ลูกชายกำนัน ตามรายชื่อที่ 5 เดินทางมารับพานขอขมากรรมน้องอ๊อฟ ด้วยตัวเองถึงบ้าน

ล่าสุดวันนี้(25 พ.ย.66) ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของน้องอ๊อฟ ที่ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เนื่องจากวันนี้มีการนัดหมายว่าจะมีเจ้ากรรมนายเวรของน้องอ๊อฟ 2 คน ก็คือรายชื่อที่ 4 และที่ 5 เข้ามาทำพิธียกพานขอขมากรรมที่บ้าน โดยบรรยากาศในช่วงเช้า ทางแม่ของน้องอ๊อฟ ได้มีการจัดเตรียมพานขอขมาเอาไว้ ซึ่งในพานจะมีข้าวตอกดอกไม้และน้ำขมิ้นส้มป่อย

ส่วนพัฒนาการของน้องอ๊อฟ ล่าสุดในวันนี้มีการใช้นิ้วเลื่อนโทรศัพท์เพื่อเปลี่ยนภาพเองได้ ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อเลื่อนไปดูคลิปตลก เจ้าตัวยิ้มและหัวเราะชอบใจ

จนกระทั่งในเวลา 11.00 น. คนแรกที่เดินทางมาที่บ้านของน้องอ๊อฟ ก็คือ นายจักรพล อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของกำนันที่มีรายชื่อระบุว่าเป็นเจ้ากรรม รายที่ 5 ของน้องอ๊อฟ โดยทันทีที่มาถึง ทางแม่ของน้องอ๊อฟ ก็ได้ให้นายจักรพล ทักทายกับน้องอ๊อฟ ซึ่งเมื่อน้องอ๊อฟ ได้เจอหน้าก็ยิ้มและพยายามชี้ โดยจะมีบรรยากาศที่ทั้งสองจับมือกัน และแม่ก็พยามถามน้องอ๊อฟ ว่ารู้จักคนนี้ไหม ถ้ารู้ให้หลับตา ซึ่งน้องอ๊อฟ ก็ยิ้มและก็หลับตา ส่วนทางนายจักรพล ก็พูดให้กำลังใจน้องอ๊อฟ ว่าเดี๋ยวก็หายครับผม

จากนั้นเมื่อได้เวลาทำพิธีขมากรรม ทางแม่ของน้องอ๊อฟ ก็ได้หยิบพานที่เตรียมเอาไว้ ซึ่งจะเห็นว่า น้องอ๊อฟ มีการยกมือขึ้นไปจับพานเองก่อนที่แม่จะบอก หลังจากนั้นก็มีการพูดขอขมากรรมกัน ซึ่งแม่จะเป็นคนพูดแทนน้องอ๊อฟ ส่วนนายจักรพล ก็ยืนจับที่พานพร้อมกับพยักหน้าในจังหวะที่แม่พูดคำว่าขอขมาซึ่งกันและกันนะ และยังบอกในช่วงท้ายว่า "อโหสิกรรมให้นะครับผม" ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นคำบอกกล่าวขอขมาแก่กันแล้ว ทางแม่จึงขอให้นายจักรพล เอานิ้วไปแตะที่น้ำขมิ้นส้มป่อยเพื่อนำไปลูบที่ศรีษะของน้องอ๊อฟและนายจักรพล เป็นอันเสร็จพิธีดังกล่าว

 

น้องอ๊อฟ พยายามยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณนายจักรพล หลังแก้กรรม

โดยนายจักรพล อายุ 19 ปี ระบุว่า เป็นเจ้ากรรมนายเวรของน้องอ๊อฟ ลำดับที่ 5 และเป็นลูกชายของกำนัน บอกว่า ส่วนตัวรู้เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงเย็นของเมื่อวาน ซึ่งตอนนั้นพ่อโทรมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตชาติตามที่อาจารย์ไพศาลนิมิตเอาไว้ และพ่อยังขอให้ไปช่วยเหลือน้องอ๊อฟ ซึ่งยอมรับว่า ตนเองก็ งง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องของอาจารย์ไพศาล ว่าเขาเป็นใครและไม่เคยติดตามข่าวของน้องอ๊อฟ แต่พอพ่อพูดให้ฟังจบแล้ว ตนรู้สึกเห็นใจ จึงตัดสินใจบอกพ่อว่ายินดีที่มาแก้กรรมให้น้องอ๊อฟด้วยตัวเอง

ส่วนการเข้าไปทำพิธีดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกอะไรผิดปกติ ซึ่งระหว่างทำพิธีได้อธิษฐาน ในใจขอให้เขาหายไวๆและกลับมาสุขภาพแข็งแรง ทั้งนี้ก็อยากจะฝากไปถึงคนอื่นๆที่มีรายชื่อ ถ้ามีเวลามาได้ ก็ขอให้มา ถือว่าเป็นการมาทำบุญทำทาน เพราะเราเป็นมนุษย์ที่อยู่บนโลกเดียวกัน ซึ่งชาติก่อนๆหรือชาติหน้าไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา เพราะฉะนั้นการที่มาช่วยเหลือเขาถือเป็นบุญที่ได้กับตัวเอง

 

ครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน เผยทุกคนมีเวรกรรมต่างกัน ใครไม่เชื่อก็เป็นสิทธิของบุคคล

โดยพระครูปัญญาธรรมวัฒน์ หรือ ครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน วันนี้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวนานกว่า 12 นาทีเอาไว้ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ที่แม่ของชายคนนั้นที่ไม่ยอมไปแก้กรรมให้กับน้องอ๊อฟ เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อของเขาที่กลัวว่าการไปแก้กรรมจะได้รับเคราะห์กรรมแทนน้องอ๊อฟ ซึ่งความไม่เชื่อเรื่องของเวรกรรมที่โยมไพศาล นิมิตระลึกชาติได้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่มีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อ

ส่วนคนที่เชื่อ ก็ขอให้ปฎิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้า ได้มีการตรัสเอาไว้แล้วว่า ทุกคนมีเวรกรรมต่างกัน ซึ่งคนที่ทำกรรมหรือทำชั่วอะไรเอาไว้ บุคคลนั้นก็ต้องได้รับกรรมตามที่ได้ก่อเอาไว้ ส่วนคนที่ไม่เชื่อผลของวิบากกรรมและไม่เชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็เป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้น ซึ่งพระพุทธเจ้า ก็ได้ตรัสเรื่องนี้เอาไว้แล้วว่า การอโหสิกรรมควรมีให้กัน เช่นคนที่ทำบาปทำกรรมต่อกันเอาไว้ ถ้าไม่ถือโทษโกรธกัน ไม่รับฟังคนที่ด่า ไม่ถือคำสาปแช่ง เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันข้ามภพข้ามชาติ ซึ่งการไม่อโหสิกรรมให้กัน อาตมาอยากให้ญาติโยมที่ฟังอยู่ในตอนนี้ นึกถึงคำว่า เมตตา โดยคำสอนของพระพุทธศาสนา คือคำว่า อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ซึ่งคำเหล่านี้ ทุกคนฟังติดหู แต่คนส่วนใหญ่ไม่ปฎิบัติตาม ซึ่งการไม่โกรธและการมีความเมตตา เป็นสิ่งสำคัญพี่พระพุทธเจ้าบรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น คนที่โกรธกันเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การอาฆาตพยาบาทซึ่งกันและกัน โดยการอโหสิกรรมให้แก่กัน ถ้ารู้ตัวในชาตินี้ ก็ควรที่จะอโหสิกรรมแก้กรรมให้กันให้มันจบไปในชาตินี้ จะได้ไม่มีเวรต่อกันข้ามภพข้ามชาติ

ทั้งนี้คนที่ติดตามข่าวน้องอ๊อฟอยู่ อาตมาก็ขอให้เรื่องราวดังกล่าวเป็นตัวอย่าง และขออย่าได้สร้างเวรสร้างกรรม ซึ่งการไม่มีเวรกรรมเป็นเรื่องที่ดี เราทุกคนเกิดมาเป็นคนพุทธ เมื่อมีโอกาสก็ขอให้สร้างบุญกุศลในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะชีวิตคนเรามันสั้น เกิดมาคนเดียว แก่คนเดียว เจ็บคนเดียว ตายไปก็ไปคนเดียว ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะทำความดีได้

เจ้ากรรมอ๊อฟ เปิดใจพร้อมอโหสิ เหลือเชื่อหลังขมามีแรงเล่นมือถือโชว์ช่อง 8