ประธานติ่งห่วงแป้ง กลัวโดนวิสามัญ ปัดตอบอัยการบอยและจรวจ ชี้แป้งไม่โดนหลอกใช้

ด้าน ประธานติ่ง เผยว่า จากคลิปดังกล่าวนั้นตนเองเห็นแล้วแต่ก็คงไม่อยากไปวิพากวิจารณ์อะไร เพราะเป็นเรื่องที่ เข้าใจว่า เสี่ยแป้ง ที่ตนก็ให้เป็นน้องชายคนหนึ่ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี เนื่องจากกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุด้วยกัน แต่ได้ประกันตัว เสี่ยแป้งเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ประกัน จึงเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เจ้าตัวจึงออกมาพูดในมุมของเขาเอง

ขณะที่เรื่องของนายจรวจและอัยการบอย เรื่องนี้ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่มีการเข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือกัน แต่ตนคงไม่ลงรายละเอียดอะไรมากเช่นกัน แต่ยืนยันว่า

"ไม่ใช่การโดนหลอกใช้ หรือหักหลัง ตนเองจะไม่โทษเสี่ยแป้ง แต่เชื่อว่าสิ่งที่แป้งทำนั้น ไม่ได้รับความยุติธรรมจริง แป้งก็น้องผม โดนคนเดียว แต่คนอื่นที่ไปด้วยกลับไม่โดน แป้งก็คงอยากพูดบ้าง"

ส่วนตัวในฐานะพี่ที่ห่วงน้องอยากให้มอบตัว เพราะกลัวถูกยิงตาย สงสารน้องมัน และที่สำคัญ ตนเองอยากบอกว่า " ผมรู้ว่าแป้งเป็นไง ไม่โกธน้องที่ทำแบบนี้ลึกๆน้องโคนกระทำ แป้งก็คงรู้ว่าลึกๆมันเกิดอะไร แต่หลังจากที่แป้งหนี แป้งมันไม่ได้โทรหาผม ไม่ได้ช่วยอะไรมัน ยังเป็นหวง และกลัวโดนวิสามัญ"

เปิดภาพอัยการบอย ร่วมเฟรมกับ ผบ.เรือนจำ

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่ แป้ง นาโหนด พูดถึงในคลิปเปิดใจหลังหลบหนีจากเขาบรรทัดเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.66) ก็คืออัยการบอย โดยล่าสุดวันนี้แป้ง นาโหนดยังได้เผยแพร่คลิปที่พูดถึงอัยการ บอยอีกรอบในวันนี้ โดยระบุว่าถ้าเอาผิดอัยการ บอย ก็พร้อมมอบตัว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพอัยการบอย ขณะร่วมโต๊ะสังสรรค์ โดยในภาพพบว่ามีผู้บัญชาการเรือนจำ นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันด้วย

บ้านอัยการบอย ปิดเงียบหลัง เสี่ยแป้ง ประกาศจะไม่มอบตัวจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของอัยการบอย ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองพัทลุง เมื่อไปถึงบ้านพบว่า ภายในบ้านมีคนอยู่ ภายในบ้านเปิดทีวีเป็นหน้าจอวงจรปิดเอาไว้ หน้าบ้านมีกล้องวงจรปิดหลายตัว ทีมข่าวพยายามเรียกคนในบ้านเพื่อสอบถามหาอัยการบอย แต่ไม่มีใครออกมาพูดคุย

จากการสอบถามเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้อัยการบอยอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าวพร้อมกับภรรยาและลูก แต่หลังจากเสี่ยแป้ง ได้อัดคลิปและพูดถึงชื่ออัยการบอย ว่าถูกหักหลัง และจะไม่มอบตัวจนกว่าอัยการบอยจะถูกตรวจสอบ หลังจากนั้นอัยการบอย ก็ไม่ได้เดินทางกลับมาที่บ้านอีกเลย เห็นเพียงแต่ภรรยาของอัยการบอยเท่านั้นที่อยู่ภายในบ้าน คาดว่าอัยการบอยน่าจะไปหลบอยู่ที่เซฟเอ้าท์ที่ไหนสักที เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย

ผู้การแต้ม เชื่อ เสี่ยแป้ง เตรียมมอบตัว แต่ต้องหลังจากดำเนินคดีกับอัยการ

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม เผยว่า หลังจากเสี่ยแป้งปล่อยคลิปที่สองออกมาส่วนตัวมองว่าทั้งคลิปนี้และคลิปก่อนหน้าเนื้อหาใกล้เคียงกัน เพียงแต่ทำออกมาเพื่อตอกย้ำ ถ้าดำเนินคดีกับบุคคลกลุ่มนั้นก็จะมอบตัว ซึ่งทั้งสองคลิปนั้นเป็นการออกมาประจานกระบวนการยุติธรรม ทั้งตำรวจ อัยการ ศาลและราชทัณฑ์ โดยที่เน้นไปที่ตำรวจและอัยการ

โดยการกระทำนี้คิดว่าเสี่ยแป้งต้องการให้ประชาชน มองว่าการที่เสี่ยแป้งหนีนั้นเพราะเกิดจากการไม่ได้รับความยุติธรรม

แต่ในความเป็นจริง การร้องเรียนขอความเป็นธรรมนั้นก็ต้องมีการสอบสวน ข้อเท็จจริง ซึ่งจะเอามาเป็นการต่อรองในการเข้ามอบตัวไม่ได้

ส่วนที่เสี่ยแป้งอ้างว่า ถ้าตนเองเข้ามอบตัวก็จะถูกวิสามัญ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเข้ามามอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องยิ่งดูแลเป็นพิเศษ เว้นแต่ว่าเสี่ยแป้งบอกว่าจะมอบตัว แต่ถ้าตำรวจตามจับและมีการยิงต่อสู้ ถึงจะมีการวิสามัญ แต่ถ้ามีการประสานขอเข้ามอบตัวโดยผ่านบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ใครจะไปวิสามัญ เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

ส่วนตัวอยากให้เสี่ยแป้งเข้ามามอบตัวเพราะจะได้มาแฉกระบวนการยุติธรรมที่มันไม่ดีไม่งาม ซึ่งเป็นผลดีทุกด้านโดยเฉพาะเสี่ยแป้งถ้าตนเองบริสุทธิ์สังคมก็จะ สรรเสริญ ว่ากล้าที่จะออกมาเปิดโปงกระบวนการยุติธรรม

ส่วนเรื่องการพิจารณาคดีที่เสียแป้งได้รับโทษ แต่ผู้ร่วมกระบวนการรอดนั้น ถ้าเสี่ยแป้งมีข้อมูลก็อยากให้มาคุยกัน โดยที่จุดไหนที่เสี่ยแป้งข้องใจหรือคาใจจะได้ชัดเจน

และ ที่เสี่ยแป้งบอกว่าถ้าจับอัยการคนนึงเข้าคุกแล้วตนเองจะมอบตัวนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่เสี่ยแป้งสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้ เพื่อให้เกิดการสอบสวนและพิจารณาคดีใหม่ และถ้าพบว่าอัยการคนนั้นทำความผิดก็รับโทษไป แต่จะมาให้ดำเนินคดีเลย กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยที่ไม่มีการพิจารณาคดี เพื่อแลกกับการมอบตัวเป็นไปไม่ได้

สุดท้ายยังบอกกับทีมข่าวว่าก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าเสี่ยแป้งจะมอบตัว หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีประเด็นเรื่องการปล่อยคลิปของเสี่ยแป้ง ซึ่งน่าจะมีนัยยะบางอย่าง ไม่แน่ว่าในเร็วๆนี้อาจจะมอบตัวก็ได้ แต่ตอนนี้ก็สร้างกระแสไปก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนของคดีที่คุณร้องเรียนก็เป็นเรื่องหนึ่ง และส่วนเรื่องที่หลบหนี ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะมาต่อรองและนำมารวมกันไม่ได้

ดร.กฤษณพงค์ ชี้อัยการรอดคุกคดี เสี่ยแป้ง ส่อมีพิรุธ

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า อาจแบ่งเป็น 2 กรณี 1.กรณีการกระทำผิดของเสี่ยแป้งในข้อหาต่างๆจากการถูกจับกุม ก็ต้องพิสูจน์ว่าทำผิดจริงหรือไม่ 2.กรณีอัยการหรือใครก็ตาม หรือการที่เสี่ยแป้งบอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ในการหลบหนีออกจากโรงพยาบาลของเสี่ยแป้ง

“ก็ต้องพูดออกมาทั้งหมด ผู้มีอำนาจต้องตรวจสอบทั้งหมด หน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องก็ต้องร่วมตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงอัยการ เป็นจริงอย่างที่เสี่ยแป้งออกมาบอกหรือไม่ เพื่อให้มีความเป็นธรรม และสร้างความเชื่อมั่น ไม่ให้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างกรณีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง มีอัยการและตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง จนนายกฯขณะนั้นบอกว่าไม่โอเค นำไปสู่การรื้อคดี นำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม”

เปิดใจ ทนายความ “แป้ง นาโหนด” ขอแป้งกลับมามอบตัว เชื่อความยุติธรรมมีอยู่จริง

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปพบกับ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความกลุ่ม "ทนายใจดี" ซึ่งเป็นกลุ่มทนายความของแป้ง ได้ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองรู้สึกตกใจเหมือนกันที่ “แป้ง นาโหนด” ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล และล่าสุดเมื่อวานนี้ได้อัดคลิปเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและกลุ่มนักโทษกว่า 393 คน

ทนายชัชวาล เล่าย้อนให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเริ่มรู้จักกับ เสี่ยแป้ง เมื่อ ปี 2564 ขณะนั้น มีชาวบ้านในจังหวัดพัทลุงร้องเรียนผ่านกลุ่ม “ทนายใจดี” ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ บุกใช้อาวุธสงครามเข้ามาข่มขู่ ลูกจ้างของเสี่ยแป้ง จำนวน 2 คน ภายในพื้นที่ดินของเสี่ยแป้ง ทำให้ชาวบ้านกว่า 100 คนในพื้นที่ รวมถึงตัวเสี่ยแป้ง เกิดความไม่พอใจและได้รวมตัวกันมาร้องเรียนกับตนเอง

ก่อนที่ตนเองและเสี่ยแป้งจะเดินทางไปร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองพัทลุง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด มือปราบยาเสพติดมือหนึ่งของจังหวัด และพวก ในข้อหาร่วมกันบุกรุก และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าที่ดินของผู้อื่นโดยไม่มีหมายค้นทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ต่อมาคดีดังกล่าวมีการถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างคุยกันได้ในชั้นพนักงานสอบสวน ทำให้ตัวเองได้รู้จักกับเสี่ยแป้ง นาโหนด

กระทั่งต่อมาตนเองได้มีโอกาสเป็นทนายความให้กับเสี่ยแป้ง อีก 2 คดี ในการยื่นเรื่องขอประกันตัวให้กับเสี่ยแป้ง คือ คดีปล้นทรัพย์ชิงตัวประกัน ที่แป้งและพวก ได้บุกชิงตัว นายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด จากตำรวจภูธรภาค 8 ที่บุกจับ นายจรวด คดียาเสพติด ซึ่งตนเองก็เพิ่งทราบว่า จริงๆ คดีนี้ มีความลึกซึ้ง และผิดปกติ หลังจากที่ แป้งได้อัดคลิปตัดพ้อ ว่า ตัวเองถูกหักหลัง ติดคุกเพียงคนเดียว ทั้งๆที่ไปกับพวกประมาณ 20 คน แต่ทุกคนกลับถูกสั่งไม่ฟ้อง แป้งโดนคนเดียว รวมไปถึงคดียังไปเกี่ยวพันไปถึง อัยการรายหนึ่ง ซึ่งในฐานะทนายความ ก็อยากให้รื้อคดีขึ้นมาตรวจสอบใหม่

ส่วนคดีที่ 2 ที่แป้งต้องหา คือ คดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ซึ่งจริงๆแล้ว ศาลชั้นต้นจะมีนัดอ่านคำพิพากษา 20 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ทันได้อ่านก่อน แป้งก็หนีออกจากเรือนจำ

ตัวเองพอเข้าใจถึงเหตุผลที่เสี่ยแป้งต้องหลบหนีออกจากเรือนจำเพื่อมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง โดยที่ผ่านมา หลายครั้งตนเองได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมแป้งภายในเรือนจำ แป้งมักจะพูดกับผมเสมอว่า “อาจารย์ช่วยประกันตัวผมออกไปหน่อย อาจารย์ทำไมผมถึงไม่ได้ประกันตัวออกไป” เพราะคดีทั้งสอง คำฟ้องระบุไว้ว่า “หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว โจทย์ไม่คัดค้าน ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล” แต่ตนเองก็ไม่อยากก้าวล่วง เพราะศาลลงความเห็นว่าคดีของแป้งนั้นเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์ ทำให้แป้งมักจะบ่นตลอดถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ เหมือนตัวเองถูกกลั่นแกล้ง ถูกหักหลัง

ส่วนเหตุผลที่แป้งอยากออกจากคุก ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการออกไปแก้แค้นล้างแค้นใครทั้งสิ้น แต่มีด้วยกันทั้งหมด 2 เหตุผล คือ 1. ขณะที่แป้งจำคุกในเรือนจำ ภรรยาของแป้งท้องแก่จะคลอดลูก แป้งต้องการออกไปอยู่ดูหน้าลูกที่จะคลอดที่โรงพยาบาล แต่แป้งไม่มีโอกาส และหลังวันที่ภรรยาของแป้งคลอดลูก แป้งก็ไม่มีสิทธิ์ได้พบหน้าลูกเลยสักครั้ง

แป้งได้เจอหน้าลูกครั้งแรก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนเองจำได้ว่า วันนั้นภรรยาของแป้งได้นำลูกน้อย อายุ 1 เดือน ตัวยังแดงอยู่เลย เดินทางมาที่ศาลด้วย เวลานั้นแป้งรู้ว่า ภรรยาได้นำลูกมาด้วย ด้วยความเป็นพ่อ แป้งได้ลุกขึ้นแถลงต่อศาล ขอความเมตตาจากศาลเพื่อขอเห็นหน้าลูก ครั้งนั้น ศาลท่านได้เมตตาให้แป้งเจอหน้าลูกได้ผ่านห้องพิเศษของเรือนจำ แต่ก็เป็นครั้งเดียว

ส่วนครั้งที่ 2 ตนเองได้เข้าไปเยี่ยมแป้งบอกกับตนเองว่า ช่วยทำเรื่องขอประกันตัวให้หน่อยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แป้งบอกผมว่า ผมอยากออกไปกราบศพพ่อครั้งสุดท้าน เนื่องจากพ่อของแป้งเสียชีวิต แต่สุดท้ายแป้งก็ไม่ได้ประกันตัว

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตนเองเชื่อว่าแป้งอาจจะ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้ประกันตัวไปพบกับครอบครัว ซึ่งครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตแป้งมาก ตัวเองเชื่อว่าแป้งไม่มีเจตนาที่จะออกไปแก้แค้นใคร

ส่วนคลิปของเสี่ยแป้งที่เมื่อวานนี้มีการเผยแพร่ออกมา ตนเองก็เพิ่งทราบพร้อมกับผู้สื่อข่าว และตกใจกับเหตุการณ์เกิดที่ขึ้น ซึ่งตัวละคร ที่แป้งได้พูดชื่อในคลิป ตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่รื้อคดีมาตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าแป้งคงไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ