เทียบเวลาวงจรปิดอดีตสามีขับรถส่งสาวอบต.
ทีมข่าวช่อง 8 เทียบเวลาวงจรปิดของ นายปอ อดีตสามีน้องฝนขณะขับรถไปส่งในกลางดึก เจอพิรุธนายปอออกจากบ้านตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่ง และช่วงเช้านำที่นอนไปทิ้ง
นกเอี้ยง เผยได้ยินเสียงดังสนั่น ลูกปอ-ฝนยืนยันพ่อแม่ทะเลาะกัน
ทีมข่าวช่อง8 ได้พบกับชาวบ้านคนนึงคือนางนกเอี้ยง (นามสมมติ) ที่อยู่ระแวกใกล้เคียงบ้านของนายปอ อดีตสามีของนางฝนที่หายตัวไป โดยนางนกเอี้ยง เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าตนเองนั้นได้ยินข่าวมาว่ามีเพื่อนสนิทของนางฝน เดินทางมาจากหาดใหญ่ในช่วงที่นางฝนหายตัวไปได้ประมาณ 2-3 วันแล้ว
โดยเพื่อนคนนั้นได้ไปพูดคุยกับลูกชายวัย 9 ขวบและ 11 ขวบ ของนายปอและนางฝน โดยลูกชายทั้ง 2 ของนายปอและนางฝน ได้บอกกับเพื่อนสนิทของนางฝนว่า ในช่วงวันที่ 13 พ.ย.ในเวลากลางคืน ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกันเสียงดังมากๆ และได้ยินเสียงดังโครมดังมาก เหมือนมีอะไรตกลงไปที่พื้นแบบแรงๆ แต่ก็ไม่ได้เข้ามาดูว่าพ่อแม่ทะเลาะอะไรกัน เนื่องจากอยู่อีกห้องนึง และในวันต่อมาแม่ก็ไม่กลับมาหาอีกเลย ส่วนช่วงหลังๆนั้นที่ตนสังเกต ปกตินางฝนจะชอบทักทายชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นประจำ แต่ช่วงก่อนที่นางฝนจะหายตัวไป นางฝนไม่ค่อยทักทายชาวบ้านสักเท่าไหร่ จึงดูผิดสังเกตไปบ้าง
พยานเห็นรถเก๋งสีบรอนซ์เงินตามคำอ้างของปอ ดูดวงน้องฝนถึงฆาต
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาพบกับนางอ้อย (นามสมมติ) โดยนางอ้อยมีบ้านอยู่บริเวณสวนปาล์มในพื้นที่บ้านปลายราง ตำบลนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนางอ้อย เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าตนเห็นรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ห่างจากบ้านตนไปประมาณ 500 เมตร มาจอดอยู่ตั้งแต่วันที่ 16-17-18 พย. โดยตอนที่ตนเห็นรถคันนี้ ตนก็มีความรู้สึกขนลุกขนชันเมื่อเข้าใกล้รถ จึงรู้สึกกลัวรถคันนี้แบบแปลกๆ จนในวันที่ 19 พย. ในวันที่เริ่มมีข่าวว่านางฝน หายตัวไป รถเก๋งสีบรอนซ์เงินคันดังกล่าวก็หายไปเช่นกัน แต่มีชิ้นส่วนของรถตกอยู่
จนตนมาทราบข่าวว่ารถเก๋งสีบรอนซ์เงินคือรถตามคำบอกเล่าของนายปอ ที่มารับนางฝน ก่อนหายตัวไป จึงคาดว่ารถคันนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนางฝนแน่ๆ รวมไปถึงตอนที่ทราบว่ารถคันนี้เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนางฝน ตนเลยให้เพื่อนของตนดูดวงของนางฝนให้ เพื่อนของตนก็บอกว่าเห็นภาพว่านางฝนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยคนทำไม่ได้ตั้งใจทำให้ตาย แต่พลั้งมือทำร้ายจนตายไปแล้ว และถูกฝังอยู่ดินอยู่ลึกมากๆ และนิมิตได้ว่าตรงจุดที่รถจอดอยู่ ก็คือจุดที่ฝังดินเลยด้วย
ดร.ตฤณห์ วิเคราะห์เคสอบต.สาวหายตัวลึกลับ 11 วัน ไร้ร่องรอย จับพิรุธอดีตสามีมีเอี่ยว
ทีมข่าวช่อง 8 สอบถามอ.ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญวิทยาเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาอาชญากร อาจารย์ประจำ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์ว่าในคดีคนหาย หรือ โดนลักพาตัวไปนั้น คนที่น่าสงสัยที่สุดอันดับ 1 คือคนใกล้ตัวหรือคนที่อยู่กับผู้หายไปเป็นคนสุดท้าย
อาจารย์ได้ยกสถิติกรณีคนหาย หรือนำไปสู่ฆาตกรรม ส่วนใหญ่คนสงสัยคู่สมรส (กรณีแต่งงาน) กรณีนี้คนเลยสงสัยอดีตสามี ที่อยู่กับคนตายเป็นคนสุดท้าย แถมยังมีปัจจัยที่กำลังจะหย่าร้าง ก็เป็นเหตุชนวนฆาตกรรมจากความหึงหวงได้ แต่อาจารย์ขอไม่ฟันธงหรือกล่าวหาคนที่กำลังถูกสงสัยในขณะนี้ ต้องรอตรวจสอบหลักฐาน เช่น คำพูดที่ว่ามีรถเก๋งมารับรถคันไหน มีอยู่จริงหรือไม่ ดังนั้นสังคมจึงมีสิทธิ์สงสัยว่าอดีตสามีเกี่ยวข้องหรือไม่
ส่วนเรื่องภาษากายอย่างเช่นการจับมือ กอดอก ลูบแขน พอลองมองย้อนไปหลายหลายคลิปแล้วอาจารย์สังเกตุเห็นว่าเหมือนเป็นพฤติกรรมที่เค้าทำเป็นนิส้ยอยู่แล้ว ดังนั้นจะเอามาพิจารณาว่าพูดจริงหรือไม่จริงคงไม่ได้
อาจารย์บอกว่าคำพูดที่จะดูมีน้ำหนักมากที่สุดต้องไปดูคำพูดในวันแรกหลังจากที่คนในครอบครัวรู้ว่ามีคนหาย ซึ่ง ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสัมภาษณ์