ภรรยา ผู้ต้องหาชาวแคเมอรูน ยืนยัน สามีไม่ได้ร่วมฆ่าชายไต้หวัน ขณะที่ตำรวจคุม 2 ผู้ต้องหาส่งศาลฝากขัง พร้อมเตรียมออกหมายจับหญิงไทยภายในเที่ยงนี้

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า ที่ สน.บางนา ภรรยาของนายจอห์น แอบอนี ชาวแคเมอรูน ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายนาย จู เฉียง เซิ่น ชายไต้หวัน ให้ข้อมูลระหว่างรอสามี ว่า สามีรู้จักกับผู้เสียชีวิตมานานแล้ว ปกติถ้าผู้เสียชีวิตเดินทางมาประเทศไทยจะนัดกินข้าวกัน ส่วนผู้ต้องหาชาววานูวาตูนั้น ผู้เสียชีวิตเป็นคนแนะนำสามีให้รู้จัก

สำหรับมูลเหตุในครั้งนี้ สามีให้การกับตำรวจว่า เกิดจากผู้เสียชีวิตโกงเงินผู้ต้องหาชาววานูวาตู จึงขอให้สามีเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ย กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาชาววานูวาตูโทร. เรียกสามี ไปหาที่ชั้น 5 ของโรงแรมเพื่อนัดแนะให้สามีช่วยเปิดประตูห้องไว้ จากนั้นสามีก็เดินทางกลับมาบ้านและได้โทร. ไปสอบถามว่าไกล่เกลี่ยสำเร็จหรือไม่ แต่กลับได้ยินเสียงดังมาจากปลายสาย จึงวกกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง จนเห็นว่าผู้ต้องหาชาววาตูวานูและชาวเมียนมาร่วมกันทำร้ายและใช้สเปรย์พริกไทยฉีดหน้าผู้เสียชีวิต

โดยขณะนั้นยังไม่เห็นว่ามีการพันธนาการ สามีจึงเอามือไปบังหน้าผู้เสียชีวิตเพื่อช่อยเหลือ แต่ผู้ต้องหาชาวเมียนมากลับให้การกับตำรวจว่าสามีพยายามช่วยกันทำร้ายชายไต้หวัน ซึ่งขอยืนยันว่าสามีไม่ได้มีเจตนาฆ่าอย่างแน่นอน เพราะไม่มีความขัดแย้งกัน และเชื่อว่าถ้าหากชาวไต้หวันยังมีชีวิตอยู่ก็จะทำให้สามีรอดพ้นจากการดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ขณะที่ต่อมาพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจบางนา ได้คุมตัว นายแซวอ ลิง แปร่ หรือ เจนซี่ อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา และนายจอห์น แอบอนี อายุ 40 ปี ชาวแคเมอรูน 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ ส่งฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนง ผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยท้าทายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์

ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน สัญชาติวานูวาตู จากการสืบสวนทราบว่าได้หลบหนีออกประเทศ โดยตำรวจได้ประสานกับตำรวจสากลในการติดตามตัว ส่วนหญิงชาวไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลอาญาพระโขนงพิจารณาหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา หลังพนักงานได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องไปแล้วเมื่อวานนี้