ชุดลาดตะเวนคุมตัวคนลงเขา เค้นสอบหวั่นพา แป้ง หนีจากป่า
ขณะที่ตำรวจตระเวนชายแดน 434 ยังคงปฏิบัติหน้าที่คอยฟังข่าวและส่งเสบียงคอยสนับสนุนแนวหน้า เดี๋ยววันนี้พบว่าหน่วยซิงก้า ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา ซึ่งมีขีดความสามารถทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ปฏิบัติงานได้ ทั้งในเมืองและในป่า ชำนาญในการช่วยเหลือ ปิดล้อม จับกุม ชิงตัวประกัน ต่อต้านการก่อการร้าย ก็ได้สับเปลี่ยนเวรออกมาพักหลังจากที่เขาไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้จะมีตชด.อีก 1 ชุดที่จะสับเปลี่ยนกำลังเข้าไปได้เตรียมสัมภาระอาหารแห้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆอย่างพร้อมเพรียง เตรียมความพร้อมหากด้านในต้องการกำลังเสริม
ด้านดาบตำรวจสุเมธ ตชด.434 จังหวัดพัทลุง ขอแก้ข่าวว่าที่กำลังพลถูกทากกัดจนล้มป่วยไม่เป็นความจริง แต่แค่ถูกกัดเลือดออกเล็กน้อยเท่านั้น ยอมรับข่าวเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน ทั้งกรณีที่ตำรวจถูกต่อต่อย แต่ส่วนตัวยังมีกำลังใจที่ดีในการทำงาน เพราะหน้าที่หลักที่ผ่านมาก็คือการทำงานในพื้นที่เทือกเขาสูง จึงพร้อมปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากผู้บังคับบัญชา
ชาวบ้านตะโหมด รักเสี่ยแป้ง เชื่อว่าลงมา อาจให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางพูลศรี อายุ 52 ปี ชาวบ้านตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นชุมชนริมเชิงเขาบรรทัด ที่มีกระแสข่าวว่า เสี่ยแป้งอาจจะลงจากเขาที่ชุมชนแห่งนี้
นางพูลศรี เปิดใจกับข่าวช่อง 8 ว่า เสี่ยแป้งเคยมากินอยู่ที่บ้านตัวเองเมื่อหลาย 10 ปีก่อนเพราะสนิทกับลูกชายที่เป็นนักแข่งรถด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันและยังมีถ้วยรางวัลจากการแข่งรถกับเสี่ยแป้งมาให้กับทีมข่าวเราดู แม้ว่าตอนนี้ลูกชายตัวเองจะไปเป็นทหารอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วแต่ส่วนตัวก็ยังคงรักเสี่ยแป้งอยู่ และพูดได้เต็มปากว่าชาวบ้านในตำบลตระโหมด ที่อยู่ริมเชิงเขาบรรทัดเกือบทุกคนรักเสี่ยแป้ง
หากนับชาวบ้านเป็น 100% เชื่อว่า 80% เป็นชาวบ้านรักเสี่ยแป้งมีเพียงส่วนน้อยประมาณ 20% เท่านั้นที่อาจเฉยเฉยและไม่ชอบเสียแป้ง สาเหตุที่รักเสี่ยแป้งเพราะเขาเป็นคนดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นไม่เคยทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลหรือข่มขู่ชาวบ้านเลย
ซึ่งเชื่อว่าหากเสียแป้งลงมาจากเขาจริงแล้วมาเจอชาวบ้านที่รักเสี่ยแป้งก็อาจจะให้ความช่วยเหลือได้ เพราะชาวบ้านไม่รู้เรื่องราวระหว่างความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับเสี่ยแป้ง
นางพูนศรียังบอกอีกด้วยว่าเสี่ยแป้งเป็นคนที่มีความสามารถเก่งในหลายเรื่องและเป็นที่คุ้นเคยของชาวบ้านในชุมชนบ้านตะโหมดดี ตอนที่ทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องเสียแป้งในฐานะคนสนิทกันและรักเสี่ยแป้งก็ยังคงรู้สึกเสียใจอยู่ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ผู้ใหญ่บ้านไม่อยากยุ่งเรื่องเสี่ยแป้ง เลยไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ไปพูดคุยกับ นายทนงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บอกว่า ตอนนี้ตำรวจน่าจะมีอุปสรรคในการขึ้นเขาไปตามล่าหาเสี่ยแป้ง เพราะตำรวจติดต่อมายังทางผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยหาชาวบ้าน ที่รู้เส้นทางบนเขาบรรทัด เพื่อให้นำทาง ตำรวจขึ้นเขาไปตามหาตัวเสี่ยแป้ง
แต่ทางผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีชาวบ้านคนไหนรับปาก ว่าจะพาตำรวจขึ้นไป และแม้ว่าชาวบ้านหลายคนจะชำนาญเส้นทาง ขึ้นเขาไปหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้านำตำรวจขึ้นเขาไปหาเสี่ยแป้งบนเขา ซึ่งหลายคนอาจจะกลัว และไม่อยากยุ่ง เนื่องจากชาวบ้านหลายคนเองก็สนิทกับเสี่ยแป้ง ในสมัยหลายปีก่อน ที่เสี่ยแป้งมาอยู่ที่นี้
ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ก็มีความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคน มีอาชีพหลักในการทำเกษตรและกรีดยางพาราอยู่บริเวณริมเทือกเขาบรรทัด เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่สามารถทำสวนหรือไปกรีดยางพาราได้ก็ทำให้ขาดรายได้และเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต