แค้นขอแยกทาง! ผัวยิงเมียและลูกสาว ก่อนยิงตัวตาย 3 ศพ ส่วนลูกสาวตนโต อายุ 11 ปี เจ็บสาหัส

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.อ.พิชัย ถิระวานิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เวลา 17.09 น. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.รัตภูมิ มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนหลายราย พื้นที่ตำบลตกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หลังรับรายงานจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฏฐ์วิณัท วิภาศินนท์ รอง ผกก.สส.สภ.รัตภูมิ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ก่อนประสานกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลรัตภูมิและเจ้าหน้าที่กู้ภัยรัตภูมิ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานหน้าบ้านเลขที่ 57 หมู่ 12 ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลาพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อนางสาวพรรณี อายุ 40 ปี (ภรรยา) เป็นผู้ช่วยทันตกรรมโรงพยาบาลรัตภูมิ ถูกยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด และเด็กหญิง อายุ 9 ขวบ ถูกยิงเข้าหน้าผาก 1 นัด ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตคาที่ กันใกล้บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นเด็กหญิง อายุ 11 ขวบ (ลูกสาวคนโต) ถูกยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งขนาดนี้กระสุนปืนยังค้างอยู่ภายในศีรษะและใช้เครื่องช่วยหายใจซึ่งอาการยังไม่พ้นขีดอันตราย อยู่ระหว่างเข้ารับการผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก

ส่วนนายประทีป อายุ 39 ปี (สามี) ได้ใช้อาวุธปืน 9 มม. จ่อยิงท้ายทอยของตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหายใจรวยรินก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลรัตภูมิเพื่อรักษา ต่อมาเวลา 18.55 น. รับแจ้งว่า นายประทีบได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลรัตภูมิ หลังนำตัวส่งส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบอาวุธปืน 9 มม. CZ จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนจำนวน 3 ปลอก ตกอยู่ที่พื้นบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดอาวุธปืน 9 มม. เพื่อนำไปตรวจสอบ

จากการสอบถามญาติ ได้เล่าว่า นางสาวพรรณี (ภรรยา) ได้กลับมาจากที่ทำงานที่โรงพยาบาลรัตภูมิ ส่วนนายประทีป (สามี) ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับบุตรสาวทั้ง 2 คน กลับมาบ้านพัก หลังนายประทีปกลับมาถึงบ้านพักนางสาวพรรณี กับ นายประทีบ ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง นายประทีบจึงได้ชักอาวุธปืน 9 มม. ขึ้นมา ก่อนจ่อยิงที่ศีรษะภรรยา 1 นัด จากนั้นได้ยิงศีรษะของลูกสาวคนโตเป็นคนที่ 2 และจ่อยิงลูกสาวคนเล็กเป็นคนที่ 3 ต่อมานายประทีบได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันขึ้นมายิงตัวเองเพื่อหวังฆ่าตัวตายตาม

จากน้้นต่อมานายปราโมทย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของนางสาวสุพรรณ (ผู้เสียชีวิต) ได้ยินเสียงปืนจำนวน 4 นัด จึงได้ปีนกำแพงดูภายในบ้านพบทั้งหมด 4 คน พ่อแม่ลูกนอนราบกับพื้นหน้าบ้านพร้อมกับกองเลือดของแต่ละคน จากนั้นได้ตะโกนเรียกญาติๆและพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลรัตภูมิ แต่ไม่ทันการ นางสาวสุพรรณีและลูกสาวคนเล็กได้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ

ส่วนสาเหตุนายประทีบที่ลงมือก่อเหตุนั้น มาจากก่อนหน้านี้นายประทีปได้ติดคุกข้อหาค้ายาเสพติดและคดีอยู่ในระหว่างชั้นพิจารณา ส่วนทางนางสาวสุพรรณีต้องการที่จะขอแยกทางกับนายประทีบ แต่ทางนายประทีบไม่ยอมขอแยกทางด้วยและคิดว่านางสาวสุพรรณีน่าจะมีชายมาติดพันจึงเกิดความหึงหวงและมีปัญหาทะเลาะมีปากเสียงกันหลายครั้ง ทำให้ทางญาติต้องเข้ามาห้ามศึกและพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองคนเข้าใจกันมาตลอด จึงทำให้นายประทีปเกิดอาการเครียดและเก็บสะสมจากเรื่องดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุใช้อาวุธปืนของตัวเองก่อเหตุฆ่ายกครอบครัว