ที่แรก! ตามติดชีวิต ทีม จนท.ล่า “เสี่ยแป้ง” กินข้าวใต้แสงเทียน นอนบนเก้าอี้ - เฝ้าสับเวรยามตลอด 24 ชม.
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุดขึ้นปฏิบัติการปิดล้อม “บ้านตระ” อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ (8 พ.ย.) และได้ปฏิบัติตรวจค้นพื้นที่บ้านตระ จุดที่สืบทราบว่า เสี่ยแป้งหนีมาซ่อนตัวในหมู่บ้านก่อนขึ้นเขาบรรทัด จนได้รับรายงานว่า เกิดการยิงปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 24 แล้วที่ตำรวจยังจับตัวแป้งไม่ได้
ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสติดตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปยังหมู่บ้านตระ เพื่อเสริมกำลังไล่ล่าตัวเสี่ยแป้ง โดยออกเดินทางจากน้ำตกโตนตกตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น มาถึงสหกรณ์ ภายในหมู่บ้านตระ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งบรรยากาศทางขึ้นไปยังหมู่บ้านตระ บนเทือกเขาบรรทัดในเวลากลางคืน แตกต่างจากกลางวันเป็นอย่างมาก สองข้างทางไม่มีแสงไฟส่องสว่าง และหลังเกิดเรื่องแทบไม่มีรถชาวบ้านคนไหนใช้ขึ้นลงเขา เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย และเส้นทางขึ้นเขาในเวลากลางคืน หากใครไม่ชินเส้นทาง ก็อาจจะขี่รถตกเขาได้ เนื่องจาก เส้นทางบางช่วงเป็นเนินสูง จะต้องใช้ความเร็วของรถ ส่งตัวให้ขึ้นเนินไปได้ และค่อนข้างลาดชัน
ต่อมาทีมข่าวได้แวะสำรวจบริเวณทางเข้าหมู่บ้านตระในเวลากลางคืน บริเวณศาลทวดเล็ก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน ซึ่งบรรยากาศตอนกลางคืนเงียบสงัด โดยทางเข้าหมู่บ้านนั้นอยู่ห่างจากใจกลางหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร
จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางเข้าไปปักหลักกินอยู่หลับนอนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ภายในหมู่บ้านตระ บริเวณสหกรณ์ของหมู่บ้าน โดยจุดนี้ถือเป็นศูนย์บัญชาการย่อย ที่มีหน้าที่รับข่าวสารจากวิทยุจากทีมไล่ล่าภายในป่า ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ทีมไล่ล่าจะมีประมาณ 4 สาย กระจายกำลังปิดล้อมแนวเทือกเขาบรรทัด พัทลุง - ตรัง ซึ่งหากทีมชุดไล่ล่าต้องการความช่วยเหลือ หรือ ต้องการส่งข่าวไปยังหน่วยใหญ่จะต้องผ่านจุดนี้ก่อน
และจุดนี้ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่อีกหลายสิบนาย อาวุธครบมือ คอยแบ่งกำลังดักทางขึ้นลงในหมู่บ้านตระด้วย หากเสี่ยแป้ง จะย้อนกลับลงจากเขาและหนีลงฝั่งพื้นที่ จ.ตรัง จุดนี้จะเป็นจุดซุ้มสกัดอีกด้วย
ต่อมาทีมข่าวได้เดินเข้าไปสำรวจศูนย์บัญชาการย่อย ช่วงเวลากลางคืน พบว่า เจ้าหน้าที่นั้นกินอยู่หลับนอนค่อนข้างลำบาก เนื่องจาก ในหมู่บ้านไม่มีทั้งไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ จะต้องใช้การจุดเทียน เป็นแสงสว่างเท่านั้น ส่วนอาหารการกิน ของเจ้าหน้าที่ก็จะเลือกเฉพาะอาหารสำเร็จรูป กินง่ายอยู่ง่าย อย่างเช่น หมูทอดแห้งๆ และปลาเค็มแห้งเป็นต้น
เปิดสภาพการนอนของเจ้าหน้าที่กลางคืน ก่อนลาดตระเวน
ส่วนสภาพชีวิตช่วงกลางคืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้ไปกินอยู่หลับนอนร่วมเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้คุณผู้ชมเห็นถึงความยากลำบาก และวิธีเข้าเวรยามของเจ้าหน้าที่ในเวลากลางคืนว่า มีความเข้มงวดขนาดไหน
โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายจะกระจายกันนอน เอาหัวไปคนละทิศกัน บางคนผูกเปลนอน บางคนนอนบนโต๊ะ บางคนนอนบนเก้าอี้ เพื่อไม่ให้คนร้ายมองเห็นที่อยู่ของเจ้าหน้าที่จากด้านนอกได้ชัดเจน
โดยเจ้าหน้าที่จะมีการสับเปลี่ยนกันเข้านอนเป็นกะ กะละประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาค่ำหลังเที่ยงคืน เป็นช่วงที่อันตรายที่สุด จนท.จะดับเทียนภายในที่พัก และใช้ไฟฉายส่องออกจากที่พักไปด้านนอก ซึ่งเป็นยุทธวิธีการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ ทำให้คนร้ายที่อยู่ด้านนอก ไม่เห็น จนท.และทีมข่าว แต่ จนท.จะเห็นคนร้าย เมื่อ เดินผ่าน หรือ ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ เจ้าหน้าที่ก็จะคอยใช้ไฟฉายส่องตรวจสอบทันที รวมไปถึงยังมี จนท.อีกบางส่วน ผลัดเวรเฝ้าอยู่โดยรอบที่พักด้วย
ช่อง 8 สำรวจบรรยากาศในหมู่บ้านตระ เวลาเดียวกับเสี่ยแป้งหนีกบดาน พบเงียบสกัด มืดตึ๊บ ไม่ชำนาญทางยากจะมาถึง
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้เฝ้าสำรวจบรรยากาศช่วงเวลา ตี 3 และ ตี 4 ภายในหมู่บ้านตระ บนเขาบรรทัด เพื่อดูบรรยากาศในช่วงเวลานั้น เพื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาตี 4 ของ 23 ต.ค. ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจ เชื่อว่า หลังจากเสี่ยแป้งได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช และได้มีลูกน้องคนสนิทขับรถมาส่งใกล้กับทางขึ้นน้ำตกโตนตก โดยคาดการณ์ว่า เสี่ยแป้งได้ขี่รถมอเตอร์ไซต์ ขึ้นมาบนหมู่บ้านตระ และไปกบดานอยู่บ้านของนายพริก ก่อนจะหนีเข้าป่า โดยบรรยากาศช่วงเวลาดังกล่าวนั้นจะเป็นอย่างไร
ตำรวจตรึงกำลังปิดล้อมเขาบรรทัดต่อเนื่อง เชื่อ แป้ง ยังอยู่ในเขา
ส่วนบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ยังคงมีชุดชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 และปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง เดินทางสลับสับเปลี่ยนกำลังกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า เสี่ยแป้งอาจจะหลบหนีลงจากเขาไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ไว้วางใจ และยังเชื่อว่า เสี่ยแป้ง อาจจะยังซุกซ่อนอยู่บนแนวเทือกเขาบรรทัดอยู่ไม่ได้หนีลงไปไหน
เนื่องจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้พยายามตรวจสอบข่าวลือที่ว่า “เสี่ยแป้งได้แอบลงจากเขา ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง จ.พัทลุง โดยไปขอข้าวจากชาวบ้านกิน” แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ไม่พบบุคคลต้นเรื่องที่ให้ข่าว ไม่มีพยานบุคคล ไม่มีร่องรอย และข้อมูลไม่มีความเชื่อมโยงกัน เจ้าหน้าที่จึงเกรงว่า กลุ่มที่กำลังช่วยเสี่ยแป้งอยู่ อาจปล่อยข่าวลือ ให้เจ้าหน้าที่ไขว้เขวก็เป็นได้
ส่วนการสลับเวรของเจ้าหน้าที่นั้น ทีมเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าแต่ละชุดจะสลับเปลี่ยนเวรเไม่เหมือนกัน เจ้าหน้าที่บางชุดที่เข้าไล่ล่าในป่าลึก ก็จะอยู่ในป่าประมาณ 3 วัน 2 คืน ส่วนชุดไล่ล่าที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้าน ก็จะสับเปลี่ยนกำลังกันทุกวัน โดยจะสลับเปลี่ยนกันในช่วงเช้า
โดยในวันนี้ทีมข่าวได้ติดตามชุดปฏิบัติการพิเศษชุดหนึ่งไปดูชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ได้เปลี่ยนกำลังมาเฝ้าจุดบริเวณขนำนายพริก ซึ่งจะเห็นว่าอาหารการกินของเจ้าหน้าที่ จะมีพวกข้าวสารอาหารแห้ง ปลากระป๋อง น้ำดื่ม
ส่วนการอาบน้ำ จุดไหนที่มีแหล่งน้ำใกล้กับจุดที่พัก เจ้าหน้าที่ก็จะไปอาบน้ำบริเวณลำธารภายในป่า โดยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่แต่ละคน มักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้คดีนี้จบลงโดยเร็ว เนื่องจากนับวัน ที่ก็เริ่มเหนื่อยล้าแล้ว แต่จะยอมแพ้ไม่ได้เป็นหน้าที่ และส่วนใหญ่เชื่อว่า ขนาดพวกตนเองอยู่ในป่ายังลำบากขนาดนี้ แล้วเสี่ยแป้งหากใช้ชีวิตอยู่ในป่าคนเดียวจะลำบากขนาดไหน จิตใจต้องเข้มแข็งขนาดไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอีกไม่นานเสี่ยแป้ง หากยังไม่เสียชีวิต จะถูกจับได้ในที่สุด