ตำรวจกองปราบหอบสำนวน"กำนันนก" ให้อัยการฯพิจารณา มั่นใจหลักฐานมัดแน่น สั่งฟ้องได้
พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมคณะทำงาน นำสำนวนคดี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" 2 สำนวน ส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด โดยแบ่งเป็นคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งมี นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ที่ถูกวิสามัญ กับกำนันนก ร่วมกันเป็นจำเลย รวมทั้งสิ้น 7 แฟ้ม หรือประมาณ 3,087 แผ่น
และสำนวนคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ที่มีตำรวจและพลเรือนที่ร่วมกันช่วยเหลือกำนันนกหลบหนีและทำลายพยานหลักฐาน ร่วมกันเป็นจำเลย 28 คน รวมทั้งสิ้น 9 แฟ้ม หรือประมาน 4,070 แผ่น
นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบสำนวน ได้แถลงข่าวการรับสำนวนครั้งนี้ โดยเปิดเผยว่าทั้ง 2 สำนวน เป็นสำนวนที่สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง ถูกนายหน่องใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายในงานเลี้ยงวันเกิดของกำนันนก ซึ่งเหตุเกิดขึ้นต่อหน้าตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงเป็นจำนวนมาก โดยสำนวนแรกมีผู้ต้องหา 2 คน คือนายหน่องที่ถูกวิสามัญ ถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วนกำนันนกถูกกล่าวหาว่าจ้างวานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น นอกจากนี้ กำนันนกยังถูกกล่าวหาในสำนวนที่ 2 ด้วย โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในชั้นสอบสวนนายหน่องถึงแก่ความตาย ส่วนกำนันนกปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนี้กำนันนกอยู่ระหว่างการฝากขัง และจะครบฝากครั้งที่ 6 ในวันที่ 19พฤศจิกายนนี้
ชมคลิป : ส่องสำนวน"กำนันนก"ส่งถึงมืออัยการ เอาผิดใครได้แค่ไหน?
ส่วนสำนวนที่ 2 ผู้ต้องหาทั้งหมด 28 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาบางส่วนอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งอัยการจะนัดหมายวันฟังคำสั่งของอัยการอีกครั้งภายหลัง
ยืนยันว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญ เป็นการกระทำที่อุกอาจ ผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจและเกิดเหตุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางอัยการจะตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบทั้ง 2 สำนวน เพื่อตรวจสำนวนให้ละเอียดรอบคอบ รวดเร็ว และเร่งมีความเห็นให้ทันภายในกำหนดครบฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 7 แน่นอน โดยมีกำหนดการโดยประมาณคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ คดีนี้ยังมีการฟ้องผู้ต้องหา โดยเฉพาะกำนันนก รวม 2 ศาล คือศาลอาญาในสำนวนที่ 1 และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในสำนวนที่ 2 ซึ่งอัยการจะขอให้ศาลนับโทษทั้ง 2 คดีต่อกัน เป็นแนวทางในการดำเนินคดีของอัยการ
ด้าน นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เข้าไปร่วมสอบสวนทำสำนวนร่วมกันตำรวจ เปิดเผยว่า คดีนี้ได้ถูกนำไปเทียบเคียงกับคดีของดีเอสไอ โดยตั้งอัยการเข้าไปร่วมสอบสวน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ผู้บังคับการปราบปราม ทำหนังสือไปยังอัยการสูงสุด และมีความเห็นส่งอัยการเข้าไปร่วมตรวจดูสำนวนว่าข้อหาอะไรที่ยังขาด ต้องเพิ่มเติมประเด็นใดบ้าง
ยืนยันว่ามั่นใจสำนวนที่นำมาส่งมอบในวันนี้เป็นสำนวนที่สมบูรณ์แบบ มั่นใจในพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมา มีความละเอียดรอบคอบ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอธิบดีอัยการผู้ตรวจสำนวน แต่ละสำนวนว่าจะสั่งสอบเพิ่มเติมในประเด็นใดอีกหรือไม่ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เป็นธรรมและเที่ยงธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด