คณะกรรมาธิการยุติธรรมและกม.สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ติดตามคดีเสี่ยแป้ง เพื่อถอดบทเรียนหามาตราการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย-ซักเข้มกรมราชทัณฑ์เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 20 พย. 2566 ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกมลศักดิ์   ลีวาเมาะ ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและกฎหมายสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนายวิทยา  แก้วภราดัย ที่ปรึกษากรรมาธิการฯและคณะกรรมาธิการยุติธรรมและกฎหมาย ได้เดินทางมาประชุมติดตามข้อมูลและปัญหาการหลบหนีของนช.นายเชาวลิต  ทองด้วง หรือ”แป้ง นาโหนด”ที่ได้หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกวันที่ 22ตค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกือบครบ 1 เดือนแล้ว

โดยมีนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชตัวแทน ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชผบ.เรือนจำต่างๆในจังหวัดนครศรีธรรมราชยุติธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชประธานสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราชตัวแทน ผอ.รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชและตัวแทนอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรายงานข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ นช.เชาวลิต ทองด้วงหรือ”แป้ง นาโหนด”ตั้งแต่ถูกจำคุกในเรือนจำจังหวัดพัทลุง แต่มีพฤติการณ์ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลและมีฑฟติกรรมข่มขู่ดื้อด้านในเรือนจำจึงได้มีการย้าย นช.เชาวลิต จากเรือนจำจังหวัดพัทลุง มายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นนั้น จนกระทั่งมาเกิดเหตุ นช.เชาวลิต ก่อเหตุหลบหนีขณะนอนรักษาตัวใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชซึ่งคณะกรรมาธิการฯได้มีการซักถามข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตัว นช.เชาวลิต หรือแป้ง นาโหนด ตั้งแต่ย้ายมาจากจ.พัทลุงและกระทั่งเกิดเหตุหลบหนีออกจาก รพ.และสอบถามข้อมูลประวัติการป่วยของ นช.เชาวลิต และสอบถามรายละเอียดระเบียบการย้ายนักโทษและข้อมูลการนำตัวนช.เชาวลิต ไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซึ่งตัวแทนของ ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงระเบียบขั้นตอนต่างๆของกรมทัณฑ์ให้คณะกรรมาธิการฯทราบตามขั้นตอนและระเบียบต่างๆ ซึ่งการอธิบายต่างๆของตัวแทนกรมราชทัณฑยังไม่ชัดเจนจนทำให้ทางประธานคณกรรมาธิการต้องซักถามหลายครั้งเพื่อความกระจ่างแจ้ง โดยมีการขอข้อมูลเป็นเอกสารของกรมราชทัณฑ์มาให้กรรมาธิการดูด้วย โดยผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมทางคณะกรรมาธิการในครั้งนี้มีการพุ่งเป้าซักถามไปยังตัวแทนกรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชตลอดเวลา ถึงการขั้นตอนต่างๆของการเข้ารักษาตัวของนายเชาวลิต ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ตลอดเวลากว่า 1ชม.

ซึ่งคณะกรรมาธิการฯยังสอบถามผลคืบหน้าของการสอบสวนคดีนี้ของกรมราชทัณฑ์ด้วย ซึ่งตัวแทนกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการสรุปผลการสอบสวนและจะส่งให้คณะกรรามาธิการฯทราบเป็นเอกสารต่อไปโดยทางคณะกรรมาธิการฯยังมีการตำหนิถึงความหละหลวมและไม่มีความเข้มงวดของกรมราชทัณฑ์ที่ส่งตัวนช.เชาวลิต ไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ทั้งๆที่รู้ว่ามีโทษจำคุกสูงถึง20ปี  น่าจะมีมาตรการควบคุมตัวเข้มข้นและพันธนาการที่เข้มแข็งกว่านี้ทำให้เกิดนช.เชาวลิต หลบหนีออกจาก รพ.ไปได้อย่างง่ายดายนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เพื่อประชุมร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กรณีการหลบหนีออกจากโรงพยาบาลระหว่างถูกคุมขังของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด  ซึ่งเรื่องนี้สะเทือนความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ

ผู้หลบหนีเป็นผู้มีอิทธิพลถึงขั้นตำรวจต้องใช้กำลังกว่า 200 นายออกตามล่า ถือว่าสิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนมาก การประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นกรณีศึกษาหามาตรการระมัดระวัง ไม่ให้ผู้ต้องขังที่ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลใช้กระบวนการต่างๆ หลบหนีอีก อย่างน้อยเพื่อให้รู้ข้อเท็จจริงว่า กรณีการอนุญาตผู้ต้องขังออกจากเรือนจำเพื่อไปรักษาตัวนั้น กระบวนการการตัดสินใจเบื้องต้นในการอนุญาต ใครเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเบื้องต้นน่าจะเป็นฝ่ายควบคุม หัวหน้าแดน รวมถึงผู้บัญชาการเรือนจำนายวิทยา กล่าวด้วยว่า การควบคุมตัวผู้ต้องขังไปโรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลแน่นอน แต่เป็นความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด เพราะการจะปล่อยใครออกไปอยู่ข้างนอก ต้องมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ติดตามไปควบคุม ดูแล และเมื่อไปแล้วเกิดมีปัญหาเช่น กรณีของ แป้ง นาโหนด จึงต้องหามาตรการป้องกันอุดรอยรั่วตรงนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก กรรมาธิการฯ จึงตัดสินใจเดินทางไปประชุมร่วมกับทางจังหวัด เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรแล้วก็จะเสนอให้สภาฯพิจารณาวางมาตรการป้องกันต่อไป