พม.ลงพื้นที่ช่วยเหลือ น้องพิมพ์ พิการสายตา ร่ำไห้ถูกมนุษย์ลุงว่าร้องเพลงดัง หลังเล่นดนตรีเปิดหมวกหารายได้
จากกรณีผู้ใช้ Tik Tok โพสต์คลิปวิดิโอหญิงสาวผู้พิการทางสายตา และชายหนุ่มได้เปิดหมวกเล่นดนตรีร้องเพลงหารายได้ ณ ตลาดแห่งหนึ่งย่านรัชดา ปรากฏว่า มีมนุษย์ลุงหัวร้อนบุกด่า โวยให้หยุดเล่น อ้างว่าเสียงดังรบกวนเข้าไปในบ้าน ทำให้หญิงสาวผู้พิการทางสายตาปล่อยโฮร้องให้ จนประชาชนที่เดินอยู่ภายในตลาดต้องเข้าไปปลอบน้อง และห้ามลุงหัวร้อนให้หยุดด่าและกลับบ้านไป หลังจากที่ลุงหัวร้อนกลับไปบ้านไม่นานก็เดินกลับมาที่ตลาดอีกครั้ง แล้วพูดจาโวยวายว่า "ให้เบาอีกหน่อย หนวกหูชาวบ้านเขา กลับบ้านไปยังได้ยินอยู่" ก่อนจะอ้างว่าจะนำเรื่องไปฟ้องเจ้าของตลาดให้จัดการ หลังจากที่คลิปดังกล่าวได้โพสต์ลงโซเชียลทำให้ชาวเน็ตต่างมาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจกับหญิงสาวพิการทางสายตา และต่อว่าลุงหัวร้อน เช่น เสียงลุงดังกว่าเสียงเพลง อยากเจอลุง ลุงหูดีเกิน เป็นต้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (19 พ.ย.66) เวลา 12.00 น. ที่ ตลาดฟูดดี้ฟาร์ม บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.พิมพ์ชนก หรือน้องพิมพ์ อายุ 21 ปี และนายวัฒนา หรือก้องกี้ อายุ 26 ปี ขณะที่กำลังเล่นดนตรี ณ ศูนย์อาหาร ภายในตลาดฟูดดี้ฟาร์ม บางใหญ่ พร้อมอำนวยความสะดวกจัดหาอุปกรณ์ในการเล่นดนตรี จัดหาสถานที่ให้กับน้องได้เล่นดนตรีหารายได้มีความปลอดภัยในอนาคต
นางสาวพิมพ์ชนก หรือน้องพิมพ์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์นี้ครั้งแรก วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนไปเล่นดนตรีเปิดหมวกที่ห้างดังย่านรัชดา กับพี่ที่สาขาตามปกติ จากนั้นมีคุณลุงคนนึงเข้ามาตะคอกใส่บอกให้ตนเปิดเสียงลำโพงเบาๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยเล่นก็เปิดเสียงประมาณนี้ ตนรู้สึกงงทำไมครั้งนี้มามีปัญหา ตนรู้สึกงงว่าทำไมคุณลุงมีปัญหา รู้สึกตกใจ ไม่เคยเจอมาก่อน และตนไม่เคยทำผิดอะไรทำไมต้องโดนแบบนี้ ตนเอาความสุขผ่านเสียงดนตรีมอบให้ เผื่อมีคนติดต่องาน เพราะตนเรียนดนตรีตนก็อยากได้งานในด้านนี้ เลยเลือกเล่นดนตรีเปิดหมวกเพราะตนจำกัดในเรื่องที่อยู่ที่ต้องกลับหอพักไว อยู่ดึกไม่ได้ และต้องไลฟ์สดด้วยเพราะครอบครัวเป็นห่วง ซึ่งตนไม่ค่อยได้กลับบ้าน ตนหาค่าเทอม ค่ากินใช้ ช่วยเหลือตัวเอง ถ้าคุณลุงจะมาเตือนมาพูดดีๆได้ แต่ที่ตนต้องไปหลบข้างหลังเพราะตนไม่แน่ใจว่าจะมีอาวุธอะไรมาทำร้ายตนมั้ย ตนกลัว และไม่เคยเจอแบบนี้ คืนนั้นหยุดเล่นดนตรีและไลฟ์สดหลังจากที่คุณลุงเข้ามาต่อว่า และรุ่นพี่ที่สาขาก็มาช่วย ตนไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งตอนนี้ยังรู้สึกเสียใจเพราะว่าต้องห่างบ้านมาสู้ชีวิตยังไม่ได้กลับบ้าน ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ หาค่าเทอมเรียนเอง ซึ่งตอนนี้ทางพ่อแม่ก็ได้ให้กำลังใจตนอยู่
ด้านนายวัฒนา หรือก้องกี้ กล่าวว่า ตนกับร้องพิมพ์ได้จับคู่ร้องเพลงกันประจำ มีสลับกันกับทางรุ่นพี่ของน้องพิมพ์บ้าง ตนเพิ่งมาร้องเพลงได้ไม่นาน เมื่อก่อนตนเป็นครูสอนหนังสือ ซึ่งกรณีที่น้องพิมพ์เจอถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง ทำให้น้องพิมพ์ตกใจกลัวจนต้องเลิกร้องเพลงในวันนั้น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ตนเคยเจอมาแล้ว ถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกายเมื่อสมัยตนมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงเข้าใจความรู้สึกของน้องที่ถูกต่อว่าในลักษณะดังกล่าว ตนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกกับคนที่พิการทางสายตาแบบตนที่ร้องเพลงหารายได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งปกติก็ลำบากอยู่แล้วค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานรวมถึงสื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญกับทางตนและน้องพิมพ์ ให้ความช่วยเหลือและมอบกำลังใจให้สู้ต่อ
นางสาวกัญจนา กล่าวว่า ตนทราบข่าวน้องมาเล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อหารายได้ดูแลตัวเองและครอบครัว แต่มีบางคนมาไล่น้องฟังแล้วสะเทือนใจ วันนี้จึงมาให้กำลังใจน้อง ถึงแม้จะเป็นผู้พิการทางสายตาแต่ก็ไม่ได้งอมืองอเท้า มีความสามารถเล่าเรียนมาทางด้านดนตรี และมาใช้ความสามารถของตัวเองในการทำมามาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จึงมาให้กำลังใจและมาดูว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เบื้องต้นที่ทราบจากเจ้าหน้าที่คือน้องต้องการลำโพง ไมค์ ไม้เท้าขาวของผู้พิการทางสายตา ซึ่งตนจะจัดหาให้เอง ขอให้ให้กำลังใจผู้พิการทุกคนที่พยายามต่อสู้ให้มีที่ยืน และให้มีโอกาสในการดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคม ขอให้กำลังใจทุกคน และหน้าที่ของกระทรวงพม. หรือหน่วยงานของรัฐ รวมถึงทุกๆ คนต้องเปิดโอกาสให้มีพื้นที่ยืนในสังคมให้กับผู้พิการที่มีความสามารถที่เขาไม่ต้องการเป็นผู้รอรับการสงเคราะห์ แต่เขาต้องการเป็นผู้ที่จะลุกขึ้นมายืนได้ด้วยตัวของตัวเอง เพียงแต่ต้องการโอกาสจึงขอให้สังคมมีความชัดเจน เพราะเขายินดีและพร้อมที่จะเป็นผู้ทำรายได้และเสียภาษีให้กับรัฐบาลเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน ขอให้ให้กำลังใจและสนับสนุนผู้พิการทุกคน อย่างการแข่งขันกีฬาที่ผ่านมา นักกีฬาคนพิการของไทยทำชื่อเสียงได้อย่างดีมาก ได้เหรียญมาหลายเหรียญ นี่คือศักยภาพของผู้พิการที่คนปกติอย่างเราต้องให้กำลังใจ ในมุมของตัวเองขอมองบวก ขอบคุณคุณผู้ชายคนนั้นที่มาต่อว่าน้อง เพราะถ้าไม่มีคนนั้นน้องก็ไม่เป็นข่าว สังคมคงไม่ได้รู้เรื่องของน้อง ผู้คนเข้ามาให้กำลังใจน้องมากมาย เชื่อว่าน้องจะได้รับการตอบรับไม่ว่าจะไปแสดงที่ไหน ได้บอกน้องไปว่าขอให้ทำความเข้าใจว่า ปัญหาอยู่ที่คนๆ นั้นไม่ได้อยู่ที่เรา อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. 66 ทางกระทรวงพม. จะไปเจรจากับผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อขอพื้นที่แถวสยามให้น้องได้มีพื้นที่ในการแสดงดนตรี