรถ และหลังกระบะแล้วลงมาเคลียร์พูดคุย แต่สุดท้ายจบลงด้วยการตบตีกัน ฝ่ายชายได้จับแยกย้ายและขึ้นรถไปกับภรรยาน้อย
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับคุณเมย์ (นามสมมติ) สาวที่โพสต์เรื่องราวนี้ โดยวันนี้เจ้าตัวอุ้มลูกน้อยในอกให้สัมภาษณ์นักข่าว ระหว่างเดินทางมาพบแพทย์ที่รพ.ศิริราช เจ้าตัวเปิดใจเล่าความสัมพันธ์กับสามี ชื่อ นายตะวัน อายุ 38 ปี ทั้งสองอยู่กินฉันสามีภรรยา มา 13 ปีไม่ได้จดทะเบียน โดยฝ่ายหญิง อ้างว่า ฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ สมัยคบกันได้ 4 เดือนก็นอกใจ มาเรื่อยๆ แต่เธอให้อภัยมาตลอด
จนมาช่วงเดือนกรกฎาคม 66 ตอนเธอตั้งท้องลูกคนที่ 3 อายุครรภ์ 7 เดือน ฝ่ายชายทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า ปมเพราะไปเธอตบเมียน้อยคนเก่า แล้วพอฝ่ายชายรู้มีเรื่องทะเลาะกัน จังหวะเธอผลัดยื้อแย่งฝ่ายชาย เล็บเธอเกี่ยวโดนตัวฝ่าย ผู้ชายโมโหเลยตบหน้า
ล่าสุดเธอเพิ่งมาจับได้ว่าสามีมีเมียน้อยเป็นเด็กร้านคาราโอเกะ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตอนนั้นสามีทำตัวแปลกๆ ตอนออกไปขายของ ปกติกลับบ้านตีสอง แต่ตอนหลังกลับตี 4 บางที 6 โมงเช้า บางวันไม่กลับมาเลย แล้วฝ่ายชายอ้างว่าไปกินเหล้ากับน้องตลอด ที่แปลกกว่านั้น คือ เหมือนเธอไปสังเกตว่ารถที่ผู้ชายขับ ดันมีพวกกระดาษทิชชู่เปื้อนลิปสติกผู้หญิงตกอยู่ในรถ ซึ่งไม่ใช่ของเธอ บางทีก็มีเครื่องสำอางค์ผู้หญิงในรถ เธอเลยคิดว่าสามีน่าจะไปสนิทกับผู้หญิง เธอเอาโทรศัพท์กดแอพบันทึกเสียง แล้วซ่อนไว้ในรถ เลยทำให้ได้รู้ว่าสามีแอบคุยหญิงคนใหม่ รู้จักกันหลักเดือน ผู้หญิงทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะ แต่ตอนหลังฝ่ายชายแอบมาลบคลิปเสียงหายไปแล้ว
ส่วนกรณีมีเรื่องล่าสุดคืนวันที่ 11 พ.ย. เวลา 03.30 น. ตอนสามีออกไปซื้อของ พาสาวคนสนิทนั่งรถไป ด้วยความที่อยากแน่ใจว่าไปด้วยกันจริง เธอเลยเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในรถ พอได้ยินว่าสามีอยู่กับสาวคนสนิทจริง เลยขี่จยย.ตามไปเจอ จังหวะนั้นเอาจยย.ขวางหน้ารถ สามีพาผู้หญิงหลบ เธอไปจับประตูให้เปิด ผู้หญิงไม่ลงจากรถ เธอตะโกนให้คนในรถลงจากรถ พร้อมเดินวิ่งตามไป แต่คนในรถไม่ได้ยินขับรถออกไป ระหว่างนั้นเธอวิ่งตามไปแต่รถขับเร็วขึ้นเรื่อยเรื่อยเธอเสียหลักหกล้มแต่มือยังคงเกาะไว้ที่ฝั่งประตูซ้ายคนนั่ง รถหยุดเธอเรียกให้เปิดก็ไม่มีคนเปิด เป็นแบบนี้ 2-3 รอบ ลากไปประมาณ 200 เมตร สุดท้ายเธอขึ้นท้ายกระบะรถสามีไปสักพักหนึ่ง ผู้ชายลงจากรถ เธอเอากุญแจสำรองไขเปิดจะคุยกับผู้หญิง แต่ฝ่ายหญิงรีบหนีลงจากรถ เธอก็วิ่งตามไป ฝ่ายสาวคนสนิทไปกอดสามีเธอ เธอเลยกระชากมาคร่อมตบ แต่ผู้ชายมาช่วยสาวคนสนิทไม่ช่วยเมีย พอตบเสร็จก็ปล่อย แต่ผู้ชายกลับถีบแทน
สิ่งที่ทำให้เธอทนไม่ไหวแล้วคือผู้ชายทำร้ายตบตีทั้งทั้งที่เป็นคนไปมีผู้หญิงคนสนิท อีกเหตุผลหนึ่งคือผู้ชายอยากจะเลิกกับเธอแต่คนเป็นเมียยังไม่อยากเลิก ยังรู้สึกว่าเขาเป็นสามีเรา และที่ผ่านมาเห็นภาพบาดตาที่ผู้ชายไปมีผู้หญิงคนอื่นหลายครั้ง มันเจ็บทนไม่ได้ ทั้งๆ ที่เลิกไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะมีลูก 3 คน เลยกลับมาอยู่ด้วยกันเพราะเห็นแก่ลูก แต่ฝ่ายชายยังรักสนุกอยู่
ที่ผ่านมาเธอเคยพยายามร้องขอให้ทางครอบครัวของฝ่ายชายรับรู้พฤติกรรมของผู้ชายโดยทางแม่ของผู้ชายนั้นเคยโทรไปบอกสาวคนสนิทของผู้ชายว่า ไม่ให้มายุ่งเนื่องจากผู้ชายมีครอบครัวอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นรอบนี้เธอได้รับบาดเจ็บขาทั้งสองข้างมีรอยถลอกจากการที่ครูดไปกับพื้นถนนโดยฝั่งขาขวาจะมีร่องรอยบาดแผลที่กำลังเหมือนกับตกสะเก็ดและยังมีแค่อีกหลายแห่งตามเท้าซึ่งวันนี้เธอได้มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำไปส่งให้กับตำรวจจะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชายต่อไปหลังจากนี้ก็ยืนยันว่าจะเลิกกับผู้ชายเด็ดขาดไม่กลับไปคืนดีแล้ว
ที่ผ่านมาเธอเคยพยายามร้องขอให้ทางครอบครัวของฝ่ายชายรับรู้พฤติกรรมของผู้ชายโดยทางแม่ของผู้ชายนั้นเคยโทรไปบอกสาวคนสนิทของผู้ชายว่า ไม่ให้มายุ่งเนื่องจากผู้ชายมีครอบครัวอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นรอบนี้เธอได้รับบาดเจ็บขาทั้งสองข้างมีรอยถลอกจากการที่ครูดไปกับพื้นถนนโดยฝั่งขาขวาจะมีร่องรอยบาดแผลที่กำลังเหมือนกับตกสะเก็ดและยังมีแค่อีกหลายแห่งตามเท้าซึ่งวันนี้เธอได้มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำไปส่งให้กับตำรวจจะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชายต่อไปหลังจากนี้ก็ยืนยันว่าจะเลิกกับผู้ชายเด็ดขาดไม่กลับไปคืนดีแล้ว
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพูดคุยกับนายตะวัน สามี ชายคนนี้เล่าว่าอยู่กินกับเมีย 13 ปี มีลูก 3 คน คนโต 11 ขวบ คนกลางอายุ 5 ขวบ และคนสุดท้องอายุ 2 เดือน 8 วัน
ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาก็อยู่ด้วยกันมา ทำร้านขายของด้วยกัน แต่หลังๆ ก็มีเรื่องระหองระแหงกัน ฝ่ายหญิงเคยทิ้งผมไปเป็นปี ผมตามง้อไม่ยอมกลับมา จนรอบล่าสุด กลับมาอยู่ แต่ก็มีปัญหากันอีก ยิ่งตอนหลังมีเรื่องการพนัน บวกกับเรื่องอื่นๆ รวมๆ กัน ผมกับเมีย เลยตัดสินใจแยกกันอยู่ ทำหน้าที่พ่อแม่กันไป แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน ส่วนสาวคนสนิทนั้นเพิ่งเจอกันตอนผมไปทำงาน ก็ไปเจอกับเขา เลยคุยกัน
วันเกิดเหตุนั้น ตนพาสาวคนสนิทนั่งรถไปซื้อของที่ตลาด ซึ่งภรรยาน่าจะเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในรถ เลยรู้ว่าตนพาสาวคนสนิทไปที่ไหน เลยตามมาถูก โดยภรรยาขี่รถจักรยานยนต์ตาม เอารถขวาง แล้วพยายามเปิดประตู แต่ตอนแรกผมไม่เปิด เพราะกลัวสองสาวจะปะทะกัน แต่ไม่รู้ว่าภรรยาเกาะประตูรถอยู่ พอจอดรถจะคุยภรรยาถีบกระจก แล้วดึงสาวคนสนิทออกจากรถและถีบรถ ยอมรับว่าตัวเองผิดจริง ที่คุยกับผู้หญิงอื่น แต่ความรู้สึกกับเมียตอนนี้ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่เมียทิ้งผมไปและกลับมาอยู่ด้วยกัน พอมีปัญหารอบนี้ ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเป็นข่าว แต่พอเป็นข่าวเลยตัดสินใจขอคุยกันกับพ่อแม่สองบ้านก่อน แต่ไม่ได้กับไปอยู่กินกับเมีย
ส่วนประเด็นที่เคยบอกเมียว่าขอมีเมียน้อยได้หรือไม่ ตนยืนยันแค่พูดเล่นๆ ไม่คิดว่าเมียจะเอาไปคิดจริง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องพิ้งค์ สาวคนสนิทสามีคุณเมย์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันเกิดเรื่อง ตนกับฝ่ายชายไปด้วยกันจริงๆ แต่ไม่คิดว่าไม่ได้คิดว่าภรรยาเขาจะมาตาม จนเกาะรถ แล้วสุดท้ายมาเปิดรถได้ เลยกระชาก หยุมหัวตน จนตนขอร้องว่าอย่าทำเลย
ส่วนตัวตนไม่เคยท้าทายภรรยาเลย ไม่เคยตอบโต้ มีแต่ฝ่ายหญิง ที่โจมตีฝั่งตนมาตลอด เอาไปโพสต์ด่าว่าตนมีอาชีพบริการ ทำให้ตนเสียหาย
ประเด็นที่ถามว่า สนิทกับผู้ชายจริงหรือไม่ ตนรู้จักกับฝ่ายชายจริง โดยรู้จักกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายมาขายของที่ร้านอาหารที่ตนทำงานอยู่ ยอมรับสนิทกันคุยกันจริง แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว พอมารู้ฝ่ายชายก็บอกว่าจะเลิกกับฝ่ายหญิง ส่วนตนแค่คุยเฉยๆ หลังจากนี้ตนให้ฝ่ายชายตัดสินใจว่าจะคบหรือเลิกกับตน ส่วนตัวตนรักฝ่ายชาย มันคือความรัก ห้ามกันไม่ได้ เราไม่ได้เรียกร้องอะไร เราอยู่ส่วนของเรา ไม่เคยแสดงตัว