คลื่นยักษ์สูง 3-4 เมตร กระหน่ำตลอดแนวเขื่อนกันคลื่น 200 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาดหัวหิน ถึงบางสะพานน้อย โดยเฉพาะอ่าวประจวบฯ ด้านผู้ว่าฯ ประกาศเตือนประชาชนแถบชายฝั่งทะเล ระวังอันตรายที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงเกิดจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ชายหาดตลอดแนว 200 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาด อ.หัวหิน ถึง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีคลื่นสูง 2-4 เมตร พัดเข้าชายฝั่ง โดยเฉพาะอ่าวประจวบฯ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีคลื่นทะเลสูงประมาณ 4 เมตร ตลอดแนวชายหาดยาว 8 กิโลเมตร ทำให้ถนนริมหาดบางช่วงมีน้ำทะเลไหลทะลักข้ามสันเขื่อนกันคลื่น ไหลบ่าเข้าท่วมผิวการจราจร ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารบริเวณแนวชายหาดต้องปิดให้บริการชั่วคราว
สำหรับคลื่นทะเลขนาดใหญ่ที่พัดเข้าฝั่งบริเวณอ่าวประจวบฯ ทำให้มีน้ำพุปรากฏการณ์แปลกใหม่ผุดขึ้นจากท่อบนถนนเลียบหาด ที่หน้าสวนสาธารณะเทศบาล ซึ่งถนนดังกล่าวใช้เป็นสถานที่จัดถนนคนเดินในช่วงเย็นวันศุกร์และวันเสาร์ จึงเป็นสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ผลจากชายฝั่งที่หาดปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรีก็เช่น ตลอดแนวมีคลื่นสูง 2-3 เมตร พัดเข้าหาฝั่งยังพัดเอากรวด หิน ทราย และพืชน้ำขึ้นมาบนถนนเลียบชายทะเลทำให้การจราจรใช้ได้เพียงช่องทางเดียว โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ตลอดแนวต้องนำสแลนมาบังหน้าร้านป้องกันลมแรงที่พัดเข้ามาจะทำให้สิ่งของเสียหาย
ขณะที่เรือประมงเรือเล็กชายฝั่งกว่า 100 ลำ จอดหลบคลื่นในคลองบริเวณเขาตาม่องล่าย นอกจากนั้นเรือเล็กชายฝั่งบางส่วนที่ไปจอดหลบคลื่นลมที่เชิงเขาล้อมหมวกในกองบิน 5 เจ้าหน้าที่ทหารได้ช่วยกันลากขึ้นฝั่งเพื่อป้องกันความเสียหาย ทั้งนี้คาดว่าในช่วง 16.00 น. วันเดียวกันหลังจากน้ำทะเลลดลง สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ
ล่าสุด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้แจ้งไปฝ่ายปกครองอำเภอ เทศบาล อบต. แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลให้ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง และให้สำรวจบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างบริเวณชายหาดหากได้รับความเสียหายจากคลื่นพัดถล่ม