พรานป่า เผย บ้านราวปลา สตูล คือเส้นทางลงเขาบรรทัดง่ายที่สุด
วันนี้ทีมข่าวของเรา ไปพูดคุยกับ นายจ่าเยศ หรือชาวบ้านเรียก พรานจ่า พรานป่าที่มีความชำนาญเดินป่าบนเทือกเขาบรรทัดมานานกว่า 30 ปี และเป็นอดีตคอมมิวนิสต์เก่า
พรานจ่า บอกกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า หากนับจากจุดปะทะระหว่างเสี่ยแป้งกับตำรวจ ที่บ้านตระ ลงที่ชุมชนบ้านราวปลาฝั่งจังหวัดพัทลุงเป็นระยะทางบนเขาประมาณ 14 กิโลเมตร แล้วในมุมมองของคนที่เป็นพันธุ์ปลาและเชี่ยวชาญในการเดิน เชื่อว่าเส้นทางลงมายังพื้นที่บ้านเราปลาถือเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุด เนื่องจากลงมาเป็นลักษณะของพื้นที่ราบและไม่ได้เดินผ่านเนินเขาที่สลับซับซ้อน ตลอดเส้นทางมีลำธารให้ดื่มน้ำได้ อีกทั้งเมื่อลงมาจากเขาแล้วยังมาเจอกับชุมชนที่มีขนาดเล็ก บ้านเรือนผู้คนค่อนข้างห่างกัน และไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรึงกำลังเยอะเหมือนทางฝั่งของจังหวัดพัทลุงและจังหวัดตรัง
"ผบ.ตร." เผยใช้ตำรวจกว่า 200 นาย ล่า "แป้ง นาโหนด" ย้ำระดมกำลังตัดทุกช่องทางหนี เชื่อยังหลบอยู่บนเขาบรรทัด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "แป้ง นาโหนด" หลังหลบหนีไปได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมและมีการยิงปะทะกันบริเวณเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อพื้นที่ 4 จังหวัด ก่อนหลบหนีไปได้ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามตัว โดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง พร้อมระบุว่าตำรวจใช้กำลังพลกว่า 200 นาย ในการติดตามตัวคนคนเดียว ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่เจอ บริเวณบนเขาบรรทัด ยืนยันว่าเป็นของเสี่ยแป้งจริง ย้ำว่าตำรวจระดมกำลังและอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อตัดทุกช่องทาง โดยเชื่อว่าเสี่ยแป้งยังคงหนีอยู่บนเขาอย่างแน่นอน
ศูนย์เด็กเล็กติดเขาบรรทัด ขอให้เจ้าหน้าที่วนเวียนเพิ่มความถี่เพื่อความอุ่นใจ ไม่เฉพาะคดีแป้งนาโหนด คดียาเสพติดและอาวุธปืนด้วย
ที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านราวปลา หมู่ที่ 9 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูลซึ่งมีเด็กเล็กจำนวน 30 คน เป็นอีกหนึ่งจุดที่เจ้าหน้าที่หมุนสลับสับเปลี่ยน เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่เฉพาะในช่วงที่มีการติดตามตัว แป้งนาโหนด เท่านั้น การป้องกันคดีต่างๆ ทั้งยาเสพติดอาวุธปืน ไปพร้อมกันด้วย
นายศิริพล คุณสุทธิ์ ผู้ดูแลศูนย์เด็กเล็กบ้านราวปลา ยอมรับว่า ในช่วงนี้การดูแลรักษาความปลอดภัยจะมากว่าปกติ พยายามชะเง้อดูไกลๆดูรถที่แปลกๆเข้ามาวนเวียนบริเวณศูนย์เด็กเล็ก ปกติก็จะดูแลแบบนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนติดยาเสพติดว่ามาวนเวียนบ้างหรือไม่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายอาจจะพลัดหลงมาใน หมู่บ้านจากบ้านตระเข้ามาได้ ขณะนี้เด็ก ๆ ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ผู้ปกครองก็มอบความไว้วางใจ ไม่มีใครตื่นตระหนกแต่ไม่ประมาท ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เพราะหากมีการพลัดหลงมาจริงจะเจอบ้านชาวบ้านก่อน จะมาถึงโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก อีกทั้งสัญญาณโทรศัพท์มีหากมาถึงที่นี่ก็จะรู้ LINE กลุ่มหมู่บ้านก็มี