น้องม่อนเข้าฝัน มากอดพ่อบอกหนาว ก่อนวันเผา พ่อแม่ตัดสินใจไม่เผาศพ เชื่อลูกยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายปณิธาน หรือน้องม่อน อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.3 สาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จมน้ำเสียชีวิต ขณะเข้าค่ายกิจกรรมปัจฉิมนิเทศก่อนจบการศึกษา ที่ค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ซึ่งจากกำหนดการเดิมจะมีพิธีฌาปนกิจ ศพ ในวันที่ 19 พ.ย. 2566 เวลา 16.00 น. ที่ วัดไผ่ล้อม อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายอานนท์ อายุ 42 ปี พ่อน้องม่อน นั่งกอดลูบภาพถ่ายของน้องม่อนลูกชายตลอดเวลา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวจัดเตรียมสถานที่วัด ตกแต่งหน้าเมรุไว้เรียบร้อยให้สวยงามที่สุด จะส่งวิญญาณลูกเป็นครั้งสุดท้าย แต่เรายังทำใจไม่ได้ ยังคิดว่านี่คือเรื่องจริงใช่ไหมที่ลูกมาจากไปแบบนี้
เมื่อคืนน้องม่อนมาหาพ่อ มากอดพ่อแน่นมาก บอกกับพ่อว่าหนาว เขากอดแน่นมากเหมือนกับคนมารัด ได้พูดกับลูกว่า มีอะไรบอกพ่อนะลูก สักพักลูกก็หายไป คล้ายกับมาบอกกับพ่อแม่ให้ช่วยม่อนด้วย จนเวลา 01.00 น .ได้คุยกับภรรยาว่าจะยังไม่เผาศพน้องม่อน เราตั้งใจเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ต้องขอโทษผู้มีเกีรยติ ผู้หลักผู้ใหญ่ใหญ่ทุกท่านที่จะมาร่วมในพิธี เราอยากให้ม่อนอยู่กับเรา จะเก็บร่างน้องม่อนเอาไว้ที่บ้านอย่างไม่มีกำหนด และจะขอสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องม่อน โดยเราได้ตั้งทนายความจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. ที่ สภ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี
จากนั้นนายอานนท์ และนางสาวณัฏฐพัชร อายุ 45 ปี พ่อแม่น้องม่อน ได้เดินทางไปที่วัดไผ่ล้อม ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า มีการจัดเตรียมประดับดอกไม้สด โทนสีขาว ประดับผ้าด้วยโทนสีขาวเช่นเดียวกัน บางส่วนได้มีการรื้อถอนจัดเก็บออกไปแล้วหลังมีการยกเลิก พิธีฌาปนกิจศพแบบกะทันหัน ส่วนอาหารที่มีการจัดเตรียมเอาไว้เพื่อในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับน้องม่อนตามประเพณีนั้น ได้นำไปร่วมจัดตั้งโรงทานทำบุญกับวัดในบริเวณเคียง ซึ่งมีงานฉลองกฐิน
นายอานนท์ เปิดเผยอีกครั้งว่า จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 6 วันแล้วที่น้องม่อนจากไป ยังไม่มีความชัดเจนอะไรจากทางวิทยาลัย มีแต่ความไม่ชัดเจน ทั้งเรื่องของการตั้งกรรมการสอบ การขอเอกสารโครงการการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ และยังมีการให้ข้อมูลออกสื่อมาทำร้ายจิตใจพ่อแม่ เราเสียใจอยากมาก การที่น้องมาหาอาจเพื่อต้องการจะสื่อสารอยากอยู่กับพ่อแม่ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม