สำรวจหมู่บ้านราวปลา สตูล เจอรอยเท้าปริศนา
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ขึ้นเขาไปกับ นายจ่าเยศ แกล้วทนงค์ หรือชาวบ้านเรียก พรานจ่า พรานป่าที่มีความชำนาญเดินป่าบนเทือกเขาบรรทัดมานานกว่า 30 ปี และเป็นอดีตคอมมิวนิสต์เก่า เพื่อสำรวจเส้นทาง ที่เสี่ยแป้งอาจจะลงมาจากจุดปะทะ ที่บ้านตระ จังหวัดตรัง มายังพื้นที่บ้านราวปลา จังหวัดสตูล ซึ่งวันนี้ทีมข่าวของเราขึ้นไปกับพรานจ่า จนไปถึงจุดที่ใกล้กับคลองสามแพรก ซึ่งเป็นพื้นที่คอมมิวนิสต์เก่า และเป็นทางเชื่อมไปยังจุดปะทะที่บ้านตระประมาณ 15 กิโลเมตร
ระหว่างทาง ทีมข่าวของเราพบ รอยเท้าปริศนา ที่พรานป่าบอกว่า น่าจะผ่านมาประมาณ 3 วัน มีลักษณะเหมือนเดินลงมาจากเขาแล้วกลับขึ้นไป ความยาวรอยเท้าประมาณ 25 เซนติเมตร ซึ่งยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเป็นรองเท้าของใคร แต่พรานจ่าบอกว่า ตอนนี้ ชาวบ้านยังไม่มีใครกล้าขึ้นมาบนเขาหลังจากจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ทีมข่าวของเราทำการทดสอบด้วยการนำรองเท้าของแต่ละแบบเพื่อตรวจสอบดูรอยเท้า
แบบแรก คือรองเท้าของชาวบ้านแบบที่เป็นหูคีบ จะมีลักษณะรอยเท้าค่อนข้างโค้งบริเวณหน้าเท้า
แบบที่สอง คือรองเท้าของชาวบ้านแบบรองเท้าแตะทั่วไป สวมบริเวณหน้าเท้า แบบนี้บริเวณหัวและปลายเท้าจะค่อนข้างกลมมน
แบบที่สาม คือรองเท้าบู๊ทของเจ้าหน้าที่ ซึ่งรองเท้าบู๊ทจะปรากฏลักษณะของรอยตารางบริเวณพื้นเท้าอย่างชัดเจน
แบบที่สี่แบบสุดท้ายเป็นรองเท้าผ้าใบของทีมข่าว มีลักษณะโค้งวบริเวณด้านในเท้า ส่วนฝั่งด้านนอกเท้าตั้งแต่หัวเท้าจนถึงปลายเท้าค่อนข้างตรง
"บิ๊กแมน" สยบข่าวลือ เป็นไปได้ยาก ขีดเส้นอีก 10 วัน ล่า "เสี่ยแป้ง" บนเขาบรรทัด หากไม่เจอจะส่งทีมนายพรานนับสิบควานหาตัวร่วมกับตำรวจ
พลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า จากการบุกค้นขนำกลางป่าและตรวจสอบเพิงพักของชาวมานิ บริเวณเหนือน้ำตกท่าช้าง อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง พบว่ามีเพิงพักของชาวมานิหลายสิบหลัง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างใกล้กับจุดที่มีการปะทะกันกับแป้งนาโหนดเมื่อ 8 วันที่แล้ว โดยเป็นไปได้ว่าเพิงพักเหล่านี้อาจเป็นที่หลบซ่อนตัวของแป้งนาโหนด หรือไม่ก็ลงมากินเสบียงอาหารและน้ำของชาวมานิที่เก็บเอาไว้ในเพิงพัก หลังพบว่ามีร่องรอยว่าชาวมานิเพิ่งเคลื่อนย้ายย้ายออกไปเมื่อประมาณ 3 - 5 วันที่ผ่านมา โดยมีข้าวของเครื่องใช้ อยู่ในที่พักอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบพบจุดที่คนร้ายอาจซุ่มอยู่เป็นจำนวนมาก ตนคิดว่าหากนำกำลังเข้าไปอาจจะไม่ปลอดภัย จากนี้อีก 10 วัน ยังไม่พบตัวเสี่ยแป้ง อาจจะต้องว่าจ้างนายพรานนับสิบๆคนกระจายลงพื้นที่ควานหาตัวร่วมกับตำรวจ
ส่วนกรณีที่นายดำรงค์ พิเดช สมาชิกวุฒิสภาและอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์กับสื่อฉบับหนึ่งว่า เสี่ยแป้งน่าจะลงจากเขาบรรทัด โดยมีนายพราน 2-3 คนเป็นคนนำทาง พาไปลงเรือประมงผ่านไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งอาจจะเป็นประเทศอินโดนีเซียหรือไม่
พล.ต.ท.อิทธิพล ระบุว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเสี่ยแป้ง ไม่มีญาติหรือคนรู้จักที่นั่น และจากการตรวจสอบประวัติการเดินทางไปต่างประเทศของเสี่ยแป้ง ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่พบว่าเคยเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียหรือมาเลเซียแต่อย่างใด ยังเชื่อว่า แป้ง นาโหนด ยังอยู่ในเทือกเขาบรรทัด โดยอาศัยเพิงพักรอบๆอบๆเขาบรรทัดเป็นจุดซ่อนตัว และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่า เสี่ยแป้งทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าอยู่ด้านบน เสี่ยแป้งอาจจะมีโอกาสรอดมากกว่าอยู่ด้านล่าง
หมดสิทธิ์ที่จะข้ามไปประเทศที่ 3
ส่วนปฏิบัติการไล่ล่าแป้งนาโหนด วันนี้ เข้าสู่วันที่ 8 แล้วที่ตำรวจปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด แต่ก็ยังไม่เจอตัว พบเพียงรอยเท้าของเสี่ยแป้ง ที่หลบหนีออกจากจุดที่ปะทะกับตำรวจเมื่อ 8 วันที่แล้ว ตำรวจตามสะกดรอยพบว่าเสี่ยแป้งหนีไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนที่รอยเท้าจะหายไปบริเวณทางแยกลงจากเทือกเขา แต่ตำรวจที่ประจำการอยู่บริเวณทางลงด้านล่างก็ยังไม่พบตัว
พล.ต.ท.อิทธิพล ระบุว่า หลังจากนี้จะใช้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาบินโดรนตรวจจับความร้อน ค้นหาเสี่ยแป้ง หลังปฏิบัติการทางอากาศของกองบินตำรวจเจออุปสรรคจากสภาพอากาศที่ปิด ทำให้การตรวจจับยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร