จากกรณีที่ญาติแจ้งความ น.ส.กวินนา หรือ ฝน อายุ 38 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร ที่หายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งญาติได้เข้าแจ้งความคนหายไว้แล้ว แต่คดียังไม่คืบ แถมไร้ร่องรอย หวั่นเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามการค้นหาตัว น.ส.กวินนา หรือ ฝน หลังหายตัวนานนับสัปดาห์ยังไร้วี่แวว โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้มาที่บ้านของนายปอ อดีตสามีของนางฝน ที่หายตัวไป และเมื่อมาถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กำลังตรวจหลักฐานต่างๆภายในบ้าน ทั้งรอยนิ้ว ดีเอ็นเอ คราบเลือด ฯลฯ เพื่อนำไปเป็นหลักในการค้นหาตัวนางฝน
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับนายปอ โดยนายปอเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนนั้นคบกับแฟนมานานกว่า 20 ปีแล้ว และเมื่อผ่านเวลามานานความรักก็เริ่มจืดจางมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก็ตกลงกันว่าจะแยกห้องนอนกัน แต่ยังไม่ได้เลิกกัน เพื่อดูระยะห่างของกันและกันว่าถ้าห่างกันแล้วจะยังรู้สึกเหมือนเดิมหรือไม่ และเมื่อช่วงต้นปีนี้อดีตภรรยาของตนได้เกริ่นกับตนว่าจะเปลี่ยนสายงานใหม่ และจำเป็นต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ด้วย จนอดีตภรรยาตนนั้นไปถูกใจบ้านหลังหนึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นั่นจึงทำให้อดีตภรรยาตน ตัดสินใจที่จะซื้อบ้านหลังนี้ แต่การจะซื้อบ้านนั้นถ้าเป็นสามีภรรยากันต้องเซ็นสัญญาคู่กัน ทำให้อดีตภรรยาตนตัดสินใจบอกกับตนว่าหย่ากันน่าจะดีกว่า เพราะทั้งตนและอดีตภรรยา ก็แยกกันอยู่มาเกือบปีแล้ว และเมื่อหย่ากันแล้วภรรยาตนก็ไปซื้อบ้าน แต่ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าบ้านหลังนั้นอยู่ที่ไหน จากนั้นก็ยังอยู่บ้านหลังนี้ด้วยกันต่ออีก 3 เดือน แต่ก็แยกกันอยู่เหมือนเดิม
และในวันที่อดีตภรรยาของตนหายไป คือวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา อดีตภรรยาตนบอกกับตนว่าจะไปมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยทำวิทยานิพนธ์ให้รุ่นน้อง ในเวลาประมาณเที่ยงคืน โดยจะขับรถออกไปเอง แต่ตนเห็นว่าดึกมากแล้ว ด้วยความเป็นห่วงอดีตภรรยากลัวจะเป็นอันตราย จึงอาสาขับรถไปส่งเอง โดยใช้รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ไปส่งที่ซอยขุนทะเล 3 บริเวณสำนักสงฆ์ ที่อยู่ข้างหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยมีผู้หญิง 2 คนมาจอดรถเก๋งสีเงิน รอรับอยู่ แต่ตนก็ไม่รู้จักเช่นกันว่าคือใคร และหลังจากที่ตนส่งอดีตภรรยาแล้ว ตนก็รีบกลับบ้านพักเนื่องจากเป็นห่วงลูกๆ ที่ทิ้งไว้ตามลำพัง แต่เมื่อถึงช่วงกลางคืนวันที่ 14 พ.ย. อดีตภรรยาตนยังไม่กลับมา และลองติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อภรรยาได้เลย จึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.บ้านนาสาร ว่าอดีตภรรยาตนหายไป ส่วนตอนนี้ลูกของตนก็ยังไม่รู้ว่าแม่หายไป โดยตนบอกกับลูกแค่ว่าแม่ไปทำงานยังไม่กลับมา
ชาวบ้านสงสัยบ่อน้ำขนาดใหญ่รากต้นไม้หลุด ดินสไลด์ หวั่นอำพรางคดี
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้รับแจ้งว่าบริเวณบ่อน้ำขนาดใหญ่ ในสวนของนายปอ อดีตสามีของนางฝน จะมีการค้นหาร่างของนางฝน โดยชาวบ้านในพื้นที่มาสังเกตเห็นว่าบริเวณข้างบ่อน้ำ มีรอยดินสไลด์ลงไป ชาวบ้านจึงสงสัยว่าร่างของผู้สูญหายอาจนำมาทิ้งลงในบ่อน้ำแห่งนี้เพื่ออำพรางคดีหรือไม่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยชุดประดาน้ำ จากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี มาถึง ก็มีชาวบ้านทั่วสารทิศที่ทราบข่าวก็เดินทางมาดู เพื่อสังเกตการณ์ว่าจะพบอะไรที่ผิดปกติหรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่ชุดประดำน้ำ ดำน้ำลงไปใช้เวลาในการค้นหาสิ่งผิดปกติประมาณ 20-30 นาที ก็ขึ้นมา และแจ้งให้กับตำรวจได้ทราบว่าเมื่อลงไปแล้วไม่พบกับสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จึงหยุดการค้นหา
จากนั้นทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนายวุฒิพงษ์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้บอกกับทีมข่าวช่อง8 ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งตนมาว่ามีชาวบ้านพบสิ่งผิดปกติเป็นดินสไลด์ลงไปในบ่อน้ำ จึงนำทีมมาช่วยตำรวจในปฏิบัติการค้นหา โดยในการดำลงไปใช้เจ้าหน้าที่ 4 คน ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้ลึกประมาณ 5 เมตร แต่เมื่อดำลงไปทั่วบ่อน้ำแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรเลย จึงหยุดการค้นหา ซึ่งตนคิดว่าหากมีคนตกลงไปในบ่อน้ำลักษณะนี้ หากไม่มีการถ่วงร่างเอาไว้ ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ยังไงร่างก็ต้องลอยขึ้นมาแล้ว ส่วนพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะมีปฏิบัติการณ์ค้นหาบ่อน้ำอีกจุดหนึ่งด้วย
ที่นอนขนาด 8 ฟุตถูกทิ้ง ตำรวจเร่งตรวจสอบความจริง
จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายปอ อดีตสามีน้ำฝนที่หายตัวไป ได้นำที่นอนขนาด 8 ฟุตมาทิ้งไว้ โดยนายปอบอกกับตำรวจว่าที่นำที่นอนมาทิ้งนั้น เป็นเพราะว่าที่นอนอันนี้ มันเก่ามากและมีกลิ่นฉี่ของลูกๆ จึงจำเป็นต้องนำมาทิ้งไว้ที่ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งในตัวอำเภอบ้านนาสาร
ทำให้ทีมข่าวช่อง8 ได้เดินทางมายังจุดที่นายปอ นำที่นอนมาทิ้งไว้ อยู่บริเวณหน้าบ้านของชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อนายโรจน์ อายุ 47 ปี โดยนายโรจน์บอกกับทีมข่าวช่อง8 ว่าในวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ร้านขายของเก่าข้างบ้านได้แนะนำที่นอนขนาด 8 ฟุตมาวางทิ้งไว้บริเวณบ้านของตน
จากนั้นในเวลาต่อมาตนเองนั่งอยู่ที่บ้านกับเพื่อนอีกคนหนึ่งได้ยินเสียงผู้หญิงมากระซิบข้างหูว่าขอกินน้ำหน่อยด้วยเสียงแหบๆแบบโหยน่ากลัว ตนจึงตกใจเป็นอย่างมากเพราะว่าไม่ได้ยินคนเดียว จากนั้นตนก็ได้นำขวดน้ำเปล่ามาตั้งไว้ให้พร้อมกับจุดธูปไว้หนึ่งดอกบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่าให้มากินน้ำ
จากนั้นในวันต่อมาก็มีตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางมาที่บ้านของตน พร้อมกับบอกว่าที่นอนอันนี้คือที่นอนของอดีตสามีของคนที่หายไปนำมาทิ้งไว้ โดยบริเวณที่นอนนั้นมีร่องรอยคราบดำดำคล้ายกับคราบเหงื่อติดอยู่เป็นวงกว้าง นั่นจึงทำให้ตนตกใจเป็นอย่างมากเพราะคิดว่าเสียงผู้หญิงที่ได้ยินอาจจะเป็นเสียงของผู้หญิงที่หายไป โดยตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นดังกล่าวที่หายตัวไป
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายังบ้านของนายแดง อายุ 57 ปี เจ้าของร้านขายของเก่า ที่นายปอ อดีตสามีนางฝน ที่หายคัวไป เอาที่นอนมาทิ้งไว้ โดยนายแดงบอกกับทีมข่าวช่อง8 ว่า นายปอนำที่นอนมาทิ้งไว้ บริเวณหน้าร้านของตนช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้าของวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นตนก็ได้ลูกน้องนำไปทิ้งที่หน้าบ้านของนายโรจน์ที่สนิทอยู่ข้างร้านตน แต่ก่อนจะนำไปทิ้งตนสังเกตว่าที่นอนอันนี้ใหม่มาก แต่มีคราบดำๆติดอยู่เหมือนคราบเหงื่อหรือคราบฉี่ ซึ่งต่อมาตนก็จะนำที่นอนอันนีมาเผาเอาเหล็กมาขาย แล้วเอาไฟแช็กมาจุดยังไงก็จุดไม่ติด อีกทั้งท่อน้ำที่อยู่ข้างๆกับบริเวณที่เอามาทิ้งไว้ในบ้านนายโรจน์ท่อน้ำก็แตกใส่ที่นอน ทั้งๆที่ไม่เคยมีความผิดปกติมาก่อน
หัวหน้างานคนหาย ยืนยันไม่เห็นสิ่งผิดปกติ
และจากนั้นทีมข่าวช่อง8 ได้พบกับเชาวลิต อายุ 48 ปี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ เพื่อนร่วมงานของนางฝน ที่หายตัวไป โดยนายเชาวลิต ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า นางฝนนั้นเป็นคนที่มีแต่คนรัก อัทธยาศัยดี และมีความรับผิดชอบต่องานสูงมาก
โดยตนเองได้เจอนางฝนเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยนางฝนเอาเอกสารมาให้ตนเองเซ็น ซึ่งสีหน้าและแววตาของนางฝน ก็ไม่ได้ดูเครียดหรือผิดปกติอะไร ยังคงร่าเริงแจ่มใสเหมือนเดิม แต่ในวันที่นางฝนหายไป คนที่ทำงานก็สงสัยว่านางฝนไปไหน เพราะนางฝนไม่เคยทิ้งงานแล้วหายไปดื้อๆแบบนี้มาก่อน ส่วนตอนนี้ใครที่สามารถติดต่อนางฝนได้ หรือรู้ว่านางฝนไปอยู่ที่ไหน ก็อยากให้ติดต่อเจ้าหน้าที่มาเพื่อความสบายใจของทั้งครอบครัวของนางฝนเอง รวมถึงเพื่อนร่วมงานด้วย
แม่นายปอเปิดใจ ลูกสะใภ้เป็นคนดี เพิ่งรู้ลูกชายและเมียหย่ากัน 3 เดือน
จากนั้นทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนางสุพิตร์ อายุ 76 ปี แม่ของนายปอและอดีตแม่สามีของนางฝนที่หายตัวไป โดยนางสุพิตร์เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า นางฝนเป็นลูกสะใภ้ที่ตนรักและให้ความไว้วางใจมาก เนื่องจากเป็นคนนิสัยดี และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยเห็นว่าทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกสะใภ้หายตัวไป ตนก็เพิ่งทราบว่าทั้งคู่ได้หย่าร้างกันมานานกว่า 3 เดือนแล้ว เนื่องจากยังเห็นว่าลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานๆ ก็ยังอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน และหลังจากที่ลูกสะใภ้ของตนหายไป
ตนก็ได้ดูดวงมาประมาณ3-4 ที่ โดยทุกที่พูดเหมือนกันหมดว่าลูกสะใภ้ของตนดวงตกมากๆอาจถึงฆาตไปแล้ว หรืออาจจะหนีไปอยู่กับชายอื่นโดยไม่ยอมบอกใคร ซึ่งตนก็อยากจะให้สะใภ้คนนี้ของตนไปอยู่กับผู้ชายอื่นดีกว่า เพราะไม่อยากให้ลูกสะใภ้ของตนถึงฆาต