จากเหตุการณ์ที่ "น้องพิมพ์" ผู้พิการทางสายตาร้องเพลงเปิดหมวกเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว บริเวณตลาดเอสพลานาด รัชดา แต่ถูกชายสูงวัย บุกต่อว่าโวยวายว่าเสียงดังรบกวน ทำให้เจ้าตัวร้องไห้ รีบเก็บของกลับบ้าน ยุติการเล่น

 

ทีมข่าวของเราได้ติดตาม น้องพิมพ์ สาวผู้พิการทางสายตา รายดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าวันนี้น้องมาแสดงเล่นดนตรีเปิดหมวกที่ตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ นนทบุรี ซึ่งก็ยังคงเล่นดนตรีและร้องเพลงกับเพื่อนผู้พิการทางสายตา เพื่อหารายได้เช่นเดิม

 

ทั้งนี้น้องพิมพ์ เล่าให้ฟังว่า ตนเรียนอยู่ชั้นปี 1 คณะครูดนตรีสากล ที่มหาวิทยาลัยจันทรเกษม พักอยู่หอพักหลังหมาลัย ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตนมักจะใช้เวลาว่างช่วงวันเสาร์ อาทิตย์และตอนเย็นไปเล่นดนตรี เปิดหมวกหารายได้ อย่างแรกก็คือรายได้ไม่เพียงพอในการจ่ายค่าเทอม และอีกประการหนึ่ง คือ ต้องการให้คนได้รู้สึกดีเวลาฟังเสียงดนตรีจากเรา

 

น้องพิมพ์ ยังเล่าให้ทีมข่าวเราฟังทั้งน้ำตาถึงเกิดเหตุ ว่า  เราไปเล่นเปิดหมวกตามปกติ ยอมรับ เสียงดัง แต่ก็ดังพอๆกับที่ตลาดเขาเปิดเพลง ปรากฏว่า มีชายใส่เสื้อสีขาวมาโวยวายให้ลดเสียงลง ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เล่นและเปิดลำโพงเสียงดังประมาณนี้อยู่แล้ว จึงรู้สึกสับสนว่า ไม่ให้เปิดเพลงดังหรือดังไม่ได้ ทั้งที่ตลาดก็เปิดเพลงเสียงดัง 

 

ตอนนั้นรู้สึกกลัวไม่ได้กลัวแค่คำพูด แต่กลัวว่าเขาจะทำร้ายร่างกายเราหรือไม่ หรือพกอาวุธพกของอันตรายมาหรือเปล่า เพราะเราก็เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ก็ต้องกลัวเขาทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจอยู่แล้ว ประกอบกับเขาเดินมา ตั้งใจมาหาเรื่องพวกเราเลย ไม่เชื่อเลยว่า เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตอนนั้นด้วยใจนักดนตรีของตนสั่งให้ อย่าหยุดให้เล่นต่อ สุดท้ายแม้จะเจอเหตุการณ์​แบบนี้  ยังไงก็จะเดินหน้าเปิดหมวกเหมือนเดิม

 

ขณะที่พ่อแม่ของตนก็รับรู้เหตุการณ์แล้ว ก็ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

 

ล่าสุดวันนี้ น้องพิมพ์และเพื่อนๆมาเล่นดนตรีเปิดหมวก หารายได้ ที่ตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ นนทบุรี ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่มักจะมาเล่นดนตรี หารายได้ และตลาดดังกล่าวก็อนุญาตให้ใช้พื้นที่ 

 

ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และขอให้น้องพิมพ์ ให้อภัยคนที่เข้ามาโวยวายและพูดจาไม่ดี เพราะว่า มันเหมือนเป็นปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของเรา และคนในประเทศไทย 99 เปอร์เซ็นต์เข้าใจคนพิการ ว่าต้องการหารายได้ มีแต่คนให้กำลังใจ พร้อมให้มองในแง่ดีว่า ลุงคนดังกล่าว ทำให้เราดังทำให้มีคนรู้จักเราอย่าคิดมากกับสิ่งที่ลุงทำไป

 

ทั้งนี้ จากการพูดคุยพบว่า น้องอยากได้พื้นที่ในการเปิดหมวกเพื่อหารายได้ แบบไม่มีใครมาไล่ ซึ่งทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็รับไปดำเนินการหาพื้นที่ให้ โดยจะประสานกับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เพื่อหาพื้นที่บริเวณสยาม ให้น้องได้แสดงเปิดหมวก และ ก็มี Bangkok Street Performer ขณะที่เครื่องดนตรีและอุปกรณ์เปิดหมวก ทางมูลนิธิ พัฒนาคนพิการไทยจะออกค่าใช้จ่ายให้ 15000 บาท นอกจากนี้ น้องผู้พิการยังมีกองทุนส่งเสริมคุณภาพคนพิการ ให้กู้เงินประกอบอาชีพโดยไม่คิดดอกเบี้ย

 

น.ส.กัญจนา ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยว่า น้องแม้จะมีความบกพร่องทางสายตา แต่ก็ไม่อยากงอมืองอเท้า อยากมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถของตัวเอง และหาเงินเลี้ยงชีพตัวเอง เป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็มองในแง่ดีว่า ต้องขอบคุณลุง มิฉะนั้นก็จะไม่มีใครรู้จักน้องพิมพ์ ขนาดนี้ และหลังจากนี้ก็คงจะมีคนติดตามน้องต่อไป 

 

พร้อมฝากถึงสังคมว่า คนพิการเขาไม่ได้อยากให้ทุกคนมาสงสาร แต่เขาแค่ต้องการโอกาสในสังคมที่จะให้เขายืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ใช้ความสามารถที่เขามี แม้จะมีข้อจำกัดทางร่างกาย แต่คนเหล่านี้เขาก็มีความสามารถในระดับหนึ่ง แต่ขอโอกาสให้เขาได้ใช้ความสามารถเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพไม่ได้ต้องการเป็นภาระให้สังคม

 

"เคสของคุณลุงน่าจะเป็นปัญหาของคุณลุงเอง เพราะที่ฟังคนรอบข้างให้สัมภาษณ์ ยามที่ตรงเอสพลานาด เขาก็บอกว่าไม่ได้มีใครหนวกหูเสียงดนตรีของน้องเลย และเสียงรถรามันดังมากกว่าเสียงดนตรีของน้องอีก จริงๆแล้วสิ่งที่น้องต้องการมากกว่าการเปิดหมวกหาเงิน คือต้องการสร้างความเบิกบานใจให้กับคน ชลใดไม่มีดนตรีกาล อันนี้อาจจะเป็นปัญหาส่วนตัวของลุงไหม มันคงเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่เชื่อว่า 99% ของสังคม เขาจะฟังเพลงที่น้องร้องและแสดง ด้วยความไพเราะและรื่นรมย์ในใจ"

 

ทีมข่าวของเราไปพูดคุยกับแม่ค้าที่อยู่ในตลาดเดียวกับที่น้องพิมพ์ร้องเพลง และอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลุงทำเกินกว่าเหตุ เพราะเสียงดนตรีที่น้องเล่นไม่ได้ดังเลย เป็นเสียงดนตรีที่น่าฟัง น้องใช้คีย์ระดับ 1 เท่านั้น เสียงรถที่วิ่งไปมายังดังมากกว่าเสียอีก

 

สาวตาบอดร้องเพลงหาเงินเรียน ร่ำไห้จุกอกมนุษย์ลุงชี้หน้าด่า แค่ขอโอกาสทำกิน