ตำรวจสืบนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายรัง กลุ่มผู้ก่อเหตุยิงน้องหยอดเด็กอุเทนถวาย-ครูเจี๊ยบ

ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” โดยจากการสืบสวนกว่า 1 สัปดาห์ จากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้พบรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอย ไม่ให้ชุดสืบสวนสามารถติดตามได้ง่าย โดยได้ขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่งในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น มาสวมที่รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เปลี่ยนสีรถจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ทิ้งร่องรอยในจุดต่างๆ เพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิด ส่วนตัวคนร้ายก็มีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายทั้งหมดหลังก่อเหตุ โดยมีกลุ่มคนที่คอยให้การช่วยเหลือ

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจจึงได้ประสานกำลังเพื่อเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 หมายจับ โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 4 จุด 6 หมายค้น รวมถึงยังได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าในคดียิงนักศึกษาอุเทนฯ ที่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อต้นปี 2566 ด้วย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน ได้แก่

1. นายพฤฒิพล หรือ เอย อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยนายพฤฒิพล เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกคน ไปก่อเหตุกราดยิงใส่นักศึกษาอุเทนฯ ที่บริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา และเป็นคนเดียวในคดีนี้ที่ยังหลบหนีอยู่ ทั้งนี้ จากการสืบสวนยังพบว่า นายพฤฒิพล ได้เป็นผู้ช่วยวางแผน และช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการก่อเหตุยิงนายธนสรณ์ และครูเจี๊ยบ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 66 ด้วย โดยมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน


เปิดกล้องวงจรปิด นาทีตำรวจรวบ "พฤฒิพล" 1 ในผู้ต้องหา ยิง "นศ.อุเทนถวาย-ครูเจี๊ยบ" ดับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี รวม 5 จุด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จำกุมนายพฤฒิพล ราชญาณ หรือ เอย อายุ 22 ปี ได้ที่หน้าเคหะเอื้ออาทร บางบัวทอง 1 อาคาร 5 จากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปค้นห้องที่นายพฤฒิพล อาศัยอยู่

ทีมข่าวของเราลงพื้นที่เคหะเอื้ออาทร บางบัวทอง พบว่า กล้องวงจรปิด บริเวณหน้าตึกจับภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ นาทีเข้ารวบตัวนายพฤฒิพลได้ โดยจับภาพจะเห็นว่า ทันทีที่นายพฤฒิพล ขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าตึกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ซ่อนตัวอยู่บนรถเก๋งและรถตู้ประมาณ 4-5 คัน ได้ลงมาพร้อมอาวุธครบมือเข้ารวบตัวนายพฤฒิพล

จากนั้นกล้องอีกตัวจับภาพนาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายพฤฒิพล ขึ้นไปที่ชั้น 4 ห้อง 310/57 เพื่อตรวจค้นและเก็บพยานหลักฐาน เพิ่มตัว

เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที หรือ ประมาณ เวลา 21.03 กล้องวงจรปิดตัวเดิม จับภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรกได้ถือถุงสีขาวใบใหญ่ลง คาดเดาว่าน่าจะเป็นพยานหลักฐานต่างๆที่เก็บได้จากห้องนายพฤฒิพล

อีกไม่ถึง 2 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัว​ นายพฤฒิพล ลงมา ยืนพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดนึงก็ได้ค้นรถจักรยานยนต์ของ นายพฤฒิพล

จากนั้นเวลา 21.14 น. ภาพกล้องวงจรปิดด้านหน้าอาคารจะเห็นนาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายพฤฒิพล ขึ้นรถตู้ มีการพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่จะนำตัวออกจากพื้นที่


รวบ วรงชัย ผู้ต้องหารายที่ 2 ก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและนศ.อุเทนถวาย เสียชีวิต

ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” โดยล่าสุดบุกค้นบ้านหลังที่ 2 จับกุม นายวรงชัย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกัน สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร จับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ตำบลทวีวัฒนา อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

โดยรายงานระบุว่า นายวรงชัย ได้ร่วมวางแผนและคอยคุ้มกันกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงนายธนสรณ์ และครูเจี๊ยบ เสียชีวิต

 

เปิดปฏิบัติการทลายรังบ้านหลังที่ 3 รวบเพิ่มอีก 6 ทรชน

ส่วนผู้ต้องหาที่ 3-8 คือ นายวุฒิพงษ์ อายุ 25 ปี, นายสัญปกรณ์ อายุ 24 ปี, นายสหัสวรรษ อายุ 23 ปี, นายจิรายุส อายุ 23 ปี, นายธนากร อายุ 22 ปี และ นายอภิเดช อายุ 21 ปี ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร จับกุมตัวทั้งหมดได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจค้น ยังสามารถตรวจยึดของกลางได้ 12 รายการ ได้แก่ เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว เสื้อฮู้ดแขนยาวสีน้ำตาล 1 ตัว กางเกง dickies สีครีม 1 ตัว บุหรี่ 2 ซอง หัวเข็มขัด 1 อัน รองเท้า adda 1 คู่ รองเท้าคาดขาว 1 คู่ โทรศัพท์ Iphone 11 1 เครื่อง, Path ปทุมวัน 1 อัน, เมมโมรี่การ์ด 1 อัน, รถยนต์ toyota vios 1 คัน ทะเบียน กฉ 2673 พระนครศรีอยุธยา, ระเบิดปิงปอง จำนวน 2 ลูก

โดยจากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่ขี่รถมาก่อเหตุ แต่มีการวางแผนกันเป็น 10 คน มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี เมื่อมีคนในกลุ่มถูกจับกุมได้ พอถึงชั้นเบิกความ ก็จะตามพรรคพวกแห่มานั่งฟังการไต่สวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก

 

พบกล้องวงจรปิดบันทึกขณะกลุ่มผู้ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ยิงบรรทุกขึ้นรถไป แอบไว้ก่อนจะนำไปก่อเหตุ

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าสถานีรถไฟบางซ่อน เวลา 01.42 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 66 จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขนรถจักรยานยนต์คันที่นำไปก่อเหตุขึ้นบนรถแวนสีเขียว โดยก่อนหน้านี้ได้ไปลักขโมยรถจักรยานยนต์มาจากพื้นที่ สน.ดินแดง และไปลักขโมยแผ่นป้ายทะเบียนจากพื้นที่ สน.ประชาชื่น มาสวม

หลังจากนั้น ภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณปากซอยวงศ์สว่าง 19 เวลา 02.12 น. ของวันเดียวกัน จะเห็นรถแวนสีเขียว ขับเข้าไปด้านในซอย ซึ่งเป็นที่ตั้งจุดซ่องสุมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ

โดยจากข้อมูลการสืบสวน พบว่า ในวันที่ 10 พ.ย. 66 กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้มีการนำรถแวนสีเขียวที่ขนรถจักรยานยนต์มา ไปจอดทิ้งไว้ที่อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ก่อนที่ในวันที่ 11 พ.ย. 66 กลุ่มผู้ก่อเหตุจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุย่านคลองเตย

ขณะที่ พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำขยายผล ทำให้พบพยานหลักฐาน และสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน เป็นผู้ร่วมวางแผนการก่อเหตุ แต่ขณะที่ตำรวจกำลังนำหมายจับจะเข้าไปจับกุม ปรากฎว่าผู้ต้องหามีอาการช็อก ต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาล จึงยังไม่สามารถจับกุมมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากสอบสวนไปถึงใคร ก็จะดำเนินการออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด


เจ้าของบ้านเช่า เผยผู้ก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบมาขอเช่าบ้านได้ 2 เดือน บอกเป็น นศ.มาอยู่กับกลุ่มเพื่อน

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่บ้านเช่าในซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่กบดานของกลุ่มผู้ก่อเหตุคดียิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ มี 4 ห้อง โดยหน้าต่างบริเวณชั้นสองยังเปิดอยู่มองเห็นเสื้อผ้าแขวนไว้บริเวณหน้าต่าง ขณะที่ประตูรั้วไว้ถูกปิดไว้

โดยทีมข่าวได้พบกับป้าอรนุช เจ้าของบ้าน ซึ่งได้เปิดประตูรั้วให้ทีมข่าวสังเกตการณ์บริเวณด้านหน้า เนื่องจากตำรวจยังไม่อนุญาตให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เพราะอาจมีการเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม

จากการสังเกตของทีมข่าวพบว่าภายในรั้วยังมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 8 คัน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ติดป้ายทะเบียน

ป้าอรนุชเล่าให้ทีมข่าวฟังว่าก่อนหน้านี้ประมาณ ต้นเดือนกันยายน ได้ประกาศให้เช่าบ้านผ่านทางเฟซบุ๊ก ในราคาเช่า เดือนละ 10,000 บาท จากนั้นมีวัยรุ่นชายติดต่อมาทางโทรศัพท์ของลูกชาย ขอเช่าบ้าน โดยบอกว่าเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยย่านพระราม7 จะมาอยู่กับเพื่อนๆ แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่กี่คน ซึ่งลูกชายเป็นคนทำสัญญาเช่า และระบุไว้ชัดว่าอยู่ได้ไม่เกิน 10 คน

โดยตลอด 2 เดือน ก็มีคนเข้าออกบ้านตลอด ทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ไม่ทราบว่าคนไหนที่อยู่ประจำบ้าง เวลาตนมาดูบ้านก็เห็นอยู่กันตามปกติ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยถามเพื่อนบ้านว่ามีความวุ่นวายหรือมีเสียงรบกวนหรือไม่ แต่เพื่อนบ้านก็บอกว่าไม่มีปัญหา มีขาวงหนึ่งที่เห็นรถจอดในบ้านหลายคัน ก็เข้าใจว่ามีคนเกินกว่าที่สัญญากำหนด จึงตั้งใจจะบอกให้ลูกชายแจ้งผู้เช่า แต่เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนมาดูอีกครั้งเห็นรถจักรยานยนต์ จอดน้อยลงจึงไม่ได้บอกลูกชาย ตั้งใจว่าจะดูๆไปก่อน

กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อนบ้านโทรบอกว่าตำรวจมาค้นที่บ้าน ก็รู้สึกตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดตามข่าวคดีนี้เลย ซึ่งหากดูพฤติกรรมแล้วก็ไม่คิดว่าคนที่มาเช่าบ้านจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือทำเรื่องไม่ดีมา

เปิดวงจรปิดนาทีช่างกลนำรถคันก่อเหตุเข้ามาที่บ้าน

ภาพวงจรปิด วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ภายในซอยวงศ์สว่าง 19 เห็นว่าในเวลา 03.22 น. เวลาจริง 02.10 (เร็วกว่าเวลาจริง 1 ชั่วโมงประมาณ 12 นาที) จะเห็นมีรถจักรยานยนต์ 1 คันขี่เข้ามาภายในซอย วงศ์สว่าง แยก 2 ผ่านไปไม่นาน มีรถนั่งเอนกประสงค์ ขับเข้ามาในซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 เลี้ยวไปทางเซฟต์เฮ้าที่ใช้รวมตัว

ขณะที่วงจรปิดของวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 22.43 น. เวลาจริง 21.31 น. จะเห็นรถเก๋ง สีบรอนซ์ทอง ขับออกไปจากเซฟเฮ้าส์ที่อยู่ในซอยวงศ์สว่าง แยก 2 แล้วเลี้ยวซ้ายออกไปทางถนนวงศ์สว่าง

ซึ่งข้อมูลจากตำรวจ บอกว่านอกจากรถเก๋งแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุยังมีรถจักรยานยนต์ขี่ตามไปด้วย และขับไปที่ย่านร่มเกล้า เพื่ออำพรางเส้นทาง และมีการแวะซื้อน้ำกระท่อมระหว่างเส้นทางด้วย

 

ผ่าแผน 8 ทรชนล่าแต้มอริ เปิดภาพแค้นเพื่อนถูกเก็บแปะรูปปลุกใจเหิม ลงขันเช่าฐานทัพชี้เป้าสางแค้น